เป็นกำลังใจให้ทุกภารกิจครับครูหยุย ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองครับ
สวัสดีครับครูหยุย
ผมติดตามงานของครูหยุยมาโดยตลอด ชื่นชมในการต่อสู้เพื่อเด็กมาโดยตลอด วันเวลาที่ผ่านมาเป็นเครื่องตัดสินได้ว่า ครูหยุย คิด และทำเพื่อเด็กจริง ผมขอเอาใจช่วยและจะเป็นกำลังใจให้ตลอดนะครับ
สวัสดีครับ
ต้องขอขอบคุณ G2K ทำให้ได้รู้จัก ครูหยุย มากขึ้น
ขอติดตามผลงานของครู ด้วยความชื่นชมสักคนนะครับ
หลาย ๆ คนคงดีใจที่มีช่องทางสื่อสารกับครูหยุยได้ง่ายขึ้น .... เป็นกำลังใจให้
เวลาทำงานกับเด็กที่พฤติกรรมมีปัญหา หลายครั้งหาทางออกไม่เจอ ต้องไปค้นบทความต่าง ๆ ที่ครูหยุยได้เขียนหรือให้สัมภาษณ์ไว้ เพื่อนำมาเป็นแนวทางและประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสถานะการณ์ ขอบคุณครุหยุยแทนเด็กที่ขาดโอกาสทุกคนค่ะ
ระหว่างนี้ผมมีนัดประชุมหลายเรื่องก่อนสงกรานต์ แต่ต้องเลื่อนออกไป เหตุเพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังวุ่นวายอยู่ ผู้ร่วมประชุมกังวลถึงการเดินทางและไม่ค่อยมีสมาธิ อย่างไรก็ดีเมื่อเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ผมไปจัดงานใหญ่ที่บ้านเกิด โดยเชิญ "หนูดี" วนิษา เรซ เจ้าของผลงานหนังสือเด่นดัง "อัจฉริยะ สร้างได้" ไปพูดให้ผู้ปกครองและเด็กๆ จังหวัดสุรินทร์ฟัง
ปรากฎว่า มีผู้หลั่งไหลเข้าฟังล้นหลามกว่า 1.800 คน ขณะที่หนูดีบรรยายนั้น เชื่อหรือเปล่าครับว่าสามารถตรึงผู้ฟังได้ติดต่อยาวนานถึง 3 ชั่วโมงเต็ม
ผมมีโอกาสได้ฟังหลายช่วงเหมือนกัน (ต้องเข้าๆ ออกๆ เพราะคอยต้อนรับผู้ใหญ่และพบกับเพื่อนๆ หลายคนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี) ต้องบอกว่าได้ฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะการดูแลรักษาสมองที่มีคุณค่ายิ่งของเรา การเรียนรู้ถึงหลักของการสร้างสมาธิ ที่สำคัญคือได้ตอกย้ำให้ทุกคนรู้ว่า อัจฉริยะภาพนั้นมีอยู่ในทุกคน เพียงแต่เรานั้นจะปลุกมันขึ้นมาได้อย่างไร
ท่านที่สนใจใคร่รู้ แม้จะไม่ได้ฟัง ก็สามารถหาหนังสือที่หนูดีเขียนไว้ มาอ่าน ผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน หาได้ร้านหนังสือทั่วไปครับ
ขอบคุณครับ จากครูหยุย 7 เมษายน 2553
ผมเพิ่งประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและกำกับดูแลสถานที่ดูแลเด็ก ที่ผมรับหน้าที่เป็นประธาน ก็ถือโอกาสสรุปผลการประชุมมา ณ โอกาสนี้ เผื่อเพื่อนๆ ที่ทำงานดูแลเด็กอยู่จะได้รับทราบไปพร้อมกัน ในเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า
1.ขอให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ประชาสงเคราะห์จังหวัด) ทำการสำรวจว่าในจังหวัดที่ตนรับผิดชอบอยู่นั้น มีใครรับเด็กด้อยโอกาสมาไว้ในความดูแลบ้าง จำนวนกี่คน และได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือยัง
2.ขอให้กรมการศาสนา สำรวจวัดที่รับเด็กด้อยโอกาสเข้ามาดูแลว่า มีวัดใด อยู่ที่ไหน เด็กมีจำนวนเท่าไร
3.ขอให้สำนักการศึกษาเอกชน สำรวจโรงเรียนเอกชนที่เปิดโรงเรียนประเภทสงเคราะห์เด็กด้อยโอกาสว่ามีกี่แห่ง แต่ละแห่งมีเด็กอยู่เท่าไร ตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง
ทั้งสามส่วนนี้ จะเป็นประโยชน์คือ หนึ่ง...จะได้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นว่า มีใครดูแลเด็กด้อยโอกาสอยู่บ้าง กี่แห่ง รวมเด็กแล้วมีจำนวนเท่าไร (ไม่รวมสถานสงเคราะห์ที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯดูแลอยู่ เพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว) สอง...จะได้นำไปจัดระบบว่าจะส่งเสริมสนับสนุนและกำกับดูแลองค์กรเหล่านั้นอย่างไรให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อร่วมดูแลสิทธิของเด็กด้อยโอกาสได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกด้านและทำให้องค์กรเหล่านั้นเข้มแข็งขึ้น
ผมคาดหมายว่าข้อมูลต่างๆ จะกลับมาถึงผมภายในเวลาหนึ่งเดือน หลังจากนั้นจะเร่งขับเคลื่อนงานต่อไป แล้วจะเล่าสู่กันฟังว่าผลเป็นเช่นไร หรือหากท่านใดทราบว่ามีสถานที่แห่งใดรับดูแลเด็กด้อยโอกาสอยู่ จะส่งข่าวคราวมาถึงผมก็จะเป็นประโยชน์ยิ่งครับ...แล้วพบกันในโอกาสต่อไปนะครับ