หน้าแรก
สมาชิก
chudchainat
สมุด
บันทึกเรื่อง..เกษ...
เลี้ยงจุลินทรีย์ห...
chudchainat
นาย. ชัด ชัด ขำเอี่ยม
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
เลี้ยงจุลินทรีย์หน่อกล้วยช่วยลดสภาวะโลกร้อน
อากาศแปรปรวน ภัยธรรมชาติเข้าทำร้ายมนุษย์ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน สถานการณ์ดังกล่าวมีความถี่และต่อเนื่องมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อนที่มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ที่มีการบุกรุกทำลายป่า การใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม ด้านการเกษตรเกษตรกรอาจคาดการไม่ถึงว่าได้เข้าไปมีส่วนร่วมโดยเฉพาะการทำให้โลกร้อนด้วยการเผาตอซังฟางข้าวปลดปล่อยก๊าซสู่บรรยากาศโลกเพราะมีตอซังและฟางข้าว 800 -1,600 ก.ก. หากปล่อยให้มีการเผาเกิดขึ้นทั้งหมดจะก่อให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซสู่บรรยากาศโลกเป็นจำนวนมาก เพิ่มการเกิด “ภาวะเรือนกระจก” ซึ่งเป็นภาวะที่โลกปกคลุมด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้รังสีความร้อนสะท้อนกลับออกไปได้หมดทำให้โลกมีอุณหภูมิที่เหมาะสมและอุ่นพอที่สิ่งมีชีวิตจะเจริญเติบโตได้ แต่ทุกวันนี้มนุษย์ก่อให้เกิดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้นเป็นเวลานานแล้วจากการเผาสิ่งต่างๆ จนนำไปสู่ภาวะอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นตลอดเวลารุนแรงขึ้นทุกปี อีกทั้งการเผาจะทำให้สูญเสียธาตุอาหารที่อยู่ในฟางข้าว (เผาฟาง 5 ตัน จะสูญเสีย ธาตุอาหารไนโตรเจน 45 ก.ก., ฟอสฟอรัส 10 ก.ก. โพแทสเซียม 125 ก.ก. กำมะถัน10 ก.ก.) แต่ถ้าไม่เผาจะช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี 11.9 ก.ก.ต่อไร่ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 152 บาทต่อไร่
นายขวัญชัย แตงทอง หมู่ 9 ต. สามง่ามท่าโบสถ์ อ. หันคา จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า การทำนาถ้าไม่เผาต่อซังและฟางข้าวจะทำให้ไถนาได้รำบากเพราะฟางข้าวจะไปหนุนผาลไถนา อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกษตรกรเผาตอซังและฟางข้าว การหาแนวทางแก้ไขด้วยการหาวิธีที่จะทำให้ฟางข้าวย่อยสลายได้อย่างรวดเร็วด้วยจุลินทรีย์จึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะได้ปุ๋ยอินทรีย์จากฟางข้าวแล้วจะได้จุลินทรีย์ในการย่อยสลายอินทรีย์อีกด้วย เช่นการใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพจากหนอกล้วยขนาดความสูงจากพื้นดินถึงยอด 1 เมตร ขุดเหง้าสลัดเอาดินออกไม่ต้องล้างน้ำ เพราะมีจุลินทรีย์แอ็คติโนมัยซีส(Actinomycete) ซึ่งเป็นแบคทีเรียรูปท่อนกลม ติดอยู่และนำมาขยายจำนวนด้วยการหมักอย่างถูกวิธีที่ไม่ยากนัก และเกษตรกรสามารถทำได้ ถ้ามีใจรักที่จะช่วยลดสภาวะโลกร้อน และลดต้นทุนการผลิตปรับปรุงสภาพดินและสิ่งแวดล้อมในนาข้าว การทำควรการทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย (หัวเชื้อ) ซึ่งทำแล้วจะได้ปริมาณที่น้อยไม่เพียงพอแก่การนำไปใช้ จึงควรทำจุลินทรีย์หน่อกล้วยสูตรขยาย ซึ่งจะได้จำนวนที่มากเพียงพอแก่การใช้ในนาข้าวพื้นที่กว้าง ดังนี้
การทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย (หัวเชื้อ) เตรียมหน่อกล้วยลักษณะใบรากกว้างไม่มีโรคแมลงสูงประมาณ 1 เมตร ไม่ต้องล้างดินออก เอาทั้งเหง้าและราก จำนวน 3 กก. กากน้ำตาล 1 กก. นำหน่อกล้วย สับให้ละเอียด คลุกผสมกับกากน้ำตาลให้ทั่ว หมักไว้ 7 วัน คั้นเอากากออกได้หัวเชื้อ ห้ามหมักโดยไม่คั้นเอากากออกเกิน 7 วัน
