23 มีนาคม 2553 ขณะที่ดิฉันอยู่ที่จ.เลย สามีโทรบอกว่าพรุ่งนี้หมอนัดผ่าตัด แต่ตอนนี้ยังรอคอยคิวเตียงอยู่ ดิฉันจึงต้องเก็บกระเป๋ามาลูกมาฝากไว้กับคุณยาย(คุณแม่ของพิกุลเอง)ที่จ.ชัยภูมิ แล้วจึงเดินทางต่อเข้ากรุงเทพฯ กว่าจะถึงที่พักก็เกือบตี 1
24 มีนาคม 2553 สามีโทรมาปลุกแต่เ้ช้าบอกว่าจะเข้าผ่าตัด 11 โมง ดิฉันจึงวางแผนออกเดินทางสายหน่อย 7.30 น. แต่กว่าจะเดินทางไปถึงก็นานเกินชั่วโมง
พอ 9.00 น. สามีก็โทรมาบอกว่าหมอกำลังมารับเข้าห้องผ่าตัด สรุปว่าดิฉันเดินทางไปไม่ทันสามีเข้าห้องผ่า ใจหวิวๆ ขึ้นมาสงสารเขาจับใจ เขาต้องเซ็นยินยอมให้หมอผ่าตัดเอง ข้าวของยังอยู่ที่เตียงรวมทั้งกระเป๋าตังค์ และมือถือ ดิฉันเดินทางไปถึงเกือบ 10 โมง ขึ้น ลิฟท์ไปห้องผ่าตัดก็เข้าไปไม่ได้ เลยไปเก็บข้าวของไว้ให้สามีก่อน
การรอคอยดุเหมือนว่าแต่ละนาทีช่างช้าเหลือเกิน ซื้อหนังสือมาอ่านก็อ่านแบบไม่เข้าใจ ความง่วง ความพะวง ความสับสนทำให้มันดูไม่เป็นปกติ
15.00 น. นั่งไม่ไหวแล้วแอบหลับโดยไม่รู้ตัวหน้าห้องผ่าตัด แต่ยังหลับๆตื่นๆ ทั้งที่ไม่มีใครปลุก แต่เหมือนมีปาฏิหาริย์ อะไรก็ไม่รู้ทำให้ดิฉันงัวเงียลุกขึ้นและมองไปเห็นพนักงานเข็นเตียงผู้ป่วยกำลังเขาลิฟท์ ดิฉันไม่รู้ว่าเขาประกาศเรียกชื่อญาติหรืิอไม่ แต่เห้นแค่เว๊บเดียว ก็จำได้ว่าสามีเราแน่ๆ จึงรีบวิ่งไปที่ลิฟท์ ถามชื่อคนไข้ ....ใช่จริงๆ สามีเรา นอนนิ่งบนเตียงอยู่ในลิฟท์ ถามพยาบาลบอกให้ตามไปที่ชั้น 5 ดิฉันรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าสัมภาระ แต่โชคดีที่ลิฟท์ยังรอ จึงได้เข้าไปพร้อมผู้ป่วย
ดิฉันคิดว่าสามีคงสลบจากยาที่หมอให้ จึงค่อยๆเอื้อมมือเข้าไปใต้ผ่าห่อมเพื่อจับที่มือของเขา มือเขาเย็นมากๆ ดิฉันไม่รู้ว่าเขารู้สึกตัวอยู่ .....เขาบีบมือเราตอบ....ดีใจมาก...ก็เลยพูดออกไปโดยไม่รู้หเมือนกันว่าเขาได้ยินรึปล่าว...."ต่อม..กุลเองนะ ต๋อมปลอดภัยแล้วนะ...สู้นะ" เราไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะได้ยินไหม แต่เราพูกเพื่อเรียกกำละงใจ หรือส่งสัญญาณเท่านั้น....แต่เขาพยักหน้า 2-3 ครั้ง.....ดีใจมากที่เขามีปฏิกิริยาแบบนี้
14.00 น. คุณหมออนุญาตให้ญาติเข้าไปดูในห้อง ICU ได้ ดิฉันก็จับมือเขาและลูบเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ ไม่อยากรบกวนเขามาก จึงออกมารอข้างนอก ก่อนออกมากระซิบบอกเขาว่าจะรอที่หน้าห้อง เขาพยักหน้ารับรู้
15.00 น. หมอเจ้าของไข้ซึ่งเป็นหมอผ่าตัดเดินทางมาตรวจอาการ
คุณหมอเรียกชื่อ : ..ยอดศักดิ์...(เขาลืมตาดูหมอ)
คุณหมอถามว่า : เป็นไงมั่ง ปวดไหม แขนขาอ่อนแรงไหม จำอะไรได้ไหม....
