"รุจน์ เดอะสตาร์" "ทุนปัญญา" และ "ทุนความดี"


Appreciative Coaching

ต่อจากตอนก่อนนะครับ 

 

ผมชอบพูดถึงทุนครับ ล่าสุด ผมเล่าว่า การ Coaching ทำไปเพื่ออะไรก็บอกว่า เพื่อยกระดับทุนมนุษย์ เมื่อได้แล้ว มายก ทุนทางสังคม สุด ท้ายก็ทำให้สองตัวแรกงอกงามด้วยตัวมันเองด้วยทุนทางโครงสร้างดีๆ

 

ทุนคืออะไร ในที่นี้ ในมุมมองของผม คือการ "สั่งสม" อะไรบางอย่างครับ 

 

ยกตัวอย่างคุณศุภรุจน์ เตชะตานนท์ The Star  เป็นลูกศิษย์ของผม และทำ AI project กับกลุ่มพวกเราเป็น IS ก่อนจบ MBA 

 

ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกครับ ว่านักศึกษาที่นั่งแถวหน้า ความคิดดีๆ มาเรียนทุกครั้ง เพื่อนรักมาก ทำ IS ล่วงหน้า ก่อนคนอื่น จะกลายมาเป็นนักร้องดัง ครับ พอจะจบ IS ก็พึ่งรู้ครับ เพราะเขามาขออนุญาต 

.....................................................................

เส้นทางเดินของเขาก่อนเป็น The Star มีอะไรบ้างครับ

 

ร้องเพลงมานาน ด้วยที่บ้านสนับสนุน (ทุนทางโครงสร้าง-พ่อแม่มีนโยบายฉลาด) เลยมีทักษะ (ศุภรุจน์เลยมีทักษะ-Human Capital)

 

พอมาเรียนตรีก็เล่นดนตรี ได้พัฒนาฝีมือกับเพื่อน (Social Capital ดี) ทักษะเลยเพิ่มขึ้นอีก (Human Capital)

 

พอมาเรียน MBA ไม่เคยโฆษณาตัวเอง ตั้งใจเรียน นั่งแถวหน้า (อาจารย์รัก ได้ทุนทางสังคมไป) ทำงานก็ช่วยเพื่อน ไม่เอาเปรียบ แถมเก่ง (ได้ทุนทางสังคมอีก)

 

ปรากฏว่า ใน MBA ช่วงนั้นมีนักศึกษารุ่นพี่ เห็นแวว เลยชวน สนับสนุน เนื่องจากทุนทางสังคมดี พอผู้ใหญ่รู้ อาจารย์รู้ เพื่อนรู้ ทุกคนเลยสนับสนุน (ได้ Structural Capital)

 

เห็นไหมครับ 

............................................................................................

คนเราจะไปไกลได้ ต้องมีทุน ของอย่างนี้ไม่ได้เกิดขึ้นวันเดียว 

 

แต่ต้องจริง และดิ่งมาแต่ต้น ตลอดจนนานพอ ครับ

 

......................................................................................

สามทุนนี่รวมกันเราเรียกว่า ทุนปัญญา หรือ (Intellectual Capital) เป็นที่มาของขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือ "ความพร้อม" ครับ

 

ขอเพิ่มอีกหนึ่งทุุนนะครับ คือ ทุนครอบครัว (Family Capital) 

 

หมายเหตุ: ปรกติไม่ดู ไม่ติดตาม ทั้ง AF และ The Star ครับ ช่วยแฟนและลูกสาวลุ้นเท่านั้น จบแล้วก็ไม่ดูอีกเลยครับ  

 

คำสำคัญ (Tags): #appreciative inquiry
หมายเลขบันทึก: 356603เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2010 11:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

           แด้  ศุภรุจน์  The star  ครับ

 

          โอวาทสมเด็จพระพุทธาจารย์ ( โต พรหมรังสี )

 

          หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเจ้าเอง

         จงจำไว้นะเมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้

          ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่

         จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน

         เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างเลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า

จริงครับท่าน Small Man นี่เป็นเรื่องของบารมีเลยครับ

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่แวะเข้ามาให้ปัญญาครับ

มองเห็นระบบทุน-นิยมเลยนะครับ

มีทุนที่ดีทั้ง human social structural family และ Intellectual ครับ

มีทุนที่ดี และ เพียบพร้อม

เลยเป็นนักร้องยอดนิยม

ได้นิยามใหม่ของคำว่าว่า "ทุน-นิยม" เลยครับ...

ปล. ขออภัยนะครับ โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบรุจน์ เดอะสตาร์เพราะดูแล้วไม่ถูกชะตา เลยไม่ติดตาม

แต่เห็นข้อเขียนของอาจารย์ก็เลยกลั้นใจอ่านดู

ทำให้ได้เห็นการเติบโต และ พัฒนาการของเขาครับ น่าชื่นชมครับ

ขอบพระคุณอาจารย์สำหรับบันทึกนี้ด้วยครับ...

  • สวัสดีคะท่านอาจารย์
  • รุจน์ เดอะสตาร์เป็นต้นแบบของเยาวชนวัยรุ่นคนรุ่นใหม่
  • การจะก้าวไปได้ไกลย่อมมีทุนซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวถูกต้องที่สุดคะ
  • และได้รู้เรื่องราวในหลากหลายมุมมอง  ขอบคุณคะ...

