ทูลเชิญสันดุสิตเทวราชโพธิสัตว์จุติ


กาลบัดนี้ สมควรที่พระองค์จะจุติลงไปบังเกิดในมาตุคัพโภทร เพื่อชนนิกรในมนุษย์โลก กับทั้งเทวโลก

ทูลเชิญสันดุสิตเทวราชโพธิสัตว์จุติ พระพุทธเจ้าเมื่อยังมิได้ตรัสรู้ ได้ทรงบำเพ็ญบารมีอยู่ในชาติต่างๆ เรียกว่า "พระโพธิสัตว์" ในอดีตภพ พระโพธิสัตว์แห่งเรา บังเกิดเป็นสุเมธดาบส พบพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง มีพระนามว่า พระพุทธทีปังกรเจ้า ได้ตั้งความปรารถนาไว้ ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นพระองค์ท่าน จำเดิมแต่นั้น ก็ทรงบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ มีทานบารมีเป็นต้น อุเบกขาบารมีเป็นที่สุด บำเพ็ญเป็นเวลานับด้วยกัลป์ สิ้นภพสิ้นชาติอันประมาณมิได้ พระชาติสุดท้าย บังเกิดเป็นพระเวสสันดรโพธิสัตว์ ก็ทรงสร้างทานบารมีอย่างยอดเยี่ยม สิ้นจากชาตินี้ก็ขึ้นไปอุบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต เป็นเทพบุตรชื่อว่า "สันดุสิตเทวราช" เทพยดาในหมื่นจักรวาล จึงมาประชุมกันในสวรรค์ชั้นดุสิต ต่างยกหัตถ์ทั้งคู่ ชูอัญชลีกร ทูลอาราธนาว่า "ข้าแต่พระมหาวีระ กาลบัดนี้ สมควรที่พระองค์จะจุติลงไปบังเกิดในมาตุคัพโภทร เพื่อชนนิกรในมนุษย์โลก กับทั้งเทวโลก ข้ามให้พ้นจากห้วงแห่งความเวียนตายเวียนเกิด อันมิรู้จักจบสิ้น ให้รู้จริงบรรลุถึงทางปฏิบัติ ซึ่งจะเข้าสู่อมตมหานิพพาน" พระโพธิสัตว์ทรงพิจารณาดูปัญจมหาวิโลกนะทั้ง ๕ คือ กาล ๑ ทวีป ๑ ประเทศ ๑ ตระกูล ๑ พระมารดา ๑ (ปัญจมหาวิโลกนะ คือ ๑. อายุมนุษย์ประมาณ ๑๐๐ ปี เพราะถ้ามากกว่านี้ พวกมนุษย์จะไม่พิจารณาเห็นความเจ็บความชราความตาย เมื่อพระพุทธเจ้าแสดงธรรมเรื่อง ความเจ็บ ความแก่ ความตาย พวกเขาจะไม่รับฟัง เพราะมีอายุยืน สภาพเหล่านี้จะไม่ปรากฏ ๒. ทวีปต้องเป็นชมพูทวีป เพราะพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมอุบัติขึ้นในทวีปนี้ ๓. ประเทศที่จะเกิดต้องมีความเจริญ เรียกว่ามัชฌิมประเทศ ๔. ตระกูลต้องเป็นตระกูลที่มีคนนับถือ ซึ่งในสมัยนั้นคือกษัตริย์ ๕. มารดา ต้องเป็นหญิงที่ได้บำเพ็ญบารมีมาเป็นระยะเวลานาน) เมื่อได้พิจารณาเห็นครบทั้ง ๕ ประการแล้ว จึงทรงรับปฏิญญา เสด็จแวดล้อมด้วยเทพยบริวาร ไปสู่ทิพยนันทวันอุทยานในดุสิตเทวโลก เมื่อบังเกิดนิมิต ๕ ประการที่ทำให้เคลื่อนจากเทวโลก คือ ๑.ผ้าทรงเศร้าหมอง ๒. ทิพมาลาเหี่ยวแห้ง ๓. เสโทไหลออกจากพระกัฉะ ๔. ฉวีวรรณเศร้าหมอง ๕. เบื่อหน่ายทิพอาสนะ จึงจุติจากสวรรค์มาบังเกิดในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายา อัครมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ในวันเพ็ญเดือน ๘ เมื่อตอนพระโพธิสัตว์จะทรงถือกำเนิดในพระครรภ์ พระนางทรงสุบินนิมิต (ฝัน) เห็นช้างเผือกลงมาจากป่าหิมพานต์ เอางวงถือดอกบัวขาว เดินมาจากทิศเหนือบรรลือเสียงดังสนั่น เข้าไปในวิมานทอง เดินเวียนรอบปราสาทที่พระนางบรรทม สามรอบ แล้วหายเข้าไปในท้องของพระนาง พระนางจึงกราบทูลให้พระราชสวามีทรงทราบ และพระเจ้าสุทโธทนะรับสั่งให้โหรหลวงทำนายความฝัน พวกโหรหลวงกราบทูลว่า เด็กที่เกิดในพระครรภ์จะเป็นชาย ถ้าอยู่เป็นฆราวาสจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ถ้าออกบวชจะได้เป็นพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่นั้นมาพระเจ้าสุทโธทนะก็รับสั่งให้นางสนมดูแลรักษาพระนางและเด็กในครรภ์ เป็นอย่างดี

หมายเลขบันทึก: 348178เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2010 08:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท