เตือนใจ เจริญพงษ์
โชคดีจังที่ได้รับบทความ เรื่อง... "อะไรคือการก่อการร้าย"
ของ ท่านสราวุธ เบญจกุล
รองเลขาธิการ สนง. ศาลยุติธรรม
ขอบพระคุณเจ้าของบทความนี้เป็นอย่างสูง
เลยนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันคะ
อ่านหน่อยนะคะ
เราจะได้ไตร่ตรอง.... เรื่องราวร้อนๆที่เกิดขึ้นได้ครบถ้วนทุกมิติ
เนื้อหาค่อนข้างยาว แต่ก็เป็นความรู้ที่สำคัญและได้ประโยชน์มาก
...............................................................................................
.....การก่อการร้ายเป็นอาชญากรรมที่มีมานานแล้ว
เพียงแต่ มีการพัฒนารูปแบบ และ วิธีการ
ให้มีความร้ายแรงมากยิ่งขึ้น
ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
ที่ไม่จำกัดอยู่แต่เพียงกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบเพียงกลุ่มเดียว
แต่อาจเกิดผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง
เพราะการก่อการร้ายไม่จำกัดอยู่เพียงอาณาเขตของรัฐใดรัฐหนึ่ง
................................................................................................. อาจกล่าวได้ว่า.....
การก่อการร้ายเป็นการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมาย
ที่เกิดขึ้นได้โดยไม่จำกัดรูปแบบและผลที่เกิดขึ้น
ซึ่งแตกต่างจากการกระทำความผิดทั่วๆไป
ที่เมื่อกล่าวถึงแล้ว
คนอาจเข้าใจในความหมายของการกระทำได้โดยทันที
เช่น การลักทรัพย์ หรือ การทำร้ายร่างกาย เป็นต้น
................................................................................................
.... ผู้ก่อการร้าย
อาจใช้วิธีการที่แตกต่างกันไปในการก่ออาชญากรรม
เช่น
...การวางระเบิด
....การใช้อาวุธเคมี
....การลอบสังหารบุคคลสำคัญ
หรือ...การจี้เครื่องบินพุ่งเข้าชนอาคาร
ดัง เหตุการณ์ 9-11 ที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา
.............................................................................................
แต่การกระทำของผู้ก่อการร้ายก่อให้เกิดผลเหมือนกัน
คือ ...มีการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิต
และ ก่อให้เกิดความไม่สงบสุขขึ้น
................................................................................................
เพื่อป้องกัน และ ปราบปรามปัญหาที่เกิดขึ้น
เมื่อ พ.ศ. 2546 ......
มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
กำหนดให้..การก่อการร้ายนั้นเป็นความผิดทางอาญา
ที่ผู้กระทำต้องรับโทษตามกฎหมาย
โดยบัญญัติถึงความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายไว้ในลักษณะ 1/1 มาตรา 135/1 ถึงมาตรา 135/4
................................................................................................
ความผิดฐานก่อการร้าย
ผู้กระทำผิดต้องมีเจตนาพิเศษ
โดยมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญ
หรือ.... บังคับรัฐบาลไทย
....รัฐบาลต่างประเทศ
หรือ...องค์การระหว่างประเทศ
ให้กระทำหรือไม่กระทำการใด
...อันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
หรือ เพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัว
ในหมู่ประชาชน .....โดยกระทำการดังต่อไปนี้
...............................................................................................
(1) ใช้กำลังประทุษร้าย
หรือ กระทำการใดอันก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
หรือ อันตรายอย่างร้ายแรงต่อร่างกาย
หรือ เสรีภาพของบุคคลใดๆ
.................................................................................................
(2) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
แก่ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม
หรือ โครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ
................................................................................................
(3) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน
ของรัฐหนึ่งรัฐใด หรือของบุคคลใด
หรือ ต่อสิ่งแวดล้อม อันก่อให้เกิด
หรือ น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ
การกระทำความผิดฐานก่อการร้าย
มีอัตราโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต
หรือ จำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 20 ปี
และ ปรับตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท
.................................................................................................
แต่มี....เหตุยกเว้นไม่เป็นความผิดฐานก่อการร้าย
ถ้าเป็นการกระทำในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง โต้แย้ง
หรือ เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือ
หรือ ให้ได้รับความเป็นธรรมอันเป็นการใช้เสรีภาพ
...........ตามรัฐธรรมนูญ
ซึ่งต้อง.....เป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ
และปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 .....นั่นเอง
.................................................................................................
ความผิดอีกฐานหนึ่ง....
เป็นการกระทำในลักษณะที่เป็นการ
(1) ขู่เข็ญว่าจะกระทำการก่อการร้าย
โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า
....บุคคลนั้นจะกระทำการตามที่ขู่เข็ญจริง
...............................................................................................
หรือ
(2) สะสมกำลังพล หรือ อาวุธ จัดหา
หรือ รวบรวมทรัพย์สิน ให้ หรือ รับการฝึกการก่อการร้าย
ตระเตรียมการอื่นใด
หรือ สมคบกัน เพื่อก่อการร้าย
หรือ กระทำความผิดใดๆ
อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย
หรือ ยุยงประชาชนให้เข้ามีส่วนในการก่อการร้าย
หรือ รู้ว่ามีผู้จะก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปก
ปิดไว้
การกระทำความผิดฐานนี้
มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 10 ปี
และ ปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท
.................................................................................................
ประมวลกฎหมายอาญา...
ยังได้บัญญัติ....
ให้ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดทั้งสองฐานข้างต้น
จะต้องรับโทษเช่นเดียวกับตัวการที่เป็นผู้กระทำความผิดด้วย
................................................................................................
นอกจากการกระทำข้างต้นแล้ว
ประมวลกฎหมายอาญา
ยังถือว่า........เป็นการก่อการร้ายด้วย หากปรากฏว่าบุคคลใด
ได้เป็นสมาชิกของคณะบุคคล ซึ่งมีมติ...
ของ ..หรือ ..
ประกาศภายใต้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
กำหนดให้...เป็นคณะบุคคลที่มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้าย
และ....
................................................................................................
รัฐบาลไทย ....ได้ประกาศให้ความรับรองมติหรือประกาศดังกล่าวด้วย
แล้ว ....การกระทำผิดดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
และปรับไม่เกิน 140,000 บาท
...............................................................................................
ผู้กระทำความผิดฐานก่อการร้าย
อาจต้องรับโทษในความผิดฐานอื่นด้วย
หากเป็นการกระทำที่มีกฎหมายอื่นบัญญัติไว้เป็นความผิด
เช่น..........
หากเป็นการก่อการร้าย...โดยคณะบุคคล
ซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการ
และ มีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย
ไม่จำกัดว่าจะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆหรือเป็นองค์กรขนาดใหญ่
บุคคลที่เป็นสมาชิกของคณะบุคคลหรือองค์กรเพื่อก่อการร้ายนั้น
.................................................................................................
ถือว่า....ได้กระทำความผิดฐานอั้งยี่ด้วย
และอาจต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
และปรับไม่เกิน 14,000 บาท
................................................................................................
ความผิดฐานก่อการร้ายเป็นภัยร้ายแรง
และมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย
ความมั่นคงของประเทศ
.................................................................................................
ในต่างประเทศเองก็มี....
การบัญญัติกฎหมายให้การก่อการร้ายเป็นความผิด
เช่น ....
...............................................................................................
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภายหลังจากเหตุการณ์ 9-11
มีการออกกฎหมาย....
ให้อำนาจรัฐในการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้าย
ที่เรียกว่า
.................................................................................................
“Uniting and Strengthening America by Providing Appropriate Tools Required to Intercept and Obstruct Terrorism Act of 2001” หรือ “USA PATRIOT Act”
.................................................................................................
ที่มีสาระสำคัญ....
ในการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ
....มีอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริงอันอาจนำไปสู่การก่อการร้าย
เช่น....
..... การดักฟังโทรศัพท์
.......การเข้าถึงข้อมูลทางอิเลกทรอนิกส์
ซึ่งตามปกติถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นต้น
.............................................................................................
แต่เนื้อหาของ “USA PATRIOT Act”
ในบางส่วนจะมีระยะเวลาสิ้นสุด
ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย
และเป็นเนื้อหาส่วนที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล
จึงต้อง....มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือขยายระยะเวลาบังคับใช้
เมื่อพ้นกำหนดเวลานั้น
................................................................................................
ที่เรียกว่า “sunset provision”
ซึ่ง “USA PATRIOT Act”
ได้มีการขยายระยะเวลาบังคับใช้ไปเมื่อปี ค.ศ. 2005 และ 2006
จะครบกำหนดที่ต้องมีการขยายอีกครั้งในปี ค.ศ. 2010
...............................................................................................
ดังนั้น.....
ความผิดฐานก่อการร้าย
กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม
ตลอดทั้งภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยและความสงบสุขของ
ประเทศและสังคมโดยรวมให้มีประสิทธิภาพ
................................................................................................. เมื่อมีการกล่าวหา และ ฟ้องร้องต่อศาล
ว่า...มีการกระทำความผิดฐานก่อการร้าย
ศาลยุติธรรม....
ซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาดังกล่าว
จะใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวง
ศาลจะไม่พิพากษาลงโทษ
จนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทำความผิดจริง
และจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนั้น
เพื่อเป็นหลักประกันการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
...............................................................................................
จบแล้วคะ....
ก็ว่ากันตามตัวบทกฎหมาย
แต่สถานการณ์นี้รัฐบาลคงต้องหากุศโลบายหลายชั้นหลายเชิงมาแก้
เพื่อให้บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปรกติโดยเร็วด้วยเถอะ
ขอบคุณมากคะสำหรับบันทึกที่มีสาระมากมายเช่นนี้
เป็นบันทึกที่มีคุณค่า ความรู้ใหม่ๆ ขอบคุณค่ะ
มาร่วมด้วยช่วยกัน ภาวนา แสดงเจตนารมย์ ใฝ่ความสงบ และสันติ ค่ะ
เป็นบันทึกที่มีสาระมากค่ะ ได้ความรู้ใหม่ๆ มากเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
สวัสดีค่ะครูอ้อย
ปีใหม่นี้หนูขออวยพรให้ครูอ้อยจงมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปนะคะความจริงแล้วประเพณีสงกรานต์นี้เป็นประเพณีที่ควรรักษาไว้เพราะเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยรักประเพณีขนบธรรมเนียมประเพณีไทยไว้เลย คุณครูว่าเหมือนหนูมั็ยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับ แล้วสิ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงทำ คุณคิดว่าเป็นการก่อการร้ายเปล่าแล้วหรือยัง?
และที่สำคัญอีกอย่างคือการก่อการร้ายแม้ยังไม่สำเร็จก็ถือได้ว่าเป็นการก่อการร้ายได้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่ากำลังกระทำในสิ่งที่เรียกได้ว่าก่อการร้าย เหมือนการก่อไฟ ไฟจะดิดหรือไม่ติด ถ้าเริ่มก่อก็ถือว่าก่อไฟ