         

ต้องมีอีกทุน ถึงยั่งยืนนะครับ

ผมว่า

อาจต้องมี

"ทุนความดี"

ครับ

ไม่งั้นก็ร่วงได้ครับ

  • อาจารย์มองเรื่องต่างๆ เป็นระบบดีจังค่ะ
  • เห็นด้วยกับทุนความดีที่สร้างสม  จะยั่งยืนยาวนานค่ะ

วันนี้ที่ไปคุยกะอาจารย์และพี่ๆ หนูได้อีก"ทุน" จากอาจารย์มาค่ะ "ทุนเวลา" ด้วย :)

จริงๆ ก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้ครับ แต่ก็น่ายกเป็นตัวอย่าง ในบางมุม

เอาเฉพาะที่เห็นๆ มากับตา

แต่ชีวิตเขาจะเป็นอะไร ต่อจากนี้ไปยากคาดเดา ก็ขึ้นกับ ทุนความดี (บุญ-กรรม) ของเขา ซึ่งนับเป็นทุนแท้จริง

คำว่าทุน นี่ก็ไม่อยากใช้

จริงๆ เป็นภาษาวิชาการครับ

อยากใช้คำว่าบุญครับ คือทำอะไรดีๆ

ทำมากๆ จึงกลายป็นบารมี

ในมุมมองของผมผมก็ไม่ชอบคำว่า ทุนนิยม ครับ

ทุนนิยม บางทีไม่สร้างสรรค์

กลายเป็นโมหะนิยม คือ อะไรก็ใช้เงินไปหมด

อันนี้น่ารังเกียจ

ผมอยากให้เป็นปัญญานิยมมากกว่า

รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี เป็นหลัก ละอายต่อบาป เห็นกระแสครับ

เพิ่งทราบ ว่า คุณรุจน์ เป็นลูกศิษย์ อ.ภิญโญ มาก่อนค่ะ น่าชื่นชมค่ะ ร้องเพลงดีขึ้นเยอะเลยค่ะ

เรียนท่านอ.ภิญโญ

...หนูติดตามเดอะสตาร์ มาตั้งแต่รุ่นแรก จนถึงรุ่น6

...แก้ม กับรุจน์ เป็นคู่แข่งกัน ก็มีลุ้นทั้งสอง แต่แก้มก็ชนะไป ส่วนรุจน์ ก็ดังกว่าในด้าน โฆษณา และวัยรุ่นหญิงกรี๊ดกว่าแก้ม

... จากอาจารย์เล่ามา ก็น่าชื่นชม ทุนความดีของน้องเขา ที่ทำให้เขา สำเร็จในวันนี้ ค่ะ

บทความนี้ เขียนตอนที่ผมเห็นเขาก่อนดัง เป็นช่วงปัญญานิยมของเขา หลังจากนั้น พอเข้าระบบทุนนิยมแล้ว ก็ตัวใครตััวมันครับ เพราะำไม่มีโอกาสได้สอนได้อบรมกันแล้ว หวังว่า่เขาจะรักษาความดี และทำให้มากๆขึ้นครับ โชคดีนะรุจน์

 

สวัสดีค่ะอาจารย์

 

* ติดตามดู The star มาตั้งแต่ รุ่นแรก เพราะเป็นคนชอบฟังเพลง แต่ไม่เคยโหวต   ฮา....

* ชื่นชมความมุ่งมั่น อดทน ฝึกฝน ฝึกซ้อม เพื่อจะไปไปให้ถึงฝัน  ซึ่งกว่าจะถึงฝั่งฝันได้นั้นเด็กเหล่านี้ต้องใช้ความทุ่มเทและเพียรพยายามอย่างมากมาย  อย่างไรก็ตามการจะเป็น The star ได้นั้นก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เป็นทุนดังที่อาจารย์ได้กล่าวไว้

* แม้ว่าเขาจะร้องเพลงได้ไม่ดีเท่าแก้ม แต่ชอบตรงที่รุจน์มีจุดยืนเป็นของตนเอง คือ การเป็นนักร้อง ไม่ยอมเป็นนักแสดงเหมือนกับ The star คนอื่นๆ  และได้ยินคำชื่นชมจากหลายๆ คน ว่าเด็กคนนี้ มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน และเสมอต้นเสมอปลาย... ซึ่งส่วนหนึ่งคงมาจากการปลูกฝังอบรมจากครอบครัว และครูบาอาจารย์ค่ะ  ซ

* ขอขอบคุณที่อาจารย์ให้เกียรติไปทักทายที่บันทึก 

* ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

 

  • อ่านแล้วน่าสนใจ ค่ะ
  • คงคล้ายการมีพื้นฐานก่อน
  • แล้ว ค่อยๆหาความรู้
  • ฝึกฝน
  • สร้างสมความชำนาญ
  • และถ้าได้สร้างคุณงามความดีด้วย ก็จะเป็นการเสริมสร้างบุญบารมี

ผมกลับมาแล้วครับอาจารย์ - - งานกองท่วมหัว

เด๋ววันจันทร์อาจารย์อยู่คณะรึเปล่าครับ จะเอางานเข้าไปให้ดูนิดนึงคับ

สวัสดีค่ะ ชอบน้องรุจน์เหมือนกันค่ะ

 น่ารักดี..เชียร์ตั้งแต่ประกวดเลยค่ะ..

น่าสนใจดีครับ อ. ขอบคุณสำหรับบทความครับ

ช่วงป. ตรี ผมได้เรียนสายสังคมมา(การจัดการการพัฒนาสังคม) ผมเลยได้มีโอกาสศึกษามาบ้างเกี่ยว ทุนทางสังคม

ซึ่งเป็นทุนที่เป็นตัวแปรในการพัฒนาตัวหนึ่งแต่คนมักจะมองข้ามมันไป....

กับแนวคิดหนึ่งที่ผมสนใจนอกจากการศึกษาความเป็นไปของระบบ"ทุนนิยม "

ยังมีสายแนวคิดเรื่อง "บุญนิยม" << ตัวนี้น่าสนใจนะครับ อ. :)

In management

, we just have had the new term namely "Creative Capitalism." It is similar concept with what you said.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท