ปลายทางของฤดูเก็บเกี่ยว คือสัญญาณบ่งบอกว่าเข้าสู่ช่วงของฤดูกาลแห่งการเพราะปลูกอีกรอบแล้ว
มันคือวิถีชีวิตของเกษตรกรอย่างแท้จริง ที่จะรับรู้ได้โดยสัญชาติญาณของการดำรงชีวิตด้วยการเพราะปลูกพืชผักต่างๆในอดีต
แต่ในปัจจุบันวิถีแห่งการดำรงอยู่ของเกษตรกรได้ค่อยๆถูกกลืนด้วยระบบทุนนิยมและหันมาปลูกพืชในเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้มาจุนเจือครอบครัว ถึงแม้จะเข้าใจได้ในกฏข้อนี้ แต่มันก็เป็นที่มาของการปลูกพืชเชิงเดี่ยวของเกษตรกรทั่วไปที่ยังมีหวังสร้างผลกำไรกับการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ด้วยความหวังในผลกำไรที่จะได้รับจากการเก็บเกี่ยวจึงหลีกหนีไม่พ้นกระแสของทุนนิยมที่ต้องพึ่งสารเคมี เพื่อประคับประคองผลผลิต และผลกำไรที่จะได้จากผลผลิตที่เกษตรกรเพราะปลูกนั้นๆ แน่นอนว่าต้องใช้สารเคมี
เพราะระบบทุนนิยมมันเข้ามามีบทบาท นานเกินกว่าที่จะเยียวยาหัวใจของเกษตรกรให้กลับสู่หัวใจดวงเดิมเหมือนในอดีตได้โดยง่ายแล้ว
วิถีแห่งการเพราะปลูกเปลี่ยนไป ปุ๋ยเคมี สารพิษที่ใช้กำจัดศัตรูพืช เข้ามามีอิทธิพลแห่งวิถีชีวิตเกษตรกรชาวบ้านอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชีวิตเกษตรกรตกอยู่ในอันตราย ชีวิตผู้บริโภคตกอยู่ในอันตราย เพราะสารเคมีที่ตกค้างและเจือปน
ในข้างต้น ว่าไว้แล้วว่า สารเคมีเข้ามาเกินเยี่ยวยาหัวใจเสียแล้ว เพราะนั่นเป็นเหตุให้ต้องใช้สารเคมีต่อไป สารเคมีที่ใช้กันมานานนั้น เป็นตัวทำลายแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆที่มีอยู่ในดินไปสิ้นแล้ว
ไม่ได้กล่าวโทษว่าสารเคมีไม่ดีเพราะเข้าใจวิถีกฎแห่งความจำเป็น กฏแห่งการดิ้นรนเพื่อดำรงอยู่ของสถาบันครอบครัวในปัจจุบัน
โดยส่วนตัวผู้เขียนบทความนี้ มีความคิดว่าหากมีทางไหนพอจะสามารถทำให้หัวใจของเกษตรกรที่อยู่ในระบบทุนนิยมในปัจจุบันกลับมาใช้หัวใจดวงเดิมเหมือนเกษตรกรในอดีตได้ได้ ก็อยากจะทำ ปัจจุบันผู้เขียนได้ทดลองทำโครงการเกษตรปลอดสาร เพื่ออาหารปลอดภัย
เป็นแปลงเกษตรสาธิตและอยู่ในช่วงทดลอง แต่ได้เริ่มแล้ว โดยการเลี้ยงหมูหลุม เพื่อที่จะได้ปุ๋ยชีวภาพไปใช้กับแปลงผัก ทดลองปลูกผักปลอดสารให้หมูกิน ทำนาข้าวโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี และปลูกพืชสวนครัว รอบๆคอกหมูหลุม
ข้อมูลอ้างอิงจากสิ่งที่ทำ http://gotoknow.org/blog/moo-aon
หมูหลุม
หมูหลุม 10 ตัว เลี้ยงด้วยอาหาร และเสริมด้วยต้นกล้วยหมักน้ำตาล
ระหว่างเดือน มีนาคม – ตุลาคม 2553
ต้นทุน
อายุ 1 เดือน 10 ตัว / ตัวละ 700 = 7,000
หญ้าคามุงหลังคาคอกหมู 160 ไพ / ไพละ 10 บาท = 1600 ไม่รวมค่าแรง
หารหมูนม(หมูเล็ก) วันละ 4 กก. 60 วัน 240 กก. = 8 กระสอบ ราคากระสอบละ 680 บาท = 5440 ใช้จริง 6 กระสอบ 3400 บาท เสริมแกลบและผักไปด้วย
อาหารหมูรุ่น 8 กระสอบ ราคากระสอบละ 520 (ราคาปัจจุบัน ) = 4160 บาท วันละ 4 กก. เช้า 2 กก. เย็น 2 กก. เสริมต้นกล้วยหมักน้ำตาล 3 วันต่อต้นกล้วยหมักหนึ่งต้น
อาหารหมูใหญ่ 8 กระสอบ กระสอบละ 750 = 6000 บาท วันละ 4 กก. เสริมต้นกล้วยหมัก
น้ำตาล กก.ละ 30 บาท ใช้ทั้งหมด 40 กก. ต่อ 4 เดือน = 1200 บาท
อื่น ๆ
ค่าอาหารหมูใหญ่ ช่วงรอยต่อ 2 กระสอบ 1500 บาท
ต้นทุนรวมประมาณ 23660บาท
บัดนี้ถึงช่วงเวลาแห่งการเพราะปลูกเวียนมาถึงอีกรอบแล้ว
การกระทำทุกอย่างล้วนต้องมีการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นแรงกาย ความคิด เงินทอง ก็เป็นการลงทุนทั้งสิ้น การลงทุนด้วยเงินทองย่อมมีวันหมดเป็นธรรมดา เช่นเดียวกันกับงบของผู้เขียนที่ได้หมดไป
ดังนั้นบทความนี้ที่เขียนขึ้นมาจากใจผู้เขียนมีความประสงค์จะระดมทุนขอรับบริจาคในส่วนของเมล็ดพันธุ์ผักที่จะใช้ปลูกในแปลงเกษตรสาธิตเพื่อเป็นต้นแบบให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงหมูหลุม ปลูกผัก และ ทำนา
เมล็ดพันธุ์ผักที่ต้องการ จะเป็นผักต่างๆที่บุคคลทั่วไปใช้บริโภค เช่น ผักกาดหัว กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง คะน้า ผักกาด ผักชี ต้นหอม ถั่วฝักยาว พริก มะเขือ ฟักทอง แตงกวา และผักอื่น ๆ และในนี้อาจจะรวมทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิด้วย ที่ใช้ต้นทุนสูงอยู่พอสมควรเพราะต้องใช้ในการเพราะปลูกในนาข้าวครั้งนี้ประมาณ 50 กิโลกรัม
หากท่านใดมีความประสงค์จะบริจาคเมล็ดพันธุ์ผัก,และเมล็ดพันธุ์ข้าว ผู้เขียนขอแสดงความซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง
และจากใจผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันจะสำเร็จในวันข้างหน้านี้ ขอบคุณทุกๆหัวใจที่แบ่งปัน ขอบคุณทุกธารน้ำใจที่ช่วยเหลือ
ที่อยู่ในการจัดส่ง
นายพินิกรณ์ คำภีระ (หมูอ้วน ณ บ้านนอก )
มูลนิธิกระจกเงาสำนักงานเชียงราย
เลขที่ 106 หมู่1 บ้านห้วยขม ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย 57100
Email : [email protected] ,[email protected]
โทรศัพท์มือถือ 081-0332310
ด้วยจิตคารวะทุกๆธารน้ำใจอย่างสุดซึ้ง
หมูอ้วน ณ บ้านนอก
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากๆครับ ครูคิม