คลังเต้นตั้ง 4 ขรก. โมฆะ หวั่นผลกระทบย้อนหลัง

ปลัดคลังเร่งให้ตีความหาทางออกหลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่าการตั้งรองอธิบดีกรมสรรพากร 4 คน เมื่อปี 2544 เป็นโมฆะ แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง     ได้สั่งการให้กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เร่งพิจารณาตีความ ผลกระทบจากคำสั่ง  ศาลปกครองสูงสุดที่ได้พิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น ตามที่มีผู้ร้องเรียนการแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสรรพากร 4 คน เมื่อปี 2544 ได้แก่ นางจันทิมา สิริแสงทักษิณ    นายช.นันท์ เพ็ชญไพศิษฏ์    นายวิชัย จึงรักเกียรติ    และนายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา ให้เป็นโมฆะ เนื่องจากขบวนการคัดสรรในขณะนั้นไม่มีความโปร่งใส และเป็นธรรมกับข้าราชการผู้อื่น โดยการคัดสรรไม่ได้แต่งตั้งตามผลประเมิน แต่เป็นการแต่งตั้งที่มีการกำหนดตัวไว้แล้ว สำหรับคณะกรรมการคัดสรรบุคคลดำรงตำแหน่งรองอธิบดีสรรพากรเมื่อปี 2544 มี นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี และประธานธนาคารทหารไทย ขณะที่นายศุภรัตน์ ขณะนั้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากร และเป็นผู้เสนอชื่อข้าราชการทั้ง 4 คน เป็นรองอธิบดีกรมสรรพากร ให้คณะกรรมการพิจารณา ซึ่งนายศุภรัตน์ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาครั้งนั้นด้วย   “คำสั่งศาลจะทำให้เกิดปัญหาตีความตามมาว่าสถานะของคนทั้ง 4 จะเป็นอย่างไร เพราะเวลาผ่านมาหลายปี ซึ่งทุกคนอยู่ในตำแหน่ง      ที่สูงกว่ารองอธิบดีกรมสรรพากรทุกคน จึงต้องตีความให้ชัดเจนว่าคำสั่งของศาลปกครองมีผลต่อเนื่องมาถึงตำแหน่งอื่น ๆ ต่อมาหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าทำให้ภาพลักษณ์กระทรวงการคลังที่เป็นกระทรวงสำคัญทางเศรษฐกิจดูไม่ดีขาดความ น่าเชื่อถือได้” แหล่งข่าวกล่าว ทั้งนี้ ปัจจุบัน นางจันทิมา สิริแสงทักษิณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมสรรพากร   นายช.นันท์ เพ็ชญไพศิษฏ์ เป็นที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ กรมสรรพากร   นายวิชัย จึงรักเกียรติ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และนายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา เป็นอธิบดีกรมบัญชีกลาง นายบุญศักดิ์ กล่าวว่า ทราบข่าวการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดแล้ว และเท่าที่ทราบ ขณะนี้ทางกองการเจ้าที่ของกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาผลที่จะเกิดขึ้นและต้องดำเนินการต่อไปจากคำพิพากษาครั้งนี้ ซึ่งในฐานะเป็นผู้ถูกฟ้อง ขอรอผลสรุปกระทรวงการคลังก่อน แต่พร้อมยอมรับความจริง ผิดก็ว่าไปตามผิดที่เกิดขึ้น แหล่งข่าวกรมสรรพากร กล่าวว่า นายไพรัช สหเมธาพัฒน์ อดีตผู้บริหารกรมสรรพากร ที่เป็นผู้ยื่นฟ้องครั้งนี้ต้องการให้คดีนี้เป็นกรณีศึกษา ตัวอย่าง ในการดำเนินงานของผู้บริหารกระทรวงการคลังที่ไม่โปร่งใสและมีการเอื้อประโยชน์ให้กับข้าราชการที่ใกล้ชิดกับฝ่ายการเมือง

โพสต์ทูเดย์  19  มิ.ย.  49