แผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม พ.ศ. 2553 - 2561
ภูมิหลัง
โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2524 โดยแยกมาจากโรงเรียนนามลวิทยาคาร ตำบลโพนงาม อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ในขั้นแรกเป็นสาขาของโรงเรียนนามลวิทยาคาร ต่อมาในปี 2527 ได้ยกฐานะจากโรงเรียนสาขาเป็นโรงเรียนเอกเทศ โดยมีนายประจักษ์ ถินวิลัย รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่
ปัจจุบัน โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 5 ต.โคกสมบูรณ์ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ รหัสไปรษณีย์ 46130 มีพื้นที่ 5 ไร่ 1 งาน 62 ตารางวา ระยะทางจากอำเภอกมลาไสย 20 กิโลเมตร ระยะทางจากจังหวัดกาฬสินธุ์ 33 กิโลเมตร จัดการศึกษาตั้งชั้นอนุบาล 1 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2552 มีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 65 คน แยกเป็นนักเรียนชาย 29 คน นักเรียนหญิง 36 คน ครูผู้สอน 4 คน พนักงานบริการ 1 คน ครูธุรการ 1 คน
วิสัยทัศน์
“มุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคุณธรรมนำความรู้ มีจิตสำนึกในความเป็นไทย จัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่ทันสมัย พัฒนาครูสู่มารฐานอาชีพ ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการการศึกษา ”
1. พัฒนาโรงเรียนตามแนวยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษารอบ 2 คือ คุณภาพ โอกาส และการมีส่วนร่วม
2. จัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3. พัฒนาแหล่งเรียนรู้ และสนับสนุน ส่งเสริมการใช้สื่อเทคโนโลยีแห่งการเรียนรู้ และภูมิปัญญาในท้องถิ่น
4. พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และทักษะสู่มาตรฐานวิชาชีพ มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน
5. บริหารจัดการโดยใช้สถานศึกษาเป็นฐานให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาเพื่อชุมชน
1. ผู้เรียนในเขตบริการทุกคนได้รับบริการการศึกษาอย่างทั่วถึง ได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพและมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
2. ผู้เรียนทุกคนได้รับการปลูกฝังด้านคุณธรรม และสำนึกรักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3. บุคลากรทุกคนได้รับการพัฒนาความรู้ มีทักษะในการใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนมีประสบการณ์สู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
4. ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาโดยใช้สถานศึกษาเป็นฐาน และพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน
กลยุทธ์
ประถมศึกษา
3. เพิ่มโอกาสทางการศึกษาแก่ประชากรวัยเรียนทั่วถึงและมีคุณภาพ
4. พัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางศึกษา สู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง
5. พัฒนาสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพของผู้เรียนและชุมชน
6. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน ภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
แผนงานการดำเนินงาน
กลยุทธ์ที่ 1. ปลูกฝังคุณธรรม สำนึกในความเป็นไทย และวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
สู่การปฏิบัติ
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
1. โรงเรียนเป็นสถานศึกษา 3D (Democracy, Decency, Drug-free) ส่งเข้าแข่งขันระดับ สพท.
2. นักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 เข้าร่วมกิจกรรมคุณธรรมนำความรู้ กิจกรรมปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3. ผู้บริหาร และข้าราชการครูไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
4. ครูและบุคลากรในโรงเรียนทุกคน น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติจริง
กิจกรรมที่เป็นจุดเน้น
1. เข้าค่ายการเรียนรู้หลักธรรมทางศาสนาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และน้อมนำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
2. ส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ สังคมศึกษาและประชาธิปไตย
3. ส่งเสริมดนตรี นาฏศิลป์ไทยและพื้นบ้าน
3. พัฒนากิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารีในสถานศึกษา
4. เน้นการส่งเสริมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ที่ผ่านกระบวนการลูกเสือ
กลยุทธ์ที่ 2 ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาและประถมศึกษา
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ สังคมศึกษาฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ของส่วนที่เหลือ
2. ผู้เรียนทุกคนมีนิสัยรักการอ่าน และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีแห่งการเรียนรู้
3. นักเรียนระดับประถมศึกษาทุกคนอ่านหนังสือคล่องและเขียนหนังสือได้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามระดับชั้นที่เรียน ยกเว้นผู้ที่มีข้อบกพร่องในการเรียนรู้ที่ต้องได้รับการพัฒนาตามศักยภาพ
4. เด็กปฐมวัยทุกคนมีพัฒนาการทุกด้านที่เหมาะสมกับวัย
กิจกรรมที่เป็นจุดเน้น
กลยุทธ์ที่ 3 เพิ่มโอกาสทางการศึกษาแก่ประชากรวัยเรียนทั่วถึงและมีคุณภาพ
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
1. ร้อยละเด็กกลุ่มปฐมวัยที่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์ที่มีที่อยู่ในเขตพื้นที่บริการ ได้เข้าเรียนก่อนประถมศึกษาร้อยละ 100
2. นักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้งนักเรียนปกติ พิการ ด้อยโอกาสได้ศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้นร้อยละ 100
3. นักเรียนทุกคนได้สิทธิเรียนฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าชุดนักเรียน ค่ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
4. นักเรียนทุกคนได้รับการดูแล ช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาเต็มศักยภาพจนจบการศึกษาโดยใช้ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
กิจกรรมที่เป็นจุดเน้น
1. จัดทำสำมะโนนักเรียนประชากรวัยเรียนก่อนประถมศึกษา เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ได้เข้าเรียน
3. จัดสรรโอกาสให้นักเรียนทุกคนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าเรียนต่อชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน
4. สนับสนุนงบประมาณตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
5. ส่งเสริมการระดมทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มเสี่ยง และเด็กด้อยโอกาส
กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางศึกษา สู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
กิจกรรมที่เป็นจุดเน้น
กลยุทธ์ที่ 5 พัฒนาสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพของผู้เรียนและชุมชน
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
กิจกรรมที่เป็นจุดเน้น
กลยุทธ์ที่ 6 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน ภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
1. สถานศึกษามีการการกระจายอำนาจในด้านวิชาการ งบประมาณ บุคลากร และ บริหารทั่วไป สู่คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีส่วนร่วมอย่างจริงจัง
2. สถานศึกษาสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่กำหนด
3. ผู้รับบริการ ร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการให้บริการของสถานศึกษา
กิจกรรมที่เป็นจุดเน้น
1. ส่งเสริมบทบาทคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีส่วนร่วมในการระดมทุนเพื่อการศึกษาและการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา
2. บุคลากรในสถานศึกษาร้อยละ 80 มีศักยภาพในการปฏิบัติงานตามภารกิจตามแนวทางการกระจายอำนาจ
3. สถานศึกษามีความเข้มแข็ง สามารถบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานที่ยึดชุมชนเป็นหลัก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. รายงานผลการดำเนินประจำปีของสถานศึกษา เสนอหน่วยงานต้นสังกัดและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ
5. จัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศ มีครอบคลุม ถูกต้องเป็นปัจจุบันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว
6. นำเสนอ Best Practice ของสถานศึกษาเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ความมุ่งหวังและต้องการของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2553 - 2561
1. ผู้เรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน ค่ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. มีครูครบตามเกณฑ์และสอนตรงตามวิชาเอกและจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. มีบุคลากรสนับสนุนการสอนปฏิบัติหน้าที่งานธุรการ การเงิน พัสดุ และพนักงานบริการ
4. สถานศึกษามีสื่อเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ และมีห้องปฏิบัติการที่ครบสมบูรณ์
5. สถานศึกษามีสภาพภูมิทัศน์ร่มรื่น สวยงาม น่าอยู่ น่าเรียน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและทันสมัย เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพของผู้เรียนและชุมชน
6. ชุมชนมีความเข้มแข็งในการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา และมีส่วนในการบริหารจัดการการศึกษา
ไม่มีความเห็น