การเดินทางของวันแรกจบลงที่หาดชะอำ ความจริงตั้งใจไว้ว่าจะแวะกินกอล่อจี๊ที่หัวหิน(สิ่งเดียวที่คิดถึงหัวหิน คือ กอล่อจี๊ ที่หากินยากมาก) สงกรานต์ปี 52 มาพักหัวหิน ได้กินอย่างจุใจกลางคืนมีขายที่ตลาดกลางคืน ลูกค้าเยอะคนขายรีบไปหน่อย แป้งยังไม่ทันแห้ง แต่ก็อร่อยดี ไม่ขี้เหนียวงา โรยให้เยอะมาก ๆ กลางวันมีขายที่ถนนแนบเคหาสน์ ใกล้กับร้านลอดช่องนายดำ อร่อยเหมือนกัน ด้วยความที่ชอบกินกอล่อจี๊มาก มีขายที่ไหนต้องตามไปชิม
มาคราวนี้อดเพราะไม่มีใครอยากแวะหัวหิน มุ่งตรงเข้าชะอำทันที(ใจร้าย) เข้าพักที่โรงแรมแก่นจันทร์ ห้องพักสะอาด พนักงานบริการดี ราคาไม่แพง (หากเทียบกับโรงแรมในหัวหิน ) ค่ำคืนที่ชะอำคึกคักมากๆๆๆ มีคอนเสิร์ตริมหาด วัยรุ่นเพียบ บนหาดคืนนั้นเลยเต็มไปด้วยผู้คน ไม่ต้องเช่าโรงแรม นอนกันที่เก้าอี้ผ้าใบบ้าง กางเต้นท์บ้าง ตลอดความยาวของหาด ไม่มีเหงา แต่ผู้เฒ่าผู้แก่บางคนที่นอนไม่หลับเดินลงหาดทำมิวสิคท่ามกลางแสงดาว ระลึกความหลัง ต้องถอยหลังกลับไม่กล้าเดินเล่น เพราะกลัววัยรุ่น(ไม่รู้กลัวอะไร ถ้าสาวๆ พอจะให้กลัว แต่ขนาดนี้สงสัยวัยรุ่นจะกลัวมากว่า ...ล้อเล่น...)
เช้าวันใหม่เดินทางต่อไปยังจังหวัดตาก แวะกินอาหารที่ร้านอาหารเคียงน้ำ อาหารอร่อยดี เพราะมีคนเลี้ยง (อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ) บรรยากาศดีมาก มีดนตรีไพเราะ ครูเพลงที่ขับร้องเพลงใจดีและร้องเพลงเพราะมาก (เพลงลูกกรุง) ประทับใจค่ะ
เข้าพักที่โรงแรมเวียงตาก สถานที่และห้องพักสบาย สะอาด ราคาต้องเรียกว่าถูกมากเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น ๆ อาจเนื่องจากไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวใหญ่ก็ได้ กลางคืนที่นี่เงียบมาก........เงียบจริงๆ
เอ้าเช้าแล้วไปสักการะศาลพระเจ้าตาก แล้วเดินทางต่อไปลงแพที่เขื่อนภูมิพล มีรายการที่ประทับใจมากคือ หมูสวรรค์.....ทอดและขายอยู่ที่จุดบริการนักท่องเที่ยว ถูกและอร่อยมากๆๆๆๆๆๆ...ยังเสียใจที่ซื้อมาน้อยไปหน่อย กะว่าจะหาทางกลับไปซื้ออีกครั้ง ถ้าไม่แก่เสียก่อน............
ติดตามไปลงแพล่องแม่น้ำปิงสู่เชียงใหม่ตอนหน้า....
ไม่มีความเห็น