หน้าแรก
สมาชิก
นาย วัลลภ ตังคณา...
สมุด
ครูหยุย
ชีวิตเยาวชน ต้องม...
นาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ (ครูหยุย)
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ชีวิตเยาวชน ต้องมองไปข้างหน้า
ชีวิตทีมีสุขกับธรรมชาติ
ชีวิตเยาวชน..ต้องมองไปข้างหน้า
ในโอกาสได้ไปทำหน้าที่เป็นองค์ปาฐกให้ข้อคิดแก่ผู้นำเยาวชนจากทั่วประเทศหลายต่อหลายกลุ่ม รวมกว่า 200 ชีวิตที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯเป็นแกนหลักร่วมกับคณะทำงานด้านเด็กดำเนินการขึ้นนั้น ผมได้เล่าเรื่องราวหลากหลายจากประสบการณ์ตรงที่ได้ทำงาน ได้ไปพบเห็นและได้ศึกษาค้นคว้า นำมาขยายความผนวกรวมเข้ากับชีวิตความเป็นมาของผมบางช่วง มาถ่ายทอดเพื่อเป็นบทเรียนอีกบทให้แก่เยาวชนทั้งหลายได้ทราบ จึงขอสรุปนำมาฉายซ้ำอีกครั้ง ณ ที่นี้
ในอดีตนั้น ผมเคยเป็นเยาวชนที่มีพฤติกรรมค่อนไปในทาง “เกเร” นั่นคือไม่สนใจในการศึกษาเล่าเรียน ชอบเที่ยวเตร่ยามค่ำคืนและมีเรื่องชกต่อยกับผู้อื่นอยู่เนืองๆ แต่ชีวิตผมก็ผ่านพ้นเอาตัวรอดพ้นจากคุกตะรางและพ้นจากยาเสพติดทั้งหลายทั้งปวงมาได้
เหล่านี้ไม่ใช่เพราะ “โชคช่วย” หากเนื่องด้วยผู้ใหญ่ทั้งหลาย นับเนื่องจาก “พ่อและแม่”ที่เข้าใจ หมั่นสั่งสอนและให้โอกาสในการกลับตัวกลับใจ “ครูอาจารย์”ที่เฝ้าพร่ำเตือนให้เห็นถึงผลร้ายในการมีพฤติกรรมเช่นนั้น รวมถึงเพื่อนพ้องกลุ่มใหญ่ที่ชักชวนให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องยิ่งขึ้น ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้ใหม่ เมื่อย่างเท้าเข้าสู่สถานศึกษาใหม่ในระดับมัธยมปลาย ก็เลิกเกเรไม่เที่ยวเตร่และหมั่นเพียรเรียนรู้มากขึ้น กระทั่งสามารถสอบเข้าเรียนได้ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัย ไม่ได้เพียงแต่ให้ความรู้ในสาขาวิชาครูแก่ผมเท่านั้น แต่ได้บ่มเพาะอุดมการณ์แห่งการรับใช้สังคมขึ้นในจิตใจผมทีละน้อย ด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกรั้วมหาวิทยาลัย ที่เปิดมุมกว้างทางสังคมแท้จริงให้ได้เห็น ภาพของคนทุกข์คนยาก ภาพของเด็กๆ ด้อยโอกาสที่ยากไร้ลำบาก กระตุกความรู้สึกและสร้างพลังใจ กลายเป็นความมุ่งมั่นให้ผมตัดสินใจก้าวเดินไปสู่เส้นทางของการทำงานรับใช้สังคมในทางใดทางหนึ่ง
เมื่อจบการศึกษา ผมเดินทางไปเป็น “อาสาสมัคร”ทำงานเพื่อเด็กด้อยโอกาสที่ “โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก”ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าจังหวัดกาญจนบุรี สองปีเศษที่ได้ทำงานเป็นครูอาสาสมัครอยู่ที่นั่น ก่อนจะจากมาเป็น “ครูสอนลูกกรรมกรก่อสร้าง”ด้วยการไปขอเปิดศูนย์พัฒนาเด็กตามบ้านพักคนงานก่อสร้างหลายสิบแห่งในกรุงเทพมหานคร
หลายปีต่อมา ผมและเพื่อนๆ ได้ร่วมกันก่อตั้ง “มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก”ขึ้น เพื่อจะได้ขยายงานช่วยเหลือเด็กให้กว้างขวางเพิ่มขึ้นและเน้นการทำงานเชิงรุกเข้าถึงเด็กให้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งการริเริ่มงาน “ครูข้างถนน”รุกไปช่วยเด็กเร่ร่อน การเปิด “บ้านอุปถัมภ์เด็ก”สำหรับเด็กกำพร้าและด้อยโอกาส “บ้านสร้างสรรค์เด็ก”สำหรับเด็กเร่ร่อน ผลการทำงานเหล่านี้ ต่อมาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งภายในและต่างประเทศ ด้วยการมอบรางวัลให้ เชิญไปดูงาน ไปเป็นวิทยากร ขอมาศึกษาดูงานและฝึกงาน ฯลฯ
ผลความสำเร็จต่างๆ เหล่านี้ มาจากการทำงานในเชิง “มองไปข้างหน้า”ด้วยการวิเคราะห์ให้รู้ลึกถึงอนาคตและวางแผนการทำงานให้ไกลไปถึงช่วงนั้น อีกทั้ง ต้องใฝ่เรียนรู้ ศึกษาอยู่ตลอดเวลาจากข้อเขียน หนังสือ จากผู้คนและองค์กรต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานและการปฏิบัติตน
สรุปคือต้องขยัน สู้ อดทนและยืนหยัด
ในช่วงหลังๆ สามสี่ปีที่ผ่านมานี้ ผมเริ่มพบตัวตนของตนเองเพิ่มมากขึ้นว่า การใช้ชีวิตอยู่อย่างง่ายๆ กับธรรมชาติ ลดสิ่งที่เกินจำเป็นของชีวิตลง ร่วมไปกับการทำงานเพื่อเด็กอย่างใกล้ชิดขึ้นคือความสุขที่ยั่งยืน (ประเด็นนี้เยาวชนคงเข้าใจยาก อาจต้องให้พวกเขามีประสบการณ์ชีวิตเพิ่มขึ้น)
สำหรับช่วงท้ายของการบรรยาย ผมได้ฝากข้อคิดให้พวกเขาตระหนักไว้ว่า “รางวัลหรือคำยกย่อง”ที่ผู้คนมีต่อเรานั้น ขอได้รับไว้ด้วยความภาคภูมิใจ แต่ต้องมีสติรู้เท่าทันอยู่เสมอว่า จะต้องรักษาคุณงามความดีที่กระทำและความเป็นคนธรรมดาเอาไว้ให้ได้ อย่าได้พลั้งลืมตัวไปกับการแต่เงินทอง เกียรติยศ ตำแหน่ง มิเช่นนั้นแล้ว “ชีวิตจะเสื่อมเร็ว”
...................... .....................
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ (ครูหยุย)
ใน
ครูหยุย
คำสำคัญ (Tags):
#การมองไปข้างหน้า อยู่กับธรรมชาติ เรียบง่าย
หมายเลขบันทึก: 356196
เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2010 12:28 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:51 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นาย วัลลภ ตังคณา...
สมุด
ครูหยุย
ชีวิตเยาวชน ต้องม...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท