(ผู้เขียนกับเมตาลี่ราคา 800 บาท แต่ดันเล่นแบบกีตาร์ซะงั้น)
เมตาลี่เครื่องดนตรีประเภทดีดของกะเหรี่ยงโปว์ มีรูปร่างคล้ายเมนโดลิน แต่มีหกสายเหมือนกีตาร์ แต่เมตาลี่จะมีขนาดเล็กกว่า เป็นเครื่องดนตรีสมัยใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในดนตรีของกะเหรี่ยงในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นเครื่องดนตรีที่มีรูปแบบอย่างตะวันตก แต่เมื่อเครื่องดนตรีชนิดนี้เข้าสู่วัฒนธรรมกระเหรี่ยงทั้งทำนองเพลงและวิธีการเล่นก็เป็นแบบเฉพาะกลายเป็นเอกลักษณ์ของตนในที่สุด และได้รับความนิยมในกลุ่มชาวกระเหรี่ยงอย่างรวดเร็ว
ลักษณะทางกายภาพของเมตาลี่
วัสดุที่ใช้ก็มีทั้งส่วนที่เป็นไม้ โละ และพลาสติก สามารถแยกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนหัว คอ และตัว โดยมีส่วนประกอบต่าง ๆ ดังนี้
1.1 ลูกบิด ซึ้งมีทั้งหมด 6 อัน ตามจำนวนของสาย มีหน้าที่เอาไว้เพื่อยึดสาย และปรับหมุนตึงสายตามระดับเสียงที่ต้องการ
2. คอ ประกอบไปด้วย
2.1 สะพานรองส่วนคอ มีทั้งที่ทำจากโลหะและพลาสติก มีไว้เพื่อวางพาดสาย และแบ่งระยะห่างของสาย
2.2 เฟร็ต ทำจากโลหะ เพื่อแบ่งช่องบนคอและกำหนดระดับเสียงต่าง ๆ
2.3 จุดมาร์ค มีทั้งหมด 5 จุดบนคอกีตาร์ จุดที่หนึ่งอยู่บริเวณช่องที่ 2 จุดที่สองอยู่ช่องที่ 5 จุดที่สามช่องที่ 7 จุดที่สี่อยู่ช่องที่ 9 จุดสุดท้ายอยู่ช่องที่ 12
2.4 สาย มี 6 สาย ยึดจากส่วนตัวเมตาลี่พาดเลยผ่านคอไปจนถึงหัว
3. ตัวเมตาลี่ ทำจากไม้ พบในสองลักษณะคือ 1.ประกบด้วยไม้อัดทั้งสองด้านคือหน้าและหลังประกบเข้าด้วยกัน 2. ไม้เนื้อแข้งคว้านด้านใน ซึ่งเมตาลี่ประเภทนี้ให้ความคงทนมากกว่าแบบแรกแต่อาจจะมีราคาแพงกว่านิดหน่อย ส่วตัวเมตาลี่ประกอบด้วย
3.1 สะพานยึดสายส่วนล่าง ทำจากโลหะ ทำหน้าที่ยึดสายจากส่วนทายของเมตาลี่
3.2 สะพานรองสาย มีไว้เพื่อวางพาดสายบนตัวเมตาลี่ และแบ่งระยะห่างของสาย
3.3 กล่องเสียง ขยายเสียงทำให้เสียงดังกังวาน
การตั้งสายของเมตาลี่
และเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจและผู้เขียนเห็นว่าการตั้งสายของเมตาลี่นี้มีความใกล้เคียงกับการตั้งสายกีตาร์อยู่มากจึงขอเปรียบเทียบดังนี้
กีตาร์ เมตาลี่
สาย 1 E E
สาย 2 B B
สาย 3 G E
สาย 4 D B
สาย 5 A A
สาย 6 E E
จะสังเกตเห็นว่าการตั้งสายแบบมาตฐานของกีตาร์กับเมตาลีต่างกันเพียงสองสาย คือ สาย 3 และ 4 การ
ตั้งสายของเมตาลี่คิดเป็นขั้นคู่ได้ดังนี้
สาย 1 ไปสาย 2 เป็นขั้นคู่ 5
สาย 2 ไปสาย 3 เป็นขั้นคู่ 4
สาย 3 ไปสาย 4 เป็นขั้นคู่ 5
สาย 4 ไปสาย 5 เป็นขั้นคู่ 7
สาย 5 ไปสาย 6 เป็นขั้นคู่ 5
วิธีการบรรเลง
การดีดของมือขวานั้นใช้นิ้วเพียงสองนิ้วคือ นิ้วโป้ง และนิ้วชี้ เป็นการดีดแบบพักสาย (rest strok) โดยให้เสียงที่คมชัดมากกว่าการดีดแบบผ่านสายธรรมดา(free strok) นิ้วโป้งจะทำหน้าที่เล่นโน้ตในแนวเบสบนสาย 6 และ 5 นิ้วชี้เล่นแนวทำนองของเพลง ส่วนมือซ้ายที่กดสายนั้นใช้เพียงสามนิ้วคือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง
ไม่มีความเห็น