กายใจไม่ใช่ตัวตนบังคับไม่ได้ ประสบการณ์การดูจิตเพื่อฝึกสติ19 อยู่วัดช่วงสงกรานต์ ทำไมปฏิบัติธรรมแล้วแก้ปัญหาทางโลกไม่ได้


18-4-53

ดิฉันมาฝึกสติที่สวนสันติธรรมในช่วงเมษ.ค่ะ   ครั้งนี้หลวงพ่อสอนทั้งศีล สมาธิและปัญญาและสอนการดูสภาวะ  ดิฉันรายงานตัวเองจิตมีวิตกกังวลมากเพราะกำลังจะลดงานที่เคยทำลงทำให้จิตฟุ้งซ่านแต่พยายามรู้กายรู้ใจไป    ส่วนการบริกรรมดิฉันก็ชอบลืม    ท่านให้ทำต่อไป   ในวันอาทิตย์ดิฉันถามถึงการอ่านหนังสือธรรมะที่ดิฉันชอบอ่านมากและอ่านได้นาน   มีโอกาสเกิดสัมมาสมาธิหรือไม่  ท่านบอกว่าไม่มีเพราะเป็นการคิด ( คงเหมือนคนอ่านและรู้ทุกอย่างแต่ทำไม่ได้ )

มีคนรายงานสภาวะดีบ้างไม่ดีบ้าง  บางคนสอนคนอื่นแต่มีปัญหาชีวิตก็ไม่สามารถแก้ได้     ท่านปลอบว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าทำให้ทุกข์น้อยลงแต่ไม่ใช่แก้ปัญหาทางโลกเพราะเป็นคนละเรื่อง

   แต่การมีสติ   มีปัญญาทำให้เราคิดออกถึงทางแก้ปัญหาทางโลก     ปัญหาทางโลกบางทีก็แก้ไม่ได้     บางทีไม่ทำอะไรมันก็แก้เองได้เพราะทุกอย่างเป็นอนัตตา      แต่ธรรมะทำให้เราอยู่กับโลกได้

 (คงเหมือนดิฉันต้องอยู่กับเสื้อแดงเสื้อเหลืองและเสื้อเขียว )

ในกลางคืนวันเสาร์ พระป๋องมาถามข่าวคราวญาติๆที่บ้าน   ซึ่งบางคนก็ดี บางคนพ่อแม่ก็เป็นทุกขฺกับลูกๆที่สร้างปัญหาไม่จบสิ้น

 ดิฉันแจ้งพระป๋องว่าโยมแม่ตั้งใจจะพาญาติๆและคนรู้จักมาหัดรู้กายใจเพื่อให้เกิดปัญญามากขึ้น   ( เพิ่งปลอบใจลูกน้องที่สามีที่รักแอบมีกิ๊กจนเธอทำใจได้ค่ะ  )

 มีบางคนอยากให้ธรรมะคนในศาสนาอื่น   ท่านเตือนศาสนาเป็นเรื่องใหญ่และsensitive มากๆ    ไม่ควรไปชักชวนคนศาสนาอื่น    แต่ถ้าจะสอนให้คนอื่นๆหัดรู้จิตรู้กายโดยไม่เอ่ยถึงศาสนาก็ไม่เป็นไปค่ะ  ( ดิฉันมีประสบการณ์ที่ศาสนาทางญี่ปุ่นมาชวนให้คนในสถาบันบำราศไปญี่ปุ่นโดยเสียเงินน้อยลงแต่ต้องหัดสวดบทสวดมนต์    ดิฉันทราบข่าวด้วยความไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่กล้าห้ามค่ะ  )

 วันเสาร์ที่สวนสันติธรรมมีน้องๆมาสกิด     หนูอ่านบล็อกพี่โดยไม่รู้จักว่าใคร ทำให้ไปถามหาพระป๋องคนใหน      ดิฉันดีใจที่มีมิตรรักในบล็อก    ถึงแม้เราอายุต่างกันมากค่ะ  

                                  

   ( หลวงพ่อไม่ให้ถ่ายรูป   ขออนุญาติถ่ายตัวเองแทนค่ะ  )

 

ทราบข่าวจากพระป๋องว่าหลวงพ่อไพศาลมาเยี่ยมที่นี่และพระป๋องแนะนำโยมแม่ให้ไปสมัครเรียนเรื่องการเตรียมตัวตาย      ดิฉันคงหาจังหวะไปตามคำแนะนำของลูกค่ะ

ดิฉันอยากทราบเรื่อง จิตก่อนตาย  ก่อนเกิด  การทำอย่างไรจะตายโดยไม่ทุกข์ 

ในระยะหลังๆพอดูจิดดูกาย ทำให้นึกถีงช่วงที่เราต้องตายคนเดียว     เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้      ไม่มีคุณชัยณรงค์ที่คอยช่วยดิฉันในช่วงมีชีวิตอยู่ทำให้รู้สึกตั้งใจฝึกสติมากขึ้นและห่วงคนรอบข้างน้อยลง  