คุณหมอถามว่า...ตอนที่ผ่าตัดรู้สึกตัวไหม หมอให้ทำอะไรบ้าง...
(ตอนผ่าตัดหมอให้ดมยาชนิดรู้สึกตัวเป็นระยะ เพื่อเช็คความรู้สึก ความจำของผู้ป่วย) เขาดึง สายออกซิเจนแบบครอบจมูกออกและพูดกับหมอ...)
ต๋อม : บอกว่าจำได้ครับ...คุณหมอให้ยกมือ ยกขา แลบลิ้น....
หมอ : ดีๆๆ ใช่ๆๆ ถามการบวกเลขหน่อยนะ 100 - 7 เท่ากับเท่าไหร่ ?
ต๋อม : เอ่อ....93 ครับ ตอบช้าๆ
หมอ : ภรรยาชื่ออะไร ?
ต๋อม : พิกุล พุทธมาตย์ ครับ
หมอ : (หันหน้ามาทางดิฉัน) ถูกไหม?
พิกุล : ถูกค่ะ
หมอให้พูดตามหลายคำ และทดสอบกำลังมือขวา โดยให้กำนิ้วคุณหมอแล้วดึง ให้เหยียดขาขวายกขึ้น คุณหมอกดที่เขา แล้วคุณหมอก็บอกว่า....ความจำและกำลังยังดี
ดิฉันดีใจมาก แล้วเขาก็พูดกับดิฉันเกี่ยวกับเอกสารเบิกจ่ายได้...ซึ่งรู้สึกว่าเขารู้สึกตัวดีมากและเร็วกว่า 2 ครั้งที่ผ่าคราวก่อน ดิฉันรออยู่หน้าห้อง เข้าไปเป้ฯระยะ แล้วก็กลับห้องพักตอน 2 ทุ่ม
25 มีนาคม ดิฉันไปหาเขาแต่เช้า พอ 09.00 น.หมอให้เข้าเยี่ยมได้ แปลกจริง เขาไม่ต้องใส่สายช่วยหายใจแล้ว มีเพียงสายน้ำเกลือ และสายต่อเลือดทิ้งจากรอยผ่าตัด
12.00 น. คุณหมอให้ย้ายไปพักห้องศัลยกรรมช่วงมีนอนโรงพยาบาลก็มีอาการตาบวม ปวดแผล แต่ไม่มากเท่าทุกครั้ง
เขานอนโรงพยาบาลถึงวัน 29 มีนาคม 2553 นับวันผ่าถึงวันออกก็ 6 วัน หกโมงเย็นวันที่ 29 มีนาคม คุณหมอก็อนุญาตให้ออก โดยหมอทำครีโมและรังสีก็นัดอีกครั้ง
วันที่ 5 เมษายน หมอศัลยกรรมนัดตัดไหม
วันที่ 20-21 เมษายน หมอนัดวางแผนทำครีโมและฉายแสง
ตอนนี้ก็พักฟื้นที่ห้องพักที่กรุงเทพฯ แต่อาการทุกอย่างไม่น่าเป็นห่วง แข็ง ทานอาหารได้ และไม่ปวดหัว....
.....ขอบคุณทุกๆคนที่โทรมา ส่งข่าวมาให้กำลังใจ.....ทุกๆๆคนเลยคะ..ขอบคุณมาก
แวะมาถามข่าว ดีใจจังเลย ปลอดภัยแล้ว
ไม่นานคงหาย เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้น้องและลูกๆได้ต่อไป
ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทนน้องและครอบครัว
ขอบคุณสิ่งดีดีที่ทำให้ชีวิตคนผ่านการทดสอบ
ต่อไปคงหมดทุกข์เสียที ดีใจด้วยจ๊ะ
ดีใจด้วยอย่างมากนะคะ ปลอดภัยกับการผ่าตัด พ่อของลูกแข็งแรงและกำลังใจดี คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองเสมอค่ะ คุณครูพิกุลก็ต้องบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงไว้ทุกเวลานะคะอย่าให้ร่างกายไม่สบาย ให้กำลังใจตัวเอง ด้วยนะคะ สู้.. แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ พี่ดาเป็นกำลังใจให้มากๆค่ะ
สวัสดีค่ะ
กำลังกายและกำลังใจที่ดีเยี่ยม
จะทำให้"ครูต๋อม" หายในเร็ววัน
รักกันมากี่ปี..แต่นาทีนี้..รักเขาให้มากๆ
ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัว"พุทธมาตย์"ค่ะ
สวัสดีค่ะ
■ ขอแสดงความดีใจด้วยนะค่ะที่การผ่าตัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
■ ขอเป็นกำลังใจให้มีจิตใจที่เข้มแข็งต่อไปนะคะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านบันทึก
ดีใจด้วยนะคะ
^__^
ผมจำคำพูดที่พี่สาว พูดก่อนเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้เป็นอย่างดี
....
"น้องอย่าทิ้งพี่นะ...พี่ไม่มีใคร"
....
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด...จริงๆ ครับคุณพิกุล
"พี่ไม่ต้องห่วง เราพี่น้องอย่างไรก็เปรียบเสมือนแขนขาซึ่งกันและกัน ต้องรักษากันให้มันสุดชีวิต ทำใจให้สบาย เมื่อพี่ลืมตาขึ้นมา พวกเราจะอยู่กันตรงนี้
คุณพิกุลครับ กำลังใจมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด ในโลก
เก็บมันไว้นะครับ เพราะผมรู้สึกถึงกำลังใจที่มีอยู่เต็มความรู้สึก ของครอบครัว "พุทธมาตย์"
นำความปรารถนาดี ของครอบครัวผม มายังบันทึกนี้ด้วยเช่นกัน ครับ
ผมจำคำพูดที่พี่สาว พูดก่อนเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้เป็นอย่างดี
....
"น้องอย่าทิ้งพี่นะ...พี่ไม่มีใคร"
....
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด...จริงๆ เลยนะครับ
"พี่ไม่ต้องห่วง เราพี่น้องอย่างไรก็เปรียบเสมือนแขนขาซึ่งกันและกัน ต้องรักษากันให้มันสุดชีวิต ทำใจให้สบาย เมื่อพี่ลืมตาขึ้นมา พวกเราจะอยู่กันตรงนี้
คุณพิกุลครับ กำลังใจมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด ในโลก
เก็บมันไว้นะครับ เพราะผมรู้สึกถึงกำลังใจที่มีอยู่เต็มความรู้สึก ของครอบครัว "พุทธมาตย์"
นำความปรารถนาดี ของครอบครัวผม มายังบันทึกนี้ด้วยเช่นกัน ครับ
วันที่ 5 เมษายน หมอศัลยกรรมนัดตัดไหม...พรุ่งนี้แล้วนะเป็นกำลังใจให้ค่ะน้องครูศิลปะ...ขอให้โชคดียิ่งๆขึ้นไปนะน้องพิกุล...
สวัสดีปีใหม่! แบบไทยๆเราครับ
ขอให้สุขภาพแข็งแรงเร็วๆ นะคะ และขอให้มีความสุขค่ะ
สามีก็เป็นเหมือนกันหมอนัดผ่า26มิ.ย.นี้ใจไม่ดีเลย