ตามไปดู ^_^ ผู้พิการ (๑)


แบบนี้ก็มีด้วย

      

 

        ก่อนพระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้า  เสียงโมบายห้อยระย้าที่หน้าบ้าน  แข่งกันส่งเสียงดังกรุ๊ง  กริ๊ง ๆ ๆ คล้ายกับการหยอกเอิญกับแรงลมที่พัดผ่านเข้ามาอย่างสนุกสนาน  เสียงดังขึ้น  ดังขึ้นเรื่อยๆ  บางครั้งผ่อนเบาบ้าง  แต่ยังดังอย่างต่อเนื่อง...มันเกิดอะไรขึ้น  ก็เมื่อวานอากาศยังร้อนอบอ้าว  ใบไม้ไม่ไหวติง  ทุกอย่างดูนิ่งเหมือนเชื่อฟังอากาศร้อน   เมื่อสัมผัสกับอากาศข้างนอก ฉันยังรู้สึกแสบหน้าอยู่เลย 

        มาคืนนี้เสียงลมดัง วู้ วู้...อย่างต่อเนื่อง  เมื่อมองผ่านช่องกระจกของหน้าต่าง ต้นไม้ทุกต้นล้วนเอนไหวไปทางเดียวกันหมด  ก่อนที่จะกลับมาตั้งตรงเช่นเดิม  อากาศวันนี้ช่างดีจริงๆ  หลังจากร้อนมานาน  เมื่อเดินออกมาสัมผัสกับอากาศข้างนอก  ฉันรู้สึกหนาวเย็นเข้าลึกถึงทุกซอกทุกมุมของร่างกาย  ปฏิกิริยาของผิวหนังแสดงอาการทันที  ขนแขนลุกตั้งชันจนแขนของฉันทั้งสองข้างคล้ายมีตุ่มๆขึ้นเต็มไปหมด  ฉันไม่พลาดโอกาสที่จะยืนหันหน้ารับลมที่หน้าบ้าน และหลับตาพริ้มอย่างเย็นสบาย  สดชื่นจนหนาวเหน็บเลยนะวันนี้  หลังร้อนมาเป็นเดือน  

        ฟ้าเริ่มสาง  เสียงไก่บ้านข้างๆขันรับแสงอาทิตย์  หมาน้อย 3 ตัว พากันเดินแกว่งหาง พร้อมใช้เท้าหน้าตะกุยประตู  เป็นการแจ้งสัญญาณว่าอยากออกนอกบ้านเต็มที  เมื่อฉันเปิดประตูให้ต่างวิ่งกันอย่างเริงร่าออกนอกบ้านไป  ลุง อาๆ ทั้ง 3 คนที่วิ่งออกกำลังกายยามเช้าจากปากซอยจนถึงหน้าบ้านฉันแล้วก็จะวิ่งกลับตั้งแต่ตี 5 จนเกือบ 6 โมงเช้า คนแรกคือคุณอาของฉันเอง ฉันเดาว่าคุณอาคงติดนิสัยเมื่อครั้งเป็นทหาร  คุณอาคงวิ่งทุกวันและตั้งแต่คุณอาลาออกมาอยู่บ้านก็เห็นคุณอาวิ่งอย่างนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว คนที่ตามมาวิ่งเพิ่มด้วยกันก็คือคุณลุงบ้านตรงข้าม ส่วนคุณอาอีกคนหลังออกจากงานประจำก็มาวิ่งด้วยกัน เพิ่มสมาชิกเป็น 3 คน   พระ 3 รูปเดินบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านเช่นทุกวัน  คนทำงานประจำก็ได้ใส่บาตรก่อนไปทำงาน

  

        พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า  นกกาต่างออกหากิน  ทุกชีวิตดำเนินไปตามวิถี...วันนี้ฉันนัดกับ jaja ว่าเราจะไปร่วมงานผู้พิการที่ สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งทับกวาง     รับทราบแต่เพียงว่าไปแจกของกัน  ก่อนออกจากบ้านรู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้ไปร่วมงานนี้  เพราะอะไรตอบไม่ได้รู้สึกปิติในใจลึกๆ  วันนี้แม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มคล้ายฝนจะตก  แต่อากาศกับหนาวราวฤดูหนาว  นี่มันแปรปรวนถึงขนาดนี้เชียวหรือ  สัมผัสได้ถึง 3 ฤดูในสัปดาห์เดียวกัน  แม้ฟ้าจะมืดครึ้ม  แต่ใจฉันรู้สึกสว่างไสวและเริงร่าอย่างบอกไม่ถูก

        เมื่อไปถึงโรงพยาบาลตามเวลานัดหมายโทรถาม jaja ได้รับคำตอบว่า 

        “เจ้...เจ้ไปกับน้องกุลนะ  กุลบดี หรือที่พวกเราเรียกล้อกันเล่นๆว่า กุน-บ่-ดี ซึ่งเป็นนักกายภาพและเป็นหัวหน้างานเวชปฏิบัติฟื้นฟู  ผู้รับผิดชอบงานผู้พิการของ ต.ทับกวาง 

       “หนูขอโทษนะเจ้...ที่ไปกับเจ้ไม่ได้เพราะต้องทำแบบประเมิน completency และ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ตาม KPIs  ส่งหัวหน้าด่วนภายใน 10 โมงเช้านี้  เดี๋ยวหนูโทรบอกน้องกุลให้ก่อนนะ เจ้จะยังไปมั้ย  คุณน้อง jaja ผู้น่ารักของฉันเล่าแจ้งแถลงไขมาตามสาย   

        “ไม่เป็นไรจ้า...ส บ ม ย ห... ฉันตอบน้องไปตามสาย เพราะฉันตั้งใจมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว  แล้ว  และวันนี้งานที่ห้องก็เคลียร์เรียบร้อยแล้ว  สักพักน้องกุลโทรมาหาฉันเร็วทันใจดีจังเพิ่งวางสายจาก jaja สักครู่นี้เองโทรคุยกันแล้วเหรอ...คุยกันสักพักน้องกุลบอกว่าตอนนี้อยู่ที่สถานีอนามัยทับกวางแล้ว  รอฉันอยู่ยังไม่ได้ออกกันให้รีบมาเลย...ไม่รอช้าฉันบึ่งรถคู่ใจของฉันไปยังเป้าหมายทันที 

        น้ำใจของน้องกุล...ฉันถามว่าใครมาส่งหรือ  น้องกุลบอก  รถโบกค่ะพี่ กำลังรอรถประจำทาง  สระบุรี-มวกเหล็ก ที่ต้องผ่านทับกวาง  พอดีพี่กุ้ง พยาบาลของสถานีอนามัยทับกวางผ่านทางมาพอดีจึงโบกรถมาด้วยกัน  ถามว่าทำไมถึงไม่ขอรถโรงพยาบาล เมื่อเรามาทำงานในหน้าที่ น้องกุลบอกเกรงใจค่ะพี่หนูมาคนเดียว  แล้วพี่ล่ะ? ทำไมขับรถมาเอง... ฮ่า ๆๆ  เจ๊ากันไปนะน้องบ่ดี  เราคงหัวอกเดียวกัน  สิ่งไหนทำได้  สิ่งไหนทำให้ง่าย  ถ้ามันไม่มากไป  พี่ทำได้อยู่แล้วค่ะ 

        น้องกุลกับมะเดี่ยว  ยืนคู่กันรอที่สนามหญ้าหน้าสถานีอนามัย  มะเดี่ยว หรือน้องเดียว  น้องกุลนั่นแหละที่พาฉันเรียกเธออย่างนั้น  เพราะเธอยังเป็น บ่-ดี ของชาว รพ.แก่งคอย มะเดี่ยว  เป็นเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยตำบลทับกวาง  ผู้เชี่ยวชาญในการเดินในพื้นที่  เรียกว่าทุกซอกมุมเธอรู้จักหมด  รู้กระทั่งว่ามีบางมุมที่เธอไม่ควรเข้าไปยุ่ง  หรือบางมุมแค่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ  เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของชีวิต  แม้เธอจะไม่ใช่คนในพื้นที่  แต่ 8 ปีที่เธอมาทำงานที่นี่พอที่จะทำให้เธอได้รู้จักกับทุกคนในตำบลทับกวาง  ในนามของ  หมออนามัย

สามสาวเพาเวอร์พับเกริล จากซ้ายสุดมะเดี่ยว  ขวาสุดน้องกุล

        “รอแป๊บนึงนะพี่  พอดีพี่เค้าลืมของเข้าไปเอาของที่สถานสงเคราะห์ก่อน ทีแรกว่าจะจัดงานในสถานสงเคราะห์นั่นแหละ  แต่เห็นว่าบางคนมาลำบากเราก็เลยจะนำไปให้เขาที่บ้านเลย  น้องกุลรีบรายงานเกรงว่าพี่จะว่ารออะไร  เอ! ของอะไรนะที่เค้าจะแจก ตอนที่ฉันตัดสินใจจะมาด้วยคือการได้เยี่ยมผู้พิการไปด้วย ถ้าจะช่วยแจกของก็ยินดีอยู่แล้ว

        “เป็นงบของสถานสงเคราะห์เขาน่ะพี่  แต่เรารู้ว่ามีผู้พิการที่ไหนบ้างก็เลยจะนำทางให้พี่เค้า  น้องกุลยังคงอธิบายต่อ

        “อ๋อ...แจกเงิน  ก็ไม่หนักน่ะสิ  ฉันพูดล้อน้องกุลเล่น

        สักครู่รถปิ๊คอัพ 4 ประตูก็มาถึง  มีพี่เสือเป็นพนักงานขับรถที่ใจเย็นและน่ารักมาก  ไม่ต้องบอกว่าจะต้องทำอะไรบ้าง  พี่เสือจะรู้หน้าที่เห็นพวกเราเดินไปเยี่ยมบ้าน  ถ้ารถเข้าถึงพี่เสือจะขับรถไปรับถึงที่  กลับรถไว้รอพร้อมเดินทาง  ไม่มีอารมณ์เสีย  ซึ่งต่างกับพนักงานขับรถที่โรงพยาบาลของเรา (บางคน) จังเลย

  

ซ้าย ป้ากบ       กลาง  น้องหนุ่ม        ขวา พี่เตือนใจ

       พี่เตือนใจหัวหน้าทีมเป็นคนใจเย็น น่ารักมากเหมาะที่จะทำงานในสถานสงเคราะห์มากด้วยบุคลิกภาพความเย็นของพี่เตือน

         ป้ากบ  พวกเราเรียกตามพี่เตือนแต่คิดว่าอายุมากกว่าพี่เตือนไม่มาก

         น้องหนุ่ม  เจ้าหน้าที่อีกคนที่มาด้วย  น้องหนุ่มก็เป็นคนน่ารักอัธยาศัยดี  พูดเพราะที่สำคัญพูดภาษาถิ่นได้คล่องมาก

        เมื่อเจ้าสี่ล้อขับเคลื่อนพาพวกเราออกจากสถานีอนามัย  เป้าหมายคือ  บ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5  เพื่อไปบอกกล่าวว่าพวกเราจะเข้าไปทำอะไรในหมู่บ้าน  แต่สำหรับเจ้าตัวผู้ที่จะได้รับเงินสนับสนุน ยังไม่ได้แจ้งไว้  เพื่อเราต้องการไปพบแบบที่เป็นธรรมชาติของการดำรงชีวิตตามวิถีของเขา

        มะเดี่ยวถือรายชื่อผู้พิการอยู่ในมือที่วันนี้เราจะต้องไปเยี่ยมให้ได้ทั้งหมด 15 รายฉันแอบดูที่หัวกระดาษและถึงบางอ้อว่าเป็น เป็นกิจกรรมการจัดสรรสวัสดิการทางสังคม / การเฝ้าระวังคนไร้ที่พึ่งในชุมชน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือการไม่เพิ่มประชากรในสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งอีกทางหนึ่ง ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

         “แปลกนะ  เรามีเงิน  มีงบ  แต่ใช้อะไรไม่ได้  ให้ออกมาช่วยคนข้างนอก  ขณะที่ข้างในพวกเรายังขาดอยู่เลย  ส่วนใหญ่ก็ได้มาจากการบริจาค  พี่เตือนตัดพ้อให้ฟัง

        “วันนี้เรามีงบอยู่ 3 หมื่นบาทก็จะนำเงินไปช่วยรายละ 2 พันบาท  พี่เตือนอธิบายให้ฟังต่อระหว่างนั่งในรถ

         แล้วก็วางแผนกันว่าจะเริ่มที่รายใดก่อน  เพื่อให้การเดินทางสะดวกไม่วกไปวนมา  หลังออกจากสถานีอนามัยมา  ฉันก็เริ่มจำทางไม่ได้เสียแล้ว  เนื่องจากเลี้ยวขวาบ้าง  เลี้ยวซ้ายบ้าง  ขึ้นเขาบ้าง  ลงเขาบ้างอยู่อย่างนี้สักประมาณครึ่งชั่วโมง  ตลอดสองฝั่งข้างทาง  ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา  บางลูกก็เขียวขจี  บางลูกก็แห้งแล้ง  ภูเขาบางลูกก็ถูกตัดยอดเขามองดูเหมือนถนนทางราบบนภูเขา  ท้องฟ้าก็ดูครึ้มๆ  ลมก็แรงโชคดีที่ฉันเตรียมเสื้อแจ๊คเกตกันหนาวมาด้วย  น้องกุลรีบหยิบถุงแขนที่พกติดตัวตลอดออกมาสวม  ส่วนมะเดี่ยวรีบออกตัวว่า

         “หนูรุ่นทนแดด ทนฝน ทนหนาว  เปล่าหรอก  เพราะไม่ได้เตรียมมาต่างหาก  แต่มะเดี่ยวก็จะพูดติดปากเสมอ  ไม่เป็นไรพี่ ๆ 

         หลังแรกที่พวกเราเดินทางไปถึงแม้จะขับรถเลยไปเล็กน้อย  คือบ้านผู้ใหญ่บ้าน  แต่ผู้ใหญ่ไม่อยู่ ญาติๆบอกว่าออกไปที่ วัดถ้าพระโพธิสัตว์  พวกเราจึงไปหาผู้ใหญ่ที่วัดแต่ไม่พบ  จึงปรึกษากันว่าไม่เป็นไร  ถ้าอย่างนั้นเราจะนำเงินช่วยเหลือไปให้ผู้พิการเลย

ภาพจาก Internet

        ข้อมูลของน้องกุลเล่าว่า...พื้นที่ตำบลที่รับผิดชอบผู้พิการมีผู้พิการทั้งสิ้น เกือบ สามร้อยคน  เฉพาะที่มีที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์  ยังไม่นับที่มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง  หรือที่ไม่มีบัตรประชาชนอีก  คนเหล่านี้จึงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ  และไม่มีสิทธิใดๆ  เพราะไม่มีหลักฐานใดๆที่จะแสดงได้ว่าเป็นคนไทย...ประชากรที่นี่หลายครอบครัว  หลายคนไม่มีใบเกิด  ไม่มีบัตรประชาชน  เพราะมันเป็นมรดกตกทอดกันมา  พ่อแม่ไม่มีบัตรประชาชน  เมื่อลูกเกิดมาส่วนใหญ่จะคลอดเองที่บ้าน  แล้วก็ไม่ไปแจ้งเกิด  เมื่อรัฐเข้ามาช่วยเหลือคนเหล่านี้จึงพลาดโอกาสไป  เมื่อให้ไปแจ้งและหาคนรับรองเขาบอกว่ามันยุ่งยากมากหมอ  ยากจริงๆ  อยู่อย่างนี้ก็ได้ก็ทำมาหากินในพื้นที่ตัวเองไปเรื่อยๆ  เพียงแต่แสดงสิทธิและเสียงใดๆไม่ได้เลย  ยังไม่นับที่มีสิทธิ์เมื่อลูกเกิดมาบ้าใบ้แล้วไปขายสิทธิ์ให้คนอื่