จุลินทรีย์หน่อกล้วยสูตรขยาย (หมัก 7 วัน คั้นกากออก) ใช้หยวกกล้วยตัดเครือแล้ว 60 กก. กากน้ำตาล 20 กก. น้ำ 10 ลิตร หัวเชื้อจากครั้งแรก 1 ลิตร ลูกแป้งข้าวหมาก 1 ก้อน(บดละเอียด) ยาคูลล์ 1 ขวด นำหยวกกล้วยมาสับให้ละเอียด ผสมกับส่วนผสมต่างๆ ให้ทั่ว หมักไว้ 7 วัน คั้นเอากากออกได้หัวเชื้อ ห้ามหมักโดยไม่คั้นเอากากออกเกิน 7 วัน นำไปใช้ได้ตามความต้องการ เช่นการนำไปใช้ในการเร่งการย่อยสลาย “ฟางข้าว” โดยใช้น้ำหมักหน่อกล้วยจำนวน 10 ลิตรต่อพื้นที่นา 1 ไร่ อาจใช้การฉีดพ่นกรณีที่เกี่ยวข้าวใหม่ๆ ตอซังและฟางข้าวมีความชื้อและไม่ได้ปล่อยน้ำเข้านา หรือหยดหรือเทตามร่องน้ำไหล หรือวิดน้ำด้วยท่อน้ำ หมักฟางข้าวเป็นเวลา 10 วัน (ระดับน้ำ 4 – 7 ซม.) แล้วไถทำเทือกได้ตามปกติ อีกทั้งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรได้หลายชนิดเช่น ปรับโครงสร้างของดิน ปรับสภาพน้ำเสีย ล้างทำความสะอาดคอกสัตว์ และป้องกันกำจัดโรคพืช
นายปราโมทย์ รัตนสัมฤทธิ์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท กล่าวถึงการส่งเสริมการเกษตรเพื่อการรักษาสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะปัญหา “ภาวะเรือนกระจก” ว่า จังหวัดชัยนาทได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมควบคุมมลพิษ โดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดชัยนาท(จักรกลเกษตร) นำเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพไถกลบตอซังและฟางข้าวให้กับเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการลดการเผาตอซังฟางข้าว เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจำตำบล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนและฝึกอบรมการผลิตน้ำสกัดและปุ๋ยหมักชีวภาพเพื่อช่วยเร่งการย่อยสลายฟางข้าวให้เร็วขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดในด้านงบประมาณและปัจจัยต่างๆ ที่เป็นปัญหาส่งผลให้การช่วยเหลือเกษตรกรได้ไม่ทั่วถึง แต่ถ้าเกษตรกรไม่ได้ใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพไถกลบตอซังและฟางข้าว อาจใช้การเกลี่ยฟางและหมักฟางร่วมกับวิธีทางชีวภาพช่วยเร่งการย่อยสลายฟางข้าวเร็วขึ้นก่อนการไถกลบ ไม่เพียงผลต่อโครงสร้างของดินที่สมบูรณ์ เพิ่มอินทรีย์วัตถุเพิ่มผลผลิตลดต้นทุน และลดความเสี่ยงในการผลิตได้ เพื่อการเกษตร “ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง” สร้างความยั่งยืนการเกษตรเท่านั้น ยังช่วยลดสภาวะของการเกิดโลกที่จะร้อนขึ้น ลดความล่มสลายที่จะเกิดกับโลกของเราอีกด้วย
เขียนใน
GotoKnow
โดย
chudchainat
ใน
บันทึกเรื่อง..เกษตรดีที่ชัยนาท
คำสำคัญ (Tags):
#โลกร้อน
หมายเลขบันทึก: 349888
เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2010 23:15 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:43 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (2)
ต้นเฟิร์น
เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2010 23:18 น. (
)
สวัสดีค่ะ
แวะมาเรียนรู้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
หลับฝันดีนะคะ^__^
เ่เื
เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2011 13:39 น. (
)
ะ่ะ่
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
chudchainat
สมุด
บันทึกเรื่อง..เกษ...
เลี้ยงจุลินทรีย์ห...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท