ทักษิณ..คุณไม่มีวันชนะ แต่คุณมีสิทธิฟรุ๊ค
การต่อสู้ของคนเสื้อแดงเกิดจากความต้องการของคุณทักษิณ หลังจากที่ถูกทหารทำรัฐประหารอเปหิทักษิณออกนอกประเทศ และถูกคำสั่ง คปค.ตั้ง คตส.รวบรวมสำนวนส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดีและริบทรัพย์ไปสี่แสนกว่าล้านบาท
ทักษิณกลับมาเมืองไทยครั้งหนึ่งหลังจากการเลือกตั้ง และลูกสมุนทางการเมืองได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่เขาต้องหลบหนีออกนอกประเทศ หลังจากศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษา ในคดีทุจริตการซื้อที่ดินย่านรัชดาของคู่สมรส
บทความนี้จะไม่พูดถึงประเด็นที่ว่า ทักษิณถูกรังแกจากใคร หรือไม่อย่างไร ? เพราะทักษิณและคนเสื้อแดง ต่างก็ออกมาแฉอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้จะมีความจริงอยู่บ้างว่าทักษิณถูกรังแกจากระบบอำมาตย์ แต่นั่นเป็นแค่ปลายเหตุ
ต้นเหตุอันแท้จริง เนื่องจากทักษิณรำรวยมาอย่างรวดเร็ว และขาดความชอบธรรมในการได้มาซึ่งทรัพย์สินบางส่วน และเมื่อครองอำนาจรัฐ ทักษิณกลับบริหารประเทศแบบไม่โปร่งใส ขาดความชอบธรรมในการใช้อำนาจในแทบทุกๆเรื่อง แทรกแซงองค์กรอิสระให้ง่อยเพลียเสียขา
โชคร้ายของประเทศไทย..ที่คนจนจำนวนมากเห็นแต่ความร่ำรวยเหนือความถูกต้องชอบธรรม ซ้ำร้ายนักการเมืองจำนวนมากเห็นแก่อำนาจและอามิสสินจ้าง
ทักษิณ..จึงใช้เงินตราหว่านโปรย สร้างความวุ่นวายไปทั่วประทศ เพื่อหาหนทางกลับมามีอำนาจในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อทักษิณใช้สมุนทางการเมืองในสภาทวงคืนอำนาจไม่เป็นผล เนื่องจากพรรคโดนยุบบ้าง เนื่องจากพลังคนเสื้อเหลืองกดดันนอกสภาบ้าง ทำให้การต่อสู้ของนักการเมืองฝ่ายทักษิณต่อสู้ไม่ค่อยได้ผลมากนัก
ทักษิณและคณะจึงใช้ ๓ ขา คู่ขนาน( ดวงแก้วสามประการ ที่สหายเก่าค่ายทักษิณว่าๆ กันนั้นแหละ)
๑.นักการเมืองในรัฐสภา...(คือมีพรรคการเมือง)....อันนี้ไม่ว่ากัน เขารับจ้างเล่นการเมือง
๒.มวลชนคนเสื้อแดง ซึ่งจงรักภักดีทักษิณอย่างจริงใจบ้าง รับจ้างโดยเห็นแก่เงินบ้าง..(มีมวลชน) .....อันนี้อย่าไปตำหนิเขา ทุกอาชีพก็รับจ้างกันทั้งนั้นแหละ เช่น ผบ.ทบ.ก็รับจ้างเป็นทหารใหญ่ รับจ้างเป็นม๊อบก็อาชีพสุจริตนะครับ
๓.กองกำลังติดอาวุธทราบฝ่าย...คือฝ่ายเอาทักษิณ และรับจ้างทักษิณ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นใคร...(มีกองทัพเป็นของตน)...อันนี้คิดชั่วมาก ริเป็นนักรบรับจ้างในประเทศตนเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รัฐบาลไม่อาจดำเนินการจับกุมกองกำลังนี้ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นับวันการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ การก่อวินาศกรรมจะมีมากขึ้น เช่นเดียวกับ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ และอิรัก
ซึ่งประเทศชาติจะได้รับความเสียหายและบอบช้ำเป็นอันมาก
ทักษิณเองมุ่งหวังจะให้ทหารล้อมปราบมวลชนคนเสื้อแดงอย่างรุนแรง จะได้ต่อสู้ด้วยฝูงชนที่บ้าคลั่ง ผสมกับการใช้กำลังและอาวุธ การก่อวินาศกรรม ทำลายระบบการปกครอง ระบบกฎหมาย ทำลายระบบเศรษฐกิจ หวังให้เกิดสภาพอนาธิปไตย เปิดโอกาสให้มวลชนคนเสื้อแงทางเหนือและอีสานเข้ายึดศาลากลาง สถานีวิทยุ โทรทัศน์ ขับไล่ผู้ว่า แม่ทัพนายกองออกนอกพื้นที่ ใช้คนเสื้อแดงยึดเอาสถานที่ราชการอย่างเบ็ดเสร็จ และหวังแบ่งแยกประเทศไทย ออกเป็น ๒ ส่วน คือไทยเหนือ และไทยกลาง (ส่วนไทยใต้เป็นหน้าที่ของขบวนการมุสสิมหัวรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้อยู่แล้ว) แล้วทักษิณจะได้กลับมายังล้านนาอย่างผู้ได้รับชัยชนะ มีคนมวลชน นักการเมือง และกองกำลังค่อยจัดระเบียบระบบทักษิณอยู่ที่นั่น
รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงรับรู้ถึงสัญญาณนี้ได้เป็นอย่างดี จึงไม่กล้าล้อมปราบอย่างรุนแรง แต่ใช้วิธีบริหารประเทศไปวิงขึ้น ฮ. ไป หรือบริหารไปพลางปีนกำแพงหนีไปพลาง
อย่างไรก็ตาม การที่จะทำการดังกล่าวได้ คือแบ่งแยกแล้วปกครอง หรือแบ่งแยกแล้วยึดครอง มิได้เป็นไปตามที่ทักษิณคิด และตั้งใจไว้
เนื่องจากประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติทั่วโลก ทุกประเทศ ที่จะแบ่งแยกประเทศได้ ต้องมีอุดมการณ์สาธารณะที่มวลชนถืออุดมการณ์สาธารณะร่วมกัน เช่นระบบคอมมิวนิตส์ เป็นการปฎิวัติสังคมโดยชนชั้นกรรมกร และชาวนา แต่กรณีการต่อสู้ของทักษิณ เป็นการต่อสู้เพื่อเอกชน หรือคนในตระกูลชิณวัตรและพวกพ้องเท่านั้น มิใช้ทำลายระบบอำมาตย์ เนื่องจากทักษิณไม่เคยทำลายระบบอำมาตย์ในขณะที่มีอำนาจ แต่ส่งเสริมระบบอำมาตย์ โดยมีทักษิณเป็นหัวหน้าอำมาตย์เอก
ทักษิณ จึงมิได้ต่อสู้เพื่ออุดมการทางการเมืองใดๆเลย หวังเพียงอำนาจ และเงินตรา
โอกาสที่ทักษิณจะประสบความสำเร็จ จึงไม่อาจเป็นไปได้ แต่มีโอกาสหมดตัว
เว้น..แต่ฝ่ายอำมาตย์ ชนชั้นสูง และชนชั้นกลางในสังคใทยไม่ยอมปรับตัว ยังใช้ระบบอภิสิทธิ์และเส้นสาย รวมถึงยังมีความคิดแบบเดิมๆอย่างสุดขั้ว เช่น ไม่ยอมปฎิรูประบบเศรษฐกิจ และการกระจายความมั่งคั่งให้เป็นธรรมมากขึ้น ไม่ยอมปฎิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ไม่ยอมปฎิรูปสังคม เพื่อให้คนเล็กคนน้อยได้มีที่ยืนในสังคมบ้าง กล่าวคือ ยังปล่อยให้ช่องว่างแห่งความยากจนและความร่ำเรวยมีมากเกินไป โดยพวกอำมาตย์ ชนชั้นสูง และชนชั้นกลางไม่รู้สำนึก และไม่รู้สึกรู้สา และไม่ปรับตัว
หากยังเป็นเช่นนั้น...สถานการณ์ก็อาจเอื้ออำนวยให้ทักษิณ...แม้เป็นคนไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองใดๆในสายตาผม
แต่อาจเป็นพระเจ้าของคนจนๆ ก็ได้นะครับ
เข้าตำรา..."เมื่อคนกำลังจมน้ำตาย..หมาเน่าลอยน้ำมา ก็คว้าเอาไว้ก่อน ดีกว่าคว้าลม มิใช่หรือ"
ฉะนั้น...อำมาตย์ และคนชั้นสูง คนชั้นกลาง...อย่าประมาทอย่าดูถูกและใส่ร้ายคนจน ก็เขาใกล้จมน้ำตายอยู่แล้ว...หมาเน่าตัวอ้วนฉุอย่างทักษิณ อาจเป็นทางเลือกสุดท้ายของเขาจริงๆ
สาธุ...ขออย่าให้เป็นดั่งผมคิด...เพราะเมื่อถึงวันนั้น เราจะบาดเจ็บล้มตายกันเป็นแสนๆล้านๆ และอาจใช้เวลายืดเยื้อยาวนาน ซึ่งจะทำให้ขวานทองของเราดูแล้วไม่เป็นขวานอีกต่อไป
ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย.....ขอพระสยามเทวาธิราชจงคุ้มครองด้วยเถิด.
ความเห็น (4)
อยู่อย่างที่เป็นอยู่ เป็นอย่างที่เคยเป็น คนจนคือชาวบ้านตาดำๆ ที่ไปร้องเย่ว ๆ เพื่อใคร เพื่ออะไร ตัวเขาเองก้ยังไม่รู้ ผมเป็นครูก้อยากฉวยโอกาสนี้ให้ความรู้ที่ถูกต้อง กับนักเรียน แต่ผู้ปกครองก็ไปชุมนุม ด้วยความเชื่อว่าจะได้ผู้นำกลับมา โดยไม่ได้คำนึงถึงอะไร และบอกลูกว่า จะไปหาเงิน เพื่ออนาคตของลูกว่างั้น ขอโทษครับ ว่าจะไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองแล้ว
สวัสดีครับพี่
บทความสุดยอดครับ ตรงประเด็นไม่ยักย้ายอ้อมค้อม ผมชอบครับ คิดเช่นกัน การแบ่งแยกนี่ ไม่รู้ว่าทำมันกลุ่มกองกำลังอาวุธ กลุ่มเงิน พวกนี้ถึงกล้าทำนะครับ หรือว่า เขารู้ว่า ใต้พรมประเทศไทย มีเศษขยะฝุ่นผงมากมายเหลือเกิน พอเปิดพื้นพรมออกมาก ขยะกองใหญ่ก็ส่งปัญหาทันที
อันนี้เห็นตรงกันหลายท่านครับว่า เราหมักปัญหาบางอย่าง เช่นความเหลื่อมล้ำ ความไม่พัฒนา ความฉ้อโกงทุจริต อยุติธรรม ปัญหาคือว่า อำมาตย์ทั้งหลายจะเห็นว่าเป็นปัญหาหรือเปล่า
หากเราจะหาหนทางแตกหน่อหนทางแก้ปัญหา หรือเป็นทางเลือก หรือค้นหาทางบรรจบกันของประโยชน์ จะมีทางไหนครับ
ยิ่งตอนนี้ กลุ่มคนระดับปกครอง ระดับนำ กลายเป็นนักฉกฉวยกันไปหมดแล้ว ระบบสังคมมันถูกปลุกปั่น ให้เชื่อ ให้ยึดถือแนวทางลัด เพื่อตรงสู่ประโยชน์ตนประโยชน์กลุ่ม ดังนั้นหวังจากผู้นำไม่ได้จริง ๆ ครับ
แล้วพลเมืองล่ะ ไหวไหมครับ รู้น้อย อ่อนแอ บ้าคลั่ง รุนแรง ขนาดนี้ ก็เพราะเราอยู่ในสังคมบริโภคกันมานานสักระยะหนึ่งสิครับ บริโภคแป้ง น้ำตาลกันเยอะ พลังงานล้นเกิน มันแสดงออกทางอารมณ์ครับ ( เหมือนที่ว่าหากเลี้ยงสุนัขด้วยน้ำตาล มันจะดุครับ ขออภัยที่เปรียบเปรย เอาแบบขำ ๆ ครับ )
ผมนึกถึงคำกล่าวของ อุทัย พิมพ์ใจชน ว่า "ผู้แทนราษฎร คือเงาสะท้อนของประชาชน" สรุปว่า นักปกครองและพลเมืองของเขานั้นเป็นลักณะเดียวกัน
เหตุการณ์กลียุค กังฉิน พลเมืองอ่อนแอ งมงายเช่นนี้ เห็นว่า เหล่าผู้กล้า นักปราชญ์ และราชนิกุล ต้องคิดหาหนทางกอบกู้
ขอบคุณครับ
และสิ่งที่ผมคิดว่าจะเกิดก็เกิดจนได้..
อะไรจะเกิดก้ต้องเกิดครับ
สติมา ปัญญาเกิด เลิศหรรษา
ด้วยศรัทธา รู้ดีชั่ว ไม่มัวหมอง
กุศลกรรม นำมา ตามครรลอง
ช่วยประคอง ให้พ้นทุกข์ ด้วยสายกลาง
*** กลอนนี้ผุดขึ้นมาระหว่างฟัง ท่านพลอากาศตรี นพ. บุญเลิศ บุญเกียรติ บรรยาย เรื่องคุณธรรมของผู้บริหาร เมื่อ 4 พ.ค. นี้***