398 งานสงกรานต์ชาวพุทธอินเดีย


ปีใหม่ชาวพุทธ

 

 

มหาโพธิสมาคม เดลี

 

 

ร่วมงานสงกรานต์ชาวพุทธอินเดีย

วันที่ 14 เมษายน 2553 ผมได้รับเชิญจากมหาโพธิสมาคม ณ กรุงเดลี Maha Bhoti Society ให้ไปร่วมงานฉลองปีใหม่ของชาวพุทธเบงกาลี ณ ที่ทำการสมาคม ซึ่งอยู่ติดกับวัดลักษมีนารายันวัดฮินดูที่มีชื่อเสียงโด่งดังในความศักดิ์สิทธิ์ ในงานมีชาวพุทธเบงกาลี พระจากอินเดีย ศรีลังกาและบังกลาเทศมาร่วมงานประมาณ 50 คน  โดยเฉพาะพระจากอินเดียได้แก่สังฆราชท่านสัตยาปาละ คณบดีจากมหาวิทยาลัยเดลี มาเป็นประธานในพิธี

พิธีเริ่มจากการสงฆ์น้ำพระพุทธรูป จากนั้นไปสักการะและรดน้ำต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์และไปทำพิธีในโบสถ์ มีการสวดพุทธคุณ ให้ศีลและพระสวดพุทธมนต์ด้วยทำนองเบงกัลลีซึ่งแตกต่างจากการสวดของพระไทยแต่ก็พอจับความได้

หลังจากนั้นประธานได้เชิญให้ผมกล่าวกับผู้มาร่วมงานซึ่งผมได้กล่าวถึงความสำคัญของวันสงกรานต์ของไทยและได้ถือโอกาสสรุปความสำคัญของพุทธศาสนา การปฏิบัติจิตตามแนวพุทธในชีวิตประจำวันโดยการนำหัวใจพุทธศาสนา 3 ข้อมาใช้ และโดยเฉพาะความสำคัญของ”ปัจจุบัน” ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ฟังด้วยดี

หลังจากนั้นมีการกรวดน้ำเป็นอันเสร็จพิธีตอนเช้า

ข้อคิดที่ได้จากการไปร่วมพิธีก็คือชาวพุทธในอินเดียมีการรวมตัวกันน้อย อีกทั้งพระสงฆ์ที่มี ก็ไม่มากและไม่ใช่พระปฏิบัติ จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้ชาวพุทธอินเดียยกระดับจากการเป็นพุทธเพียงในนาม มาเป็นผู้ปฏิบัติสมาธิและภาวนา อุปสรรคสำคัญน่าจะอยู่ที่ไม่มีผู้นำที่จะมาแนะนำและสอนวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง  ดังนั้นส่วนใหญ่จึงเพียงรับศีล 5 แล้วก็ทำบุญทำทานตามอัตภาพ

เส้นทางการฟื้นฟูและพัฒนาพุทธศาสนาในอินเดีย จึงยังอยู่อีกยาวไกลและเป็นงานที่ท้าทายมากสำหรับใครก็ตามที่จะมาทำงานตรงนี้

อย่างไรก็ดี การรวมกลุ่มของชาวพุทธเช่นชาวพุทธเบงกาลีนี้ แม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาเชื่อมั่นในพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จึงขอหวังว่าในอนาคต คงจะมีสิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นและให้มีผู้นำ มานำชาวพุทธอินเดียให้ยกระดับเป็นชาวพุทธที่แท้จริง ดังที่เคยเป็นเมื่อสมัยพุทธกาล

 

หมายเลขบันทึก: 352184เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2010 17:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะท่าน

  • มาเรียนรู้และอ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับความศรัทธาในศาสนาพุทธของอินเดียค่ะ
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

คุณครูคิม ครับ

มองอินเดียแล้วมองไทย

คนไทยโชคดีที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง เรียกว่ามากประเทศหนึ่งในโลก

คนไทยมีโอกาสเป็นพุทธมาก โดยเฉพาะการปฏิบัติ

จะเห็นว่ามีการบวชพระตามประเพณี สร้างคนเป็นคนดี

ในขณะที่อินเดียแทบจะมีน้อยหรือไม่มีเลย

การปฏิบัติธรรมจะเป็นการสืบต่อพุทธศาสนาที่ดีมากครับ

 

 

สวัสดีค่ะ

  • หากไม่ทราบข้อมูลจากท่านทูต
  • ก็คงเก็บความรู้เดิมที่เพราะบ่มมานานว่าอินเดียเป็นดินแดนของความรุ่งเรืองเรื่องพุทธศาสนานะคะ
  • ที่โรงเรียนมีครูพระมาสอนพุทธศาสนาให้กับเด็ก แต่เด้กยังไม่เข้าใจถ่องแท้ค่ะ คือไม่ทราบความหมายว่า...ทำไมต้องนั่งสมาธิ
  • ขอขอบพระคุณท่านมากค่ะ

คุณครูคิม ครับ

ครูเข้าใจไม่ผิดครับ พุทธศาสนาในอินเดียรุ่งเรืองมากในสมัยพุทธกาลครับ

แต่ในปัจจุบัน มีประมาณ 1 เปอร์เซนต์ของประชากรพันล้านเท่านั้นครับที่เป็นพุทธ

ในจำนวน 1 เปอร์เซนต์ เป็นพุทธแต่ในนามเพราะการเป็นพุทธเป็นการพ้นจากวรรณะของฮินดู ทำให้ทุกปี ที่เมืองนาคปูร์ รัฐมหารัชฏะ มีคนอินเดียวรรณะต่อสุดและจัณฑาลสมัครใจประกาศตนรับพุทธศาสนาเป็นศาสนาใหม่ของตนนับจำนวนนับแสนๆ คนซึ่งดำเนินมาเช่นนี้ตั้งแต่ ดร.เอมเบดก้านำการประกาศตนมาตั้งแต่มานับ 10 กว่าปีแล้ว

แต่ถามว่าหลังจากประกาศตนเป็นพุทธมามกะแล้ว เกิดอะไรขึ้น พระอินเดียเองบอกว่า ก็กลับไปดำเนินชีวิตเช่นฮินดูตามปรกติ เพราะไม่มีใครมาดูแลแนะนำว่าต้องทำอย่างไร

นี่คือสภาพของชาวพุทธอินเดียครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกสะท้อนใจดังที่เล่าให้ฟังครับ

ขอบคุณครับที่แวะมาร่วมสนทนากัน  

สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ

เรื่องการเผยแพรพระพุทธศาสนาในอินเดีย

อาจเกิดจากปัญหาหลายๆประการ

เช่นพระสงฆ์ท่านก็ไม่สามารถสื่อสารกับคนในท้องถิ่นได้(ภาษา)

สัมพันธภาพกับคนในท้องถิ่นก็ยังน้อย

เหมือนอยู่กันคนละมุมโลกเดียวกัน

ถ้าคนพุทธ หรือคณะสงฆ์ที่มีความมุ่งมั่นจะเผยแผ่พระพุทธศาสนา

จึงอาจต้องแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่

การให้ธรรมะเป็นสิ่งที่ประเสริฐ

แม้ให้กับคนต่างศาสนาก็ตาม

อีกอย่างหนึ่งการเริ่มต้นด้วยการเข้าใจและเกื้อกูลกันก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

สงกรานต์ปีนี้ อย่างน้อยเป็นความโชคดีของชาวอินเดีย

ที่ท่านทูตชาวไทย ได้ให้ธรรมทาน

ซึ่งเป็นการสร้างประโยชน์แก่พวกเขาอย่างแท้จริง

ขออนุโมทนาสาธุการดังๆ ณ ที่นี้ค่ะ

ตันติราพันธ์ โยคีน้อย

อินเดียมีกูรูมากมาย ต่างก็เป็นนักปฏิบัติทางจิตที่เข้มข้น

ไม่ว่าจะเป็นท่านใสบาบา และอีกหลายคนที่คนไทยรู้จัก

แต่ส่วนใหญ่ก็ตามกระแสของฮินดู คือบูชาเทพ

การปฏิบัติในระดับที่สูงขึ้น ที่ต้องใช้สมาธิและภาวนาคู่กันไปเพื่อสร้างปัญญา อาจไม่ได้เน้นกัน

เพราะต้องการให้คนอยู่กับสังคม อยู่กับเทพเจ้า

การหลุดพ้นแบบพุทธ หรือตามแนวทางที่โอโช Osho แนะนำจึงเป็นเรื่องเฉพาะตัว ใครทำใครได้

ถ้ามองในเรื่องพื้นฐานของจิต คนอินเดียมีพื้นฐานที่ดีอยุ่แล้ว แม้จะตามแบบฮินดู

เพียงได้รับการแนะนำวิธีที่ถูกต้อง เชื่อว่าคนอินเดียจะปฏิบัติได้ดีและเร็วกว่าคนชาติอื่น

 

 

 

 

เัรีัีสีนส


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท