ท่านชอบไปหาหมอค่ะ และชอบทานยา ถึงแม้ว่าร่างกายท่านจะไม่เป็นอะไรเลยแต่ถ้าคุณหมอไม่สั่งยาให้ท่านหรือไม่ตรวจให้ละเอียด ท่านก็มักจะไม่สบายใจและบอกว่าตัวเองนั้นป่วยอยู่ตลอดเวลา ต้องคอยรบเร้าให้ลูกหลานพาไปโรงพยาบาลบ่อยๆ เมื่อท่านชอบคิดว่าตัวท่านเองไม่สบายก็ส่งผลให้ร่างกายท่านอ่อนแอและทรุดโทรมด้วยค่ะ
ลูกหลานของท่านจึงใช้กุศโลบาย (กุศโลบาย หมายถึง อุบายอันใดที่ทำให้เกิดคุณงามความดี) เวลาที่พาท่านไปพบแพทย์จะขอให้แพทย์สั่งยาให้ท่าน แต่ไม่ใช่ยารักษาโรคนะคะ แต่เป็น (ยา=วิตามิน) แทนค่ะ พอท่านได้ยามาทานท่านก็จะนึกว่าเป็นยารักษาโรคที่คุณหมอสั่งให้ พอทานเข้าไปไม่กี่วันท่านก็จะบอกว่าหายป่วยแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีบางครั้งเมื่อทานยาแล้วท่านยังคิดว่าตัวเองไม่หายดีค่ะ ท่านจึงรบเร้าให้คุณหมอฉีดยาให้เพราะท่านคิดว่าการฉีดยาทำให้การรักษาโรคมีประสิทธิภาพมากกว่าการทานยา ทางลูกหลานของท่านก็ต้องขอให้คุณหมอฉีดยา (ยาบำรุง,หรือวิตามิน) ให้ท่านแทนค่ะ เพราะแค่ได้ฉีดยาท่านก็หายเป็นปลิดทิ้งแล้วค่ะ ^^
นี่เป็นอีกหนึ่งเคสของการคิดที่นอกจะส่งผลต่อจิตใจแล้วยังมีผลต่อด้านกายภาพด้วยค่ะ และบางครั้งเราก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการด้วยค่ะ ต้องรู้จักพลิกแพลงตามสถานการณ์ อย่างเคสนี้ลูกหลานของคุณตามีการใช้จิตวิทยาการขอแบบ"กุศโลบาย" ทำให้คุณตาสบายใจได้ค่ะ
ฉะนั้นเรื่องแย่ๆบางอย่าง(เช่นสุขภาพของคุณตาท่านนี้)อาจจะเกิดจากการที่เราแค่คิดไปเอง เราลองเปลี่ยนมุมมองของความคิด คิดเชิงบวก (+)ให้มากขึ้นชีวิตจะได้ดีขั้นมีความสุขมากขึ้นด้วยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
คำว่ากุศโลบาย กับคำว่ากลอุบาย ต่างกันไหมครับ
เห็นหลวงวิจิตรวาทการ เขียนหนังสือกุศโลบาย เป็นแนวทางการทำสิ่งดีครับ
ผมว่าคุณหมอนอกจากจะรักษาโรคทางกาย คงต้องมีกุศโลบายไว้รักษาโรคทางใจด้วยนะครับ เพื่อความสบายใจ แม้จะใช้ "กุศโลบาย" ก็ต้องยอมละครับ
ถ้าสบายใจ ก็จะสบายกายไปด้วยครับ
ขอบใจมากโปเต้ที่แวะมา
ใช่ๆ สบายใจ กายก็สบายไปด้วย
ทำใจให้สบายเน้อไม่ต้องเครียด
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ
คนไข้เจ๊ เจอเยอะ
ชอบแบบว่า คิดว่า ตัวเอง กังวล
นอนไม่หลับ
เจ๊จ่ายยาตัวอื่น ที่ไม่ใช่ยานอนหลับ
คือให้เม็ดแป้งยาหลอก
คนไข้หลับ สนิทเลย
แต่ว่า ไม่อยากเผยไต๋บ่อยๆ
เดี๋ยวคนไข้ไม่ไว้ใจเจ๊
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยจ้า
อยากปะแป้งน้องอร จังเลย
เจ๊เอง