เที่ยวลันตา : เท้าความ


เที่ยวลันตา 

       นี่คงเป็นครั้งที่ 4 ในชีวิตของการเที่ยวลันตา ทำไมต้องลันตา ลันตามีอะไร ลันตาอยู่ที่ไหน ทำไมครอบครัวเราต้องไปลันตา แล้วไปกันทำไมตั้ง 4 ครั้ง

       เรื่องราวคงต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อครั้ง 4 ปีก่อนนู้น คราวที่ผมต้องไปเป็นวิทยากรที่จังหวัดกระบี่ ตอนนั้นคุณจ้าอายุยังไม่ถึงขวบปี (พฤษภาคม 2549) เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจเราก็วางแผนกันว่าคงใช้เวลาในช่วงขากลับเที่ยวตามรายทางดูสักที แวะกินขนมจีนไก่ทอดที่คลองท่อม ไปเที่ยวน้ำตกร้อน และก็กลับหาดใหญ่ แต่กระนั้นเมื่อเราขับรถลงมาถึงทางแยกเข้าเกาะลันตา ผมก็เกิดอาการของขึ้น เลี้ยวขวามุ่งหน้าเข้าเกาะทันที ปล่อยให้จิ๋มโทรศัพท์ถามเพื่อนฝูงถึงที่พักและเปิดหนังสือท่องเที่ยว น่าจะเป็น “นายรอบรู้” กระมัง แต่ลำพังหนังสือก็ไม่ได้ช่วยในการตัดสินใจเข้าพักสักเท่าไหร่ เลยตัดสินใจแวะเข้าไปดูโรงแรมแล้วใช้จริตส่วนตัวเข้าเลือก จำได้ว่าโรงแรมแรกที่แวะเข้าไปก็คือ “รอยัล ลันตา” ซึ่งเมื่อได้พบเห็นเพียงส่วนหน้าก็ต้องถอย เพราะมันดูหรูเกินกว่าที่เราคงจะรับได้ จึงถอยกลับออกมาแล้วเลี้ยวไปที่ “Southern Lanta” ซึ่งเป็นที่ถูกใจเราเป็นอย่างมาก แต่ชะตาคงไม่เข้ากัน เพราะว่าห้องพักเต็ม ช่วงนั้นเขากำลังมีการสัมนากันอยู่พอดี จนท้ายที่สุดก็ถึงเวลาต้องตัดสินใจหาที่ใหม่ ซึ่งก็ได้ในที่ที่อยู่ติดกันนั่นก็คือ “ลันตาวิลล่า” การเที่ยวในครั้งนั้นไม่ค่อยถึงใจเท่าไหร่ ทั้งนี้เพราะว่าคุณแป้งเธอกลัว tsunami จนขึ้นหัว นั่นคงเป็นเพราะว่าการได้ดูข่าวเรื่องนี้มาตลอด จนทำให้เข้าใจว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอันตราย แม้กระทั่งผมอุ้มเธอลงทะเลก็โวยวาย มารู้สึกสนุกมากขึ้นก็ต่อเมื่อกำลังจะกลับบ้านกันแล้ว

       ลันตาในครั้งที่ 2 ของชีวิตเป็นการวางแผนล่วงหน้า เราเลือกที่จะพักที่ “อันดามันลันตา” ทั้งนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษนอกไปจากเพื่อนรุ่นน้องแนะนำมา ในช่วงเดือนมิถุนายน 2550 เราจึงได้ออกเดินทางกัน ซึ่งการเที่ยวในรอบนั้นแป้งเธอเพิ่งว่ายน้ำเป็นบ้างแล้ว ผมจึงวางใจได้ระดับหนึ่ง และนั่นก็เลยเกิดสถิติใหม่สำหรับครอบครัวเราก็คือ แป้งเธอเล่นน้ำนานถึง 3 ชั่วโมง ตั้งแต่ 2 โมงยาวไปจนถึง 5 โมงเย็น ตัวเธอจึงดำไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่บัดนั้น ฮา.....   

 

 

 

 

       เที่ยวครั้งที่ 3 ก็เมื่อกุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา ครั้งนี้เราเลือกที่จะพักที่ Southern Lanta ซึ่งตรงกับความตั้งใจในครั้งแรกเสียที และการมาที่นี่ในครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลย เพราะที่พักระดับ 3 ดาวที่มีความสบายเกินพอ มีต้นไม้ร่มรื่น มีที่นั่งให้จิ๋มได้อ่านหนังสือใต้ต้นไม้ อาหารการกินเพียบพร้อมยามที่เราเหน็ดเหนื่อยจนไม่อยากขับรถออกไปหากินนอกรีสอร์ท และที่สำคัญ ที่นี่มีค๊อกเทลอร่อยๆให้ดื่มจนลืมเมาไปเลย

       การเที่ยวลันตาในครั้งนี้มีอะไรหลายอย่างที่เราต้องจดจำไปอีกนาน นั่นก็คือ ชายหาดที่แสนสวยสด ทรายนิ่มเท้าละเอียดยิบ ผืนทะเลที่เงียบสงบราบเรียบราวกระดาษ อีกทั้งพื้นทะเลที่ไม่ลาดลึกไปตามแบบของฝั่งอันดามัน ทำให้ผมกับลูกสาวสามารถเดินไปเล่นน้ำไกลๆได้ ทั้งยังมีทรัพยากรชายฝั่งที่น่าสนใจสำหรับสองสาวนั้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหอยเป็นๆนานาชนิด ลูกปลิงทะเลที่เวลาเราบีบตัวมัน ก็จะมีน้ำพุ่งปรี๊ดๆออกมา และบทสรุปจากการไปเที่ยวในครั้งนั้นทำให้เราคิดว่า ลันตาครั้งที่ 4 คงต้องมีอีกต่อไป

 

 

 

 

 

       เวลาก็ล่วงผ่านมาจนถึงปีนี้ 2553 ซึ่งแผนการท่องเที่ยวของบ้านเรายังไม่ออกจากหัว ทั้งนี้เพราะความยุ่งเหยิงในการทำงาน ทั้งของหลวงและของส่วนตัว ตราบจนกระทั่งลูกสาวปิดเทอมไปเรียบร้อยแล้วก็ยังไม่มีแผนท่องเที่ยว แต่แล้วจู่ๆฮีโร่ในสมองก็สั่งการออกมาว่า “ไปลันตาดีไหมแม่” จิ๋มมองหน้าผมเล็กน้อยแล้วก็พยักหน้า ว่าแล้วเราก็เข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อเสาะหาสถานที่นอนในทันที และชั่วเวลาเพียง 1 วันเราก็ได้ข้อสรุปว่าจะไปพักกันที่ “Lanta Sand Resort and Spa” อันนี้ต้องยกเครดิตให้จิ๋ม เพราะเธอคงเป็นคนเดียวในบ้านที่สามารถทำหรือจัดการอะไรก็ได้ที่เบ็ดเสร็จ ทั้งความสะดวกสบายและความคล่องตัวในเรื่องต่างๆ ว่าแล้วเราก็จัดการจองห้องพักผ่าน agency ทางอินเตอร์เน็ต เป็นอันว่า ในวันที่ 4-6 เมษายน 2553 ล้อหมุนอีกครั้ง

       ในการไปเที่ยวครั้งนี้นอกจากครอบครัวเราแล้ว ผมยังได้เชิญชวนครอบครัวของพี่เปิ้ลให้ไปด้วยกัน แต่จะว่าไปตามความจริงแล้ว น่าจะเป็นว่า พี่เปิ้ลเชิญชวนบ้านเราต่างหาก เพียงแต่ว่า ในจุดเริ่มต้นนั้นพี่เปิ้ลชวนผมว่า “แป๊ะ ไปเที่ยวกันไหม” แล้วก็จบไปเพียงเท่านั้น นัยว่า “ที่เหลือให้แป๊ะจัดการต่อไป” ฮา.... เวลาผ่านไปประเดี๋ยว ผมกับภรรยาก็จัดการจองห้องพักเสร็จสรรพ ส่วนท่านเปิ้ลเกิดความไม่แน่ใจขึ้นมาว่าจะไปเที่ยวด้วยกันได้ไหม ซึ่งถึงตอนนี้อะไรก็มาฉุดการท่องเที่ยวของเราไม่อยู่เสียแล้ว แต่ก็นั่นแหละ เพียง 2-3 วันก่อนเดินทาง พี่เปิ้ลก็บอกผมว่า เธอจัดการจองห้องพักที่ติดกับห้องผมได้แล้ว การเที่ยวก็อยู่ในเลือดของบ้านนี้เหมือนกัน พี่แป้งกับน้องจ้าก็แสนจะดีใจเฮโลสาระพา เพราะจะได้เล่นน้ำกับพี่แตงกวาและต้นข้าว ทั้งสี่สาวนี้เคียงรุ่นกันออกมาครับ แตงกว่าอายุ 10 ขวบ พี่แป้งอายุ 9 ขวบ และอีก 2 คนซึ่งตอนนี้มีอายุ 4 ขวบปีก็ได้คลานตามออกมาในปี 2548 ซึ่งคุณจ้าเกิดก่อนต้นข้าว 4 วัน

คำสำคัญ (Tags): #ลันตา
หมายเลขบันทึก: 351101เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2010 21:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พี่แป้งยิ้มยิงฟันใหญ่เลยนะค่ะ น้องจ้าก็น่ารักๆ สรุปว่าน่ารักกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ

แล้วนั่นหอยอะไรค่ะ คล้ายๆ กับหอยเสียบเลย ที่เค้าเอาไปแช่น้ำปลาใช่ไหมค่ะ

อุ้ย! อุ้ย! น้องจ้ากล้าจับลูกปลิงทะเลด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท