เรียนฟรีอีกปี...........


 

เรียนฟรีอีกปี.........

ล่วงเลยกำหนดมาก็หลายวันแล้ว บรรดาคุณแม่คุณพ่อผู้ปกครองที่ลูกหลานกำลังจะขึ้น ม.1 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มร้อนใจกันมากขึ้น เพราะกระทรวงศึกษาธิการยังไม่กำหนดวันรับสมัครเสียที..

นอกจากกระทรวงศึกษาฯ จะต้องรอการประชุมของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ประเมินสถานการณ์ในวันที่ 23 มี.ค.นี้แล้ว ยังต้องรอท่านรัฐมนตรีชินวรณ์ บุณยเกียรติ ที่ไปรับจ๊อบเป็นตัวแทนเจรจากับกลุ่มเสื้อแดง กลับมาตัดสินใจว่าจะเปิดรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 เมื่อไรอีกด้วย..

ผู้ปกครองหลายคนบ่นว่า อยากพาลูกไปเที่ยวตอนนี้ ก็ไม่กล้าไป (ที่จริงก็อยากไปเที่ยวพอ ๆ กับลูกนั่นแหละ..) เพราะการหาโรงเรียนให้ลูกยังไม่เรียบร้อย ยิ่งเป็นช่วง ม.1 ยิ่งหน้าสิ่วหน้าขวาน ธรรมดาก็วุ่นมากอยู่แล้ว ปีนี้ยิ่งอุตลุดเข้าไปอีก..

เฮ้อ... น่าเห็นใจจริง ๆ ..  เอ้า... เฮ้อ.... ช่วยถอนหายใจแรง ๆ ด้วยอีกคน..สู้ ๆ .. นะตัวเอง..

ปีนี้ นับเป็นปีที่สองที่รัฐบาลประกาศใช้นโยบาย เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ซึ่งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ภาคภูมิใจอย่างมาก ว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดง..

แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า รัฐบาลประกาศนโยบายเรียนฟรีทีไร พ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องจ่ายสตางค์มากขึ้นทุกที แถมนโยบายฟรีทุกอย่าง ตั้งแต่ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน ค่ากิจกรรม และค่าเครื่องแบบ จะเป็นการให้แบบเหวี่ยงแหไปหน่อย

หนำซ้ำทำให้ผู้ปกครองหลายคนที่พร้อมจ่าย แบบยินดี ไม่มีปัญหา กลับไม่สามารถจ่ายได้ เพราะความไม่พร้อมของระบบ เล่นเอาหงุดหงิดไปพอสมควร..

ปีการศึกษาที่ผ่านมา โรงเรียนหลายแห่งไม่กล้าแจกหนังสือตำรับตำราให้เด็กเลยแม้แต่เล่มเดียว แต่ใช้วิธีถ่ายเอกสารเป็นชีท ทยอยแจกให้เดือนละ 2-3 ครั้ง หนักเข้าชีทที่ว่ามีหลายวิชา หลายแผ่น เด็กก็ทำหายหกตกหล่นบ้าง ขาดวิ่นไปบ้างตามประสาเด็ก พลอยถูกคุณพ่อคุณแม่ดุเอา จ๋อยไปเลย..

สาเหตุเบื้องหลังที่โรงเรียนไม่ยอมแจกหนังสือให้เด็ก เพราะกระทรวงกำหนดให้โรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบดูแลหนังสือเรียนทั้งหมด โดยให้เด็กยืมเรียนเท่านั้น

รวมทั้งห้ามเด็กขีดเขียน จดโน้ตใด ๆ ลงในตำราอย่างเด็ดขาด เมื่อเรียนจบสอบเสร็จก็ต้องคืนให้โรงเรียนในสภาพเรียบร้อย ไม่เช่นนั้นโรงเรียนจะต้องหางบมาซื้อหนังสือทดแทน

นอกจากนี้ จะด้วยความเร่งรีบของนโยบาย หรือการปรับหลักสูตรอย่างไร ไม่ทราบชัด ทำให้การจัดพิมพ์หนังสือเรียนไม่ทันตามความต้องการ ลำพังจำนวนหนังสือที่โรงเรียนจะต้องเตรียมไว้ให้เด็กยืม ก็ไม่ค่อยจะครบอยู่แล้ว หากผู้ปกครองอยากจะซื้อเอง ก็ยังไม่มีขายให้เช่นกัน..

นักวิชาการหลายคนวิพากษ์นโยบายเรียนฟรีของรัฐบาลนี้ ว่า ไม่ต่างกับนโยบายประชานิยมสมัยพรรคไทยรักไทย แถมยังนำมาขยายความจนครอบคลุมกว้างขวางเกินไป แทนที่จะเน้นให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาส หรือรายได้น้อย ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ แล้วให้ผู้ที่มีความสามารถ หรือมีกำลังพอ รับภาระเองบ้าง จะเป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่ามากกว่า

แต่เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว นาทีนี้ เรียนเชิญ ฯพณฯ ท่านรัฐมนตรีศึกษา กลับเข้ากระทรวงไปเซ็นเอกสารเปิดรับสมัคร ม.1 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 8 จังหวัดก่อน หรือถ้าไม่อยากไปแถวนั้น จะให้เจ้าหน้าที่เอาเอกสารไปให้เซ็นที่ไหนก็บอกมา..สมัครกันแล้ว สอบกันแล้ว จับฉลากกันแล้ว หาโรงเรียนได้แล้ว จะฟรี ไม่ฟรี อย่างไร ค่อยมาว่ากัน.

คุณนายทอม ([email protected])

เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 23 มีนาคม 2553

วันนี้ 29  มีนาคม  2553  โรงเรียนเมืองชุมพรบ้านเขาถล่ม มีการประชุมผู้ปกครองนักเรียน  เพื่อชี้แจงผลการเรียนของบุตรหลาน.....และที่สำคัญ...

วันนี้มอบเงินเรียนฟรี....เพื่อซื้อเสื้อผ้าชุดนักเรียน...

ครูประจำชั้นพบผู้ปกครองแจ้งผลการเรียน...และแจกเงินเรียนฟรี.....

หนูจ๋าปิดภาคเรียนรักษาสุขภาพนะจ๊ะ...ขอให้ปลอดภัยไว้ก่อน  ...ยังมีเงินเรียนฟรีให้อีกนะจ๊ะ..เดี๋ยวจะไม่มีคนรับเงินจะเหลือนะ

คำสำคัญ (Tags): #เรียนฟรี
หมายเลขบันทึก: 347965เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2010 13:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ครูบนเขาภูพานทอง

เงินเรียนฟรีช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองได้บ้างแม้ไม่มากแต่ดีกว่าไม่ได้.....รร.ที่ผู้ปกครองรายได้น้อย...ดีใจที่มีโครงการดีๆแม้จะว่าเพื่อประชานิยมก็ตาม...หวังว่าจะมีโครงการนี้ตลอดไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท