ร้านขายทองกับกล้องวีดีโอวงจรปิด-ที่ติดตั้งอยู่ ดีแล้วหรือยัง

ข่าวปล้นร้านทอง มีบ่อยมากขึ้น

เหตุจูงใจสำคัญให้คนปล้นร้านทอง ก็คงหนีไม่พ้น "สถานะทางเศรษฐกิจ" ที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงอยู่ หากจะมีเหตุจูงใจอื่น ในทำนองที่ว่า “ปล้นเพราะเลียนแบบ” ก็คงจะมีอยู่บ้าง แต่ก็คงไม่มากนัก และที่สำคัญ คนร้านบางส่วนเชื่อว่า ร้านท้องที่ตนเองจะทำการปล้น ไม่มีมาตรการป้องกันอะไร นอกจากกรงเหล็กที่ "ขัง" เจ้าของร้านไว้ด้านใน (ถ้ากระชากสร้อยทองแล้ววิ่งออกไป อย่างไรเสีย เจ้าของร้านก็ออกจาก "กรงเหล็ก" วิ่งไล่ตามไม่ทันหรอก) และหรืออีกส่วนหนึ่งก็คิดว่า ถึงแม้ว่า ร้านทองจะมีการป้องกันไว้เรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางเห็นใบหน้าตัวเองได้หรอก เพราะกล้องบันทึกภาพไว้มุมสูง เห็นแต่ "กบาล" เท่านั้น 

สิ่งที่ได้เห็นจากภาพข่าวอยู่เสมอ ก็คือ สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ด้วยกล้องบันทึกวีดีโอวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในร้าน บางรายที่โดนปล้นแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบเสาะติดตามจับกุม คนร้ายที่ปล้นร้านได้ แต่มีร้านทองอีกจำนวนไม่น้อยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ กลายเป็นคดีปล้นทรัพย์ที่ค้างคาอยู่ที่สถานีตำรวจและสะสมเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ

การที่ร้านทองติดตั้งกล้องวีดีโอวงจรปิด นับว่าเป็นการตั้งรับและป้องกันได้ดีทีเดียว เพราะสามารถนำภาพที่บันทึกได้เป็นเบาะแสสำคัญต่อรูปคดีและง่ายต่อการทำงานของตำรวจ

แต่สิ่งที่ผมคิดทุกครั้งที่ได้ดูภาพข่าวร้านทองถูกปล้นก็คือ ทำไมต้องติดตั้งกล้องวีดีโอไว้ในระดับมุมสูงด้านข้าง ซึ่งมีข้อจำกัดอย่างมากในการเห็นหน้าคนร้าย เพราะจะเป็นภาพที่เห็นศีรษะของคนร้ายมากกว่าเห็นหน้าตา

ถ้าผมอยากจะลองเสนอความคิดใหม่ในการกำหนดจุดติดตั้งกล้องวีดีโอให้กับเจ้าของร้านทองว่า "ลองติดตั้งกล้องในระดับสายตาที่สามารถจับภาพใบหน้าของผู้ที่เข้ามาในร้านได้จะดีกว่าหรือไม่" โดยจุดติดตั้งก็โดยการซ่อนกล้องไว้หลังตู้โชว์ทองที่อยู่ด้านหลังคนขาย ยิ่งเทคโนโลยียุคนี้ กล้องมีขนาดเล็กที่เรียกกันว่า กล้องสายลับ (Spy Cam) แต่สามารถจับภาพได้ในมุมกว้าง และให้คุณภาพของภาพระดับสูงไม่แพ้กล้องขนาดใหญ่ (CCTV) ราคาต่อชิ้นก็ไม่ได้แพงมากนัก ซึ่งหากเทียบราคากับกล้องขนาดใหญ่ที่ใช้ ๆ กันอยู่นั้น ก็น่าจะซื้อได้มากกว่า ๒ ตัวเลยทีเดียว

สำหรับการติดตั้ง ก็นำกล้องขนาดเล็กไปติดตั้งไว้สัก ๒ จุด ซ่อนไว้ให้เห็นแค่จุดเล็ก ๆ ปรับตำแหน่งให้หน้าเลนส์จับภาพให้ได้กว้างที่สุด แต่อย่าให้กรอบเลนส์โผล่ออกมามากเกินไปจนสังเกตเห็นได้ เพราะดูไม่สวยและจะเป็นที่สังเกตของโจรได้ง่ายเกินไป หากจะว่าไปแล้ว ถ้าโจรเห็นว่ามีกล้องจับภาพอยู่ ก็น่าจะเป็น "มาตรการป้องกันเชิงจิตวิทยา" ได้อีกแบบหนึ่งด้วย เพราะโจรก็คงคิดว่า ร้านนี้ไม่ควรเข้าไปปล้นเพราะมีกล้องบันทึกภาพในระดับสายตา จับภาพหน้าตาได้แน่นอน

การติดตั้งกล้องในระดับนี้ ก็สามารถจับภาพใบหน้าคนที่เข้ามาในร้านได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องมา "งม" ว่า ศีรษะแบบนี้ หน้าตาจะแบบนี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสอบปากคำเจ้าของร้านเพื่อวาดภาพใบหน้าคนร้ายอีกด้วย

ผมคิดว่า ความคิดนี้ น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเจ้าของร้านทองที่จะนำไปปรับเปลี่ยนจุดติดตั้งกล้องวีดีโอวงจรปิดในร้านของตน เพื่อป้องกันและตั้งรับกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดกับร้านของท่านได้