ชีวิตที่พอเพียง : 983a. แล้วฝนก็เทลงมาในช่วงวันหยุดสงกรานต์
ตามปกติช่วงสงกรานต์มักมีฝนตก อย่างปีที่แล้วฝนตกแรงมากตั้งแต่ก่อนวันสงกรานต์ ผมจำได้แม่นยำ แต่กลับไปตรวจสอบบันทึกนี้ไม่ได้เอ่ยถึงไว้ ปีนี้รอแล้วรออีกฝนก็ไม่มา คิดว่าจะไม่มีฝนเสียแล้ว แต่วันที่ ๑๖ เม.ย. ก็มีฝนปรอย และตกเย็นอากาศเย็นลง
ตีห้าครึ่งวันที่ ๑๗ ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เป็นอุปสรรคต่อการออกไปวิ่งออกกำลัง แต่เมื่อลงมาที่ห้องรับแขกก็พบสาวน้อยกำลังนั่งดูหนัง และบอกผมว่า เรื่อง Schindler’s List ทั้งๆ ที่ตอนนั้นฝนหยุดและผมตั้งใจจะออกไปวิ่ง แต่หนังดีอย่างนี้ต้องดู แม้จะเคยดูแล้วตอนหนังออกใหม่ๆ ซึ่งสาวน้อยผู้มีความจำดี จำได้ว่าไปดูด้วยกันที่หาดใหญ่และคนแน่นมาก เพราะเป็นหนังที่ได้ตุ๊กตาทองถึง ๘ ตัว
ในช่วงแห่งวิกฤตการณ์ นปช. การดูหนังเรื่องนี้สร้างความสะเทือนใจให้ผมมาก เพราะเบื้องหลังของหนังเรื่องนี้คือการฆ่าคนยิว ๖ ล้านคนในสงครามโลกครั้งที่ ๒ บรรยากาศในสังคมเยอรมันในขณะนั้น ที่อยู่ภายใต้การปลุกระดมความเกลียดชังยิว ทำให้ทหารเยอรมันดำเนินการส่งคนยิวไปเข้าห้องรมแก๊สฆ่าหมู่ได้อย่างหน้าตาเฉย ยิ่งในหนังมีฉากของค่ายกักกัน Auschwitz ยิ่งสะเทือนใจผม เพราะผมเคยไปชมที่นั่นเมื่อเกือบ ๔๐ ปีมาแล้ว เป็นการไปชมพิพิธภัณฑ์ที่แสดงความโหดร้ายของมนุษย์ที่กระทำต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ทำให้ผมย้อนกลับมาคิดถึงสภาพสังคมไทยในขณะนี้ ที่มีการปลุกระดมความเกลียดชังแบ่งแยกในสังคม ผมเกรงว่าจะมีผลทำให้จิตใจคนหยาบกระด้าง เป็นสังคมแห่งความเกลียดชัง อย่างที่เกิดขึ้นในเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ผมคิดว่าคนที่จงใจปลุกระดมเหล่านั้นกำลังทำร้ายสังคมไทยทั้งสังคม เป็นการทำร้ายแบบที่คนทั่วไปไม่รู้สึก แต่จะเกิดผลร้ายต่อสังคมอย่างที่ผลสุดท้ายจะเหมือนที่คนเยอรมันได้รับในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ และหลังจากนั้น
เราเห็นแล้วนะครับ ว่าสังคมแห่งความเกลียดชังโหดร้ายมีจุดสุดท้ายเป็นอย่างไร ผมขอภาวนาขออย่าให้สังคมไทยเดินไปทางนั้นเลย ขอให้เราช่วยกันหาทางออกด้วยแนวทางแห่งความเห็นอกเห็นใจกัน แนวทางเจรจารับฟังซึ่งกันและกันอย่างเปิดเผย ขออย่าให้สังคมไทยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความลึกลับดำมืด ขอให้เราเป็นสังคมสว่างและเปิดเผย รับรู้รับฟังสภาพในสังคมที่มองได้หลายมุม และร่วมกันหาทางออก หาทางพัฒนาสังคมไปสู่สังคมที่เป็นธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่าเชื่อใคร ที่สัญญาว่าจะแก้ปัญหาสังคมได้ในพริบตา หรืออย่างรวดเร็ว ดูกรณีอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นตัวอย่าง ใช้เวลาเกิน ๒๐๐ ปีทั้งนั้นกว่าประชาธิปไตยจะเข้มแข็ง การเปลี่ยนแปลงสังคมแบบรวดเร็วรุนแรงจะตามมาด้วยแรงเหวี่ยงกลับ คล้ายลูกตุ้มเหวี่ยงกลับไปกลับมา แรงเหวี่ยงรุนแรง แรงเหวี่ยงกลับก็รุนแรง สภาพเช่นนั้นผู้คนจะไม่มีความสุข ไม่มีสันติ คนไทยชอบการเปลี่ยนแปลงแบบสันติมากกว่าแบบใช้ความรุนแรง
ผมจึงขอชื่นชมเครือข่ายสันติวิธี ที่คนหนุ่มสาวรวมตัวกันทำงานสร้างสันติให้แก่สังคม ในขณะนี้เป็นการทำงานรับฟังแบบไม่แบ่งฝ่าย แบบมนุษย์สัมผัสมนุษย์ แล้วนำมาสื่อสารผ่าน virtual space ผมหวังว่าต่อไปกลุ่มนี้จะขยายตัวออกมาทำงานสื่อสารใน real space มากขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความรัก ความเห็นอกเห็นใจ เพื่อไม่ให้สังคมไทยถูกครอบงำด้วยกระแสแห่งความเกลียดชัง
ฝนธรรมชาติเทลงมาให้ความชื่นใจ ชุ่มฉ่ำ ในท่ามกลางอากาศร้อนระอุแห่งคิมหันตฤดู แต่ยังไม่เท่า ฝนแห่งความรักความเห็นใจ แม้จะยังเป็นเพียงปรอยฝน ก็ได้ปลูกหน่ออ่อนแห่งความหวังขึ้นในใจผม ว่าสังคมไทยยังไม่อับจน ในท่ามกลางวิกฤตย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ
วิจารณ์ พานิช
๑๗ เม.ย. ๕๓
เรียนท่านอาจารย์หมอที่เคารพ
กระผมรอฝนอย่างใจจดจ่อครับผม พอฝนตกมาก็รู้สึกสดชื่น บรรยากาศนี้ก็มีส่วน ทำให้สภาวะจิตโน้มเอียงสู่สงบมาก กระผมหวังว่า “ฝนแห่งความรักความเมตตา จะตกในใจอย่างชุ่มช่ำในสังคมมนุษย์เรา” หวังไปไกลว่า หากเราเห็นผู้คนที่เหมือนและต่างเป็นครูของเรา จะทำให้เราเข้าใจถึงความคิด ความอยาก ตลอดจนความเป็นไปแบบปุถุชน เราก็จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองไปด้วย หากเราเรียนรู้และเข้าใจในระดับที่ลึกซึ้งแล้ว กระผมคิดว่าสามารถเปลี่ยนกระบวนทัศน์เราได้ และเมื่อถึงวันนั้นกระผมเชื่อว่า "วิญญาณของความรักความเมตตานั้น ได้ออนไลน์ในใจท่านเหล่านั้นแล้ว" กราบสวัสดีปีใหม่แบบไทยท่านอาจารย์หมอครับผม
ด้วยความเคารพครับผม
นิสิต