 แต่ในช่วงที่อยู่  อะไรที่ควรทำก็ต้องรีบทำเพราะชีวิตเป็นของไม่แน่นอน ค่ะ

หมอภาาวิต ปุญญฤทธิ์ รองผอ.รพ.เมโย  น้องรักของดิฉัน  ( เป็นคนที่เอาหนังสือท่านพุทธทาสมาให้ดิฉันอ่านเมื่อ30ปีทีผ่านมาเพราะเธอเป็นบุตรชายอจ.สมทรง  ปุญญฤทธิ์   ศิษย์ท่านพุทธทาส  )เคยบอกดิฉันว่าคนอายุ 60-70 ปี  20%ตาย    อายุ70-80   50%ตาย  (ตัวเลขไม่ยืนยันนะคะ )   พี่อัจจะรู้ได้อย่างไรว่าจะไม่เป็นเรา      พร้อมกับเล่าเรื่องน้าชายทีไม่สนใจธรรมะแต่พอใกล้ตายก็มาขอพี่สาวอ่านหนังสือธรรมะก่อนตาย   ดิฉันฟังแล้วก็เอามาเตือนใจค่ะ

เรื่องที่เขียนบันทึกอาจจะไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกใจใคร   อ่านแล้วขอให้ทราบว่าผู้เขียนมีเจตนาบันทึกความจำเพื่ออ่านและแสดงความตั้งใจของตัวเองเท่านั้นนะคะ   

หมายเลขบันทึก: 352404เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2010 15:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีค่ะอ.หมอ

อ่านบันทึกนี้แล้วทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับการฝึกดูกายดูจิตหลายเรื่องราวค่ะ

ส่วนตัวไม่เคยไปสวนสันติธรรม ได้แต่อ่านหนังสือของท่าน ... ซึ่งก็ได้ทราบว่า ไม่ทำให้เกิดสัมมาสมาธิ เพราะเป็นเรื่องของ "การคิด"

ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ

(^___^)

ขอบคุณ คนไม่มีรากเข้ามาทักทายค่ะ

สิ่งที่เขียนก็เล่าไปตามที่คิดและจำได้ แต่ไม่มีเวลาไปตรวจสอบความถูกต้องทางปริยัติค่ะ

ทางปริยัติ หมอใช้หนังสือของ อจ.นพ. สมพนธ์ บุณยคุปต์ ผอ. โรงพยาบาลวิชัยยุทธ์ เขียนในหนังสือ พุทธศาสนา สัจธรรมแห่งชีวิตที่ปัญญาชนควรรู้ หมอซื้อแจกลูกน้องไปหลายสิบเล่มเพราะชอบมากเนื่องจากอ่านหนังสือพุทธธรรม เข้าใจยากและต้องใช้เวลามากค่ะ ส่วนหนังสือหลวงพ่อปราโมทย์ต้องฝึกปฏิบัติแล้วไปอ่านจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ

พอหัดฝึกสติทำให้รุ้นิสัยที่ดีและไม่ดีของตัวเองมากขึ้นค่ะ ทำให้มานะน้อยลงค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • อ่านบันทึกของคุณหมอแล้ว  ทำให้ได้ทราบวิธีการจัดการความคิด  และเข้าใจระหว่างการอ่านหนังสือธรรมะกับการปฏิบัติค่ะ
  • ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ  ขอขอบพระคุณค่ะ
  • และถือโอกาสมาชวนคุณพี่หมอไปร่วมกิจกรรมกับเด็ก ๆ ค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/publicmindkim/353781

ขอบคุณ ครูคิมที่มาเยี่ยมค่ะ

หมอจะร่วมทำบุญด้วยนะคะ แต่อาจจะไม่สดวกที่จะไปร่วมงานเพราะยังมีเวลาน้อยค่ะ

อนุโมทนาบุญที่ครูคิมได้อุทิศให้สังคมเสมอมานะคะ

จะติดตามผลงานตามเวลาที่พอมีค่ะ

ให้กำลังใจเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพี่หมอพ.ญ. อัจฉรา เชาวะวณิช

  • ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
  • ที่ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมนี้เพื่อเด็กขาดแคลนและเป็นกำลังใจให้กับคนทำดี
  • หากได้รวบรวมรายละเอียดจากผู้อำนวยการแล้ว จะแจ้งผ่านบันทึกอีกครั้งค่ะ
  • กำลังคิดว่าจะจัดทำเสื้อออกจำหน่าย  เพื่อเป็นทุนสำหรับครั้งต่อไปค่ะ
  • ขอให้คุณพี่หมอมีความสุขยิ่ง ๆขึ้นไปนะคะ
  • คุณหมอครับ
  • ดีใจด้วยครับที่ได้ไปปฎิบัติธรรม
  • สวนร่มรื่นและสะอาดดีนะครับ
  • การฝึกใจเป็นสิ่งสำคัญจริงๆๆนะครับ

ขอบคุณอจ.ขจิตที่แวะมาทักทายค่ะ

หัดรู้หัดดูเท่าที่ทำได้ค่ะ

หลวงพ่อท่านว่าคนมีอายุ สอนยากเพราะหลงง่ายค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ

     สนใจเรื่อง  การเตรียมตัวก่อนตายค่ะ แล้วคุณหมอเอามาเล่าในblog นะคะจะคอยติดตามค่ะ

    ครูเตือนมีธรรมะมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ค่ะ

ธรรมะจากหลวงพ่อสนอง .."คนมีธรรมะ คือ คนที่รู้ว่าตัวเองโกรธ และเลี่ยงความโกรธได้...คนมีธรรมะ คือคนที่ รู้ว่าตัวเองโลภ และพยายามตัดความโลภได้..เช่น

ซื้อหวยหลัก สิบ หลักร้อย  เพื่อหวังจะถูกหวย เป็น พันเป็นหมื่น  ก็เพราะโลภ  ทั้งๆที่เข้าวัดเป็นประจำ  หากยังซื้อหวยอยู่ก็แปลว่า ยังโลภอยู่....." คนเช่นนี้ไม่ถือว่ามีธรรมะ

ขอบคุณครูเตือนที่นำธรรมะมาฝากกันค่ะ

คนเรา รู้ทุกอย่างแต่ทำไม่ได้เพราะขาดสติและไม่มีศีลกำกับ

การเข้าวัดก็ไม่ประกันว่าจะเกิดปัญญา คงต้องพยายามรักษาศีลและฝึกสติในชีวิตประจำวัน พอมีปัญญา โกรธและโลภคงน้อยลงเองค่ะ

กาย จิต สังคม หากไปด้วยกัน ก็ สุดเยี่ยมเลยท่านพี่ จะได้ไม่เหวง นิ

พยายามให้ไปด้วยกัน ทั้ง กาย จิต สังคมค่ะ

แต่มันก็ ไม่ค่อยได้ค่ะ โหวงบ้างเหวงบ้างตามกิเลส

ขอบคุณอาจารย์ JJ ที่มาเยี่ยมค่ะ

ขอบคุณอ.หมอค่ะ

ให้มุมคิดดีจังเลย

ขออนุญาตแลกเปลี่ยนนะคะ

เมื่อนึกถึงว่าเกิดมามีอะไรม เกิดตัวเปล่า คนเดียว

เพราะเคยมีกรรมร่วมกันมา

เมื่อเติบโตตามอายุกิเลสแทรกซึมทุกลมหายใจ

เพราะไม่รู้จริง จึงปล่อยให้มันเกิด คิดว่าสุข

นานวันอัตตาหนาขึ้น มานะก็แรง

อัตตายังพอคุมได้ ขจัดได้

ด้วยฝึกเห็นความสำคัญของผู้อื่นบ่อยๆ

แต่มานะนี่ยากจริงๆ ตัดไม่ขาด มันมักแอบมาให้ผยอง

กว่าจะได้สติ ก็สายไปแล้ว ตามมันไม่ค่อยจะทันค่ะ

ไม่ทราบว่าเพราะวาสนาเก่ามันแรงหรือไง

จึงอยากหาโอกาสไปเรียนรู้ชีวิตก่อนตาย

บางทีอาจช่วยให้มานะอ่อนตัวลง

ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดี ครับ คุณหมออัจฉรา

ผมอ่านบันทึกของคุณหมอแล้ว...ทำให้สัมผัสจิตวิญญาณของความจริงแท้แน่นอน

...

จิตก่อนตาย ก่อนเกิด การทำอย่างไรจะตายโดยไม่ทุกข์

ในระยะหลังๆพอดูจิตดูกาย ทำให้นึกถีงช่วงที่เราต้องตายคนเดียว เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้...

..

พระป๋อง ...ท่านบวชนานมากเลย นะครับคุณหมอ

ทุกครั้งที่คุณหมอเล่าเรื่องของท่าน ...ผมก็พลอยรู้สึกอิ่มในบุญในกุศลไปด้วย

....

เข้ามากราบสวัสดี คุณหมอ ด้วยความรักและเคารพ ครับ

 

 

สวัสดีค่ะ ครูต้อยติ่ง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมและนำธรรมะมาฝากค่่ะ

มีเวลาจะแวะไปเยี่ยมนะคะ

ขยันดู ขยันรู้ ตามจริตที่เป็นไปตามธรรมชาตินะคะ

อนุโมทนาด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณแสง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ

พระยังไม่สึกค่ะ

หมอพยายามฝึกสติเพราะรู้สึกช่วงเวลาเรามีน้อย แต่ไม่ค่อยพัฒนาเพราะรู้สึกยังหลงกับโลกมาก ผิดศีลบ่อยๆโดยเฉพาะข้อ 4 ค่ะ การดูจิต ดูกายก็หลงนาน

ติดตามงานคุณแสงเท่าที่มีเวลาด้วยความชื่นชมค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ

น่าสนใจมากเลย คงต้องลองศึกษาดูบ้างแล้วค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท