ผลงานการผลิตเอนไซม์เพื่อสุขภาพของนักเรียนโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย กทม


เพื่อการพึ่งพาตนเอง

เคล็ดลับวิชา-น้ำพลังเอนไซม์บำบัดดื่มเพื่ออะไร???

น้ำพลังเอนไซม์บำบัดดื่มเพื่ออะไร???    ศาสตร์ทางด้านเอนไซม์บำบัด ของแพทย์ทางเลือก กล่าวไว้ว่า "สาเหตุของการเสื่อมของร่างกาย และการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน มะเร็ง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ล้วนแล้วแต่เกิดจากภาวะที่ร่างกายพร่องเอนไซม์ ดังนั้นการเสิรมเอนไซม์โดยการกิน จึงเป็นวิธีหนึ่งในการบำบัดป้องกันการเกิดโรคได้อีกทางเลือกหนึ่ง ในการดูแลร่างกาย"
น้ำพลังเอนไซม์บำบัด    ดื่มเพื่ออะไร ขอถามกลับว่า คุณรู้จักไหมว่า เอนไซม์คืออะไร และมีหน้าที่อย่างไรในร่างกาย

ซึ่งเราจะกล่าวแบบง่าย ๆ ก็คือ เอนไซม์เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่้งที่ทำหน้าที่ในการเร่งปฏิกิริยาต่าง ๆ ในร่างกายเรา ไม่ว่าจะเป็นการเร่งการย่อยอาหาร การสร้างเซลล์ การผลักอาหารเข้าเซลล์ การขับสารพิษออกจากเซลล์ การฟื้นฟูเซลล์ และปฏิกิริยาชีวเคมีต่าง ๆ ในร่างกาย พูดได้ว่าเอนไซม์มีบทบาทแถบทุกส่วนทุกเซลล์ในร่างกายแต่ถ้าไม่มีเอนไซม์ จะเกิดอะไรขึ้น คิดกันแบบง่าย ๆ ก็คือ อาหารที่เรารับประทานเข้าไปก็จะไม่ย่อย หรือย่อยสลายช้ามาก จนเกิดการหมักหมมเน่าเหม็น และเกิดเป็นสารพิษตกค้างในร่างกาย อีกทั้งร่างกายก็ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ขับออกก็ไม่ได้ เมื่อเซลล์ไม่ได้รับสารอาหาร มีแต่ของเสีย ร่างกายก็อ่อนแอ และเกิดโรคจนถึงตายในที่สุด เห็นไหมว่าเอนไซม์มีบทบาทสำคัญจริง ๆ ในร่างกาย เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าเอนไซม์มีความสำคัญและมีบทบาทอย่างไรแล้ว เราก็คงเริ่มเห็นถึงความสำคัญของมันแล้ว แต่บางท่านอาจมีคำถามเพิ่มขึ้นมาอีกว่า ร่างกายเราก็มีการสร้างเอนไซม์อยู่แล้ว แล้วเอนไซม์ที่เราเสริมเข้าไปจะใช้ได้หรือ แล้วจะเหมือนกันไหม???
ตอบแบบง่าย ๆ ว่าเอนไซม์บางชนิดร่างกายเราผลิตขึ้นเอง แต่บางชนิดก็ได้จากอาหารที่เรากินเข้าไปอยู่แล้ว และเอนไซม์ที่ร่างกายเราผลิตขึ้นเองนั้น ก็ได้มาจากกรดอะมิโนที่ย่อยสลายมาจากอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นเอง แสดงว่า.... เอนไซม์ที่ร่างกายผลิตขึ้น และเอนไซม์ที่กินเข้าไปเสริมก็มาจากแหล่งเดียวกันคืออาหารนั้นเอง การเสริมเอนไซม์จึงสามารถเสริมได้ทั้งการกินอาหารที่สดใหม่ และการกินอาหารที่มีเอนไซม์สูง ๆ หรือสารสกัดเอนไซม์นั้นเองได้เช่นกัน
น้ำพลังเอนไซม์บำบัด ดื่มเพื่อปรับสมดุลของร่างกาย โดยที่น้ำพลังเอนไซม์จะมีหลักการทำงาน 4 หลักดังนี้

 1. ความเป็นกรดผลไม้ จะช่วยในการปรับสมดุลความเป็นกรดด่างของของเหลวในร่างกาย เช่น เลือด จึงช่วยในการฟอกเลือก ทำความสะอาดเลือด ช่วยละลายไขมันในเลือด ทำความสะอาดหลอดเลือด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการบีบตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อลำไส้ ช่วยปรับสมดุลของการขับถ่าย เป็นต้น            

 2.เอนไซม์จากผลไม้ และเอนไซม์ที่ได้จากจุลินทรีย์ในการหมัก จะช่วยในระบบการย่อยอาหาร โดยช่วยกระตุ้นการย่อยสลายอาหารและสารที่ตกค้างในร่างกาย อีกทั้งยังสามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปกระตุ้นการผลักสารอาหารให้เข้าเซลล์ และขับของเสียออกจากเซลล์ เป็นต้น                                            

3.สารอาหารโมเลกุลขนาดเล็ก และวิตามินต่าง ๆ ที่ได้จากกระบวนการหมัก ทั้งพวกกรดอะมิโน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ ต่าง ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการย่อยแล้ว ร่างกายสามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดและส่งผ่านไปยังเซลล์ได้ทันที ทำให้รู้สึกสดชื่น และฟื้นฟูสภาพของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องการพักฟื้นได้อย่างดี                                                                                                   

4.จำนวนประจุไอออนสูง ทำให้เกิดกระบวนการไอออนไนสเซชั่น หรือ การแลกเปลี่ยนประจุ ทำให้สามารถผลักดันสารอาหารเข้าสู่เซลล์ และขับของเสียออกจากเซลล์ได้อย่างรวดเร็ว เหมือนเป็นพลังงาน ATP ในร่างกายนั้นเอง ทำให้เซลล์ได้รับสารอาหารอย่างรวดเร็ว  ร่างกายจึงฟื้นฟูได้ดี

หลักการทั้ง 4 นี้ จึงทำให้เกิดทั้งกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ ให้พลังงานแก่เซลล์ และขับของเสียออกจากเซลล์ และลดการทำงานของเซลล์และอวัยวะบางส่วน ทำให้เซลล์และอวัยวะนั้นได้พักผ่อน และฟื้นฟูร่างกายต่อไป

จากที่อธิบายมา ถ้ายังไม่เข้าใจ ตอบแบบง่าย ๆ อีกครั้งว่า น้ำพลังเอนไซม์บำบัดดื่มเพื่อ..... เสริมเอนไซม์และสารอาหาร ชะล้างสารพิษ และฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง 
แล้วอย่างนี้ต้องดื่มไปตลอดหรือเปล่าค่ะ??? แนะมีคนถามมาจนได้อีกคำถาม เมื่อกล้าถามก็ต้องกล้าตอบ  การกินหรือดื่มอาหารซ้ำ ๆ ไปตลอดอย่างไรก็ไม่ดี เฉกเช่นเดียวกัน                                              

การดื่มน้ำพลังเอนไซม์บำบัด ดื่มเพื่อจุดประสงค์อะไร ก่อนดื่มก่อนกินเราก็ควรต้องคิดก่อน ไม่ใช่สักแต่ว่าดื่ม เพราะเขาบอกว่าดี 
น้ำพลังเอนไซม์บำบัด จริง ๆ แล้วดื่มได้ตลอด เพราะไม่มีตกค้างในร่างกาย ร่างกายสามารถทำลายและขับออกไปได้ แต่การดื่มให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายเราจริง ๆ คือ การดื่มไปเพื่อปรับสมดุลและฟื้นฟูร่างกาย เมื่อร่างกายแข็งแรงฟื้นฟูสภาพได้แล้ว เราจะดื่มต่อไปหรือหยุดก็ได้ ดื่มต่อไป ก็ช่วยได้ลดการทำงานของเซลล์บางอย่างของร่างกาย แต่ที่เหลือร่างกายก็ขับออก หยุดดื่มก็ได้เมื่อร่างกายกลับมาแข็งแรงเซลล์ทำงานได้เต็มที่แล้ว แต่สักพักร่างกายและเซลล์ก็จะอ่อนแออีก ก็ต้องกลับมาเสริมมาดื่มอีก
ก็ลองพิจารณาเอาเองเถอะว่าจะเอาแบบไหน มิได้มีข้อจำกัดว่าดื่มแล้วต้องดื่มตลอด อยากให้ถามตัวเอง ร่างกายของตนเอง พิจารณาเอาเองเถอะว่าตอนนี้เป็นอย่างไร แข็งแรง ทำงานเองได้ดีไหม หรือต้องการอะไรไปเสริมไปช่วย  เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูสุขภาพ อุดมด้วยสารอาหารวิตามิน A, D, E, K, B รวม, C, กรดอะมิโน ฮอร์โมนและอื่น ๆ อีกมาก สกัดจากผลไม้รวม และลูกยอป่า ซึ่งมีโอถสสารจำนวนมากผ่านขบวนการหมักบ่มนานหลายปี เพื่อลดขนาดโมเลกุลให้เล็กลงจนสามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ง่ายและเร็วขึ้น รู้สึกได้ถึงการผ่อนคลาย

  • วิธีการเก็บรักษา เก็บในที่ร่มไม่ต้องแช่เย็น ยิ่งเก็บนาน คุณภาพยิ่งเพิ่มขึ้น จะมีรสเปรี้ยวมากขึ้น ถ้าชอบหวานก็ให้เติมน้ำผึ้ง อาจมีฝ้าขาว หรือวุ้น (เจลลาติน) เกิดขึ้นก็ยิ่งดี หรือมีตะกอนมากขึ้น (ไม่จำเป็นต้องเขย่าขวด)
    หมายเหตุ รสชาด สี กลิ่น ไม่คงที่ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมและเวลา
    ผลข้างเคียง ไอ อาเจียน ท้องเสีย มีผื่นขึ้นคัน บวม และอื่น ๆ ไม่ต้องกตใจเป็นการขับพิษ และหายได้เอง (อาจเกิดขึ้นได้เฉพาะบางคน)

อาการเจ็บป่วยและโรคต่างๆที่ควรใช้เอนไซม์บำบัดร่วมด้วย

ระบบไหลเวียนของโลหิต (Circulation) เอนไซม์มีความสำคัญในการป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน (Blood Clot) ลดความเหนียว (Stickiness) ของเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดแดงในหลอดโลหิต และโคเลสเตอรอลลดความเข้มข้นลง ซึ่งในด้านสุขภาพ ถ้าเลือดดี ทุกอย่างในร่างกายก็เป็นปกติ

ลดการอักเสบ (Inflammation) เพราะเอนไซม์มีหน้าที่ซ่อมแซมและเนื้อเยื่อต่างๆ (Tissue Repair) เร่งสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ รวมทั้งมันสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม

กำจัดสิ่งแปลกปลอมในเลือด ทั้งสารพิษ (Toxin) ที่ดูดซึมจากลำไส้ใหญ่ รวมกับสารอาหารที่ย่อยไม่สมบูรณ์ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติ

โรคเอดส์ (AIDS) คือ กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมหรือบกพร่องมิได้เป็นเองตั้งแต่เกิด แต่ติดเชื้อไวรัสที่เรียก Human Immuno-deficiency Virus หรือ HIV (เอช ไอ วี)ติดต่อกันโดยทางเพศสัมพันธ์ หรือทางเลือดหรือ จากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารกในครรภ์

ท้องขึ้นท้องเฟ้อ จากอาหารไม่ย่อย (Indigestion) ปากอาจเปื่อย ผายลมมีกลิ่นเหม็น บางครั้งจะนอนไม่หลับ ท้องร่วงสลับกับท้องผูก ในรายท้องร่วง บางครั้งอุจจาระมีไขมันปนมาก

โรคต่างๆ และอาการไม่สบายซึ่งเอนไซม์บำบัดควรมีส่วนเกี่ยวข้อง
เอนไซม์ย่อยไขมันในเลือดทำให้โคเลสเตอรอลลดลง ซึ่งถ้าขาดเอนไซม์จะทำให้เลือดไหลผ่านหลอดโลหิตที่ตีบตันไปได้ยาก ความดันโลหิตจึงต้องเพิ่มสูงขึ้นเพื่อขับดันเลือดไหลผ่าน และหัวใจซึ่งต้องการเลือดจำนวนมากมาหล่อเลี้ยงเพราะ ต้องทำงานหนักขึ้น ก็อาจได้รับไม่เพียงพอ ทำให้หัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจพิการได้

โรคอ้วน คือ สภาวะร่างกายมีไขมันสะสมมากเกินไป มีได้หลายสาเหตุ เช่น   กินจุแต่ออกกำลังน้อย ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ศูนย์ควบคุมความอิ่มของสมองส่วนล่าง (Hypothalamus) ถูกกระทบ กระเทือน กรรมพันธุ์ รวมทั้ง เกิดจากความเครียด การใช้เอนไซม์ย่อยไขมันจะช่วยได้แต่ เป็นการบำบัดตรงปลายเหตุ

การอักเสบต่างๆ รวมทั้งการมีบาดแผล เอนไซม์จะย่อยหนอง (Pus) กำจัดโปรตีนที่แปลกปลอม เอนไซม์จะเข้าไปย่อยเปลือกผิวออก ทำให้ภูมิคุ้มกันสามารถเข้าถึงและทำลายเชื้อโรคต่างๆ ได้ เอนไซม์ทำให้เลือดไหลเวียนดี ผิวหนังจึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนสมบูรณ์ เซลล์เกิดใหม่ง่าย แผลหายเร็ว ในปี ค.ศ.1977 มีการใช้มะละกอปิดแผลผ่าตัด เล่ากันว่า วิธีนี้ทำให้แผลหายเร็วขึ้น

อาการอ่อนเพลีย (Chronic Fatigue Syndrome) ความเครียดทำให้รู้สึกไม่มีแรง  การใช้เอนไซม์เสริมก็จะทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ทำงานปกติ  ของเสียจะถูกพาออกมาทิ้งนอกเซลล์ จึงสดชื่นแข็งแรง และถ้าเชื้อไวรัสเป็นต้นเหตุอ่อนเพลียเรื้อรัง เอนไซม์ร่วมกับภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้นจะกำจัดไวรัสให้หมด โดยเอนไซม์จะย่อยโปรตีนหุ้ม   (Protein Film) ไวรัส

โรคภูมิแพ้ เกิดจากมีความไวค่อนข้างสูงเกินไปของปฏิกิริยาเคมีในร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม และถ้าเป็นมากอาจหมดสติ ถึงตายได้ การแพ้ (Allergy) นี้พบได้มากกว่าร้อยละ 15 ของคนทั่วไป เอนไซม์เสริมจะช่วยย่อยอาหารให้สมบูรณ์จนไม่เกิดมีอณูใหญ่หลงเข้ามาในกระแสโลหิต และเมตาบอลิค เอนไซม์จะย่อยสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในเลือดจนหมด ทำให้อาการแพ้ต่างๆ ทุเลาลงได้ ในกรณีที่คนไข้เป็นโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตัวเอง (โรคเอสแอลอี SLE)ซึ่งเกิดจากการผิดปรกติของภูมิต้านทาน(Antibody) ซึ่งจะมีผลกับข้อต่อ เยื่อเมือก ผิวหนัง และอวัยวะภายใน การใช้เอนไซม์เสริมร่วมในการรักษาด้วยจะทำให้อาการต่างๆ ดีขึ้น  การรักษาโรคภูมิแพ้ ท่านควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กินยาอย่างเดียวไม่พอ ต้องกำจัดสาเหตุของการเกิดโรคด้วยจึงจะหายอย่างถาวร 

หมายเลขบันทึก: 351085เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2010 18:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ..ยินดีที่ได้รู้จักน่ะค่ะ

มีความสุขมากๆน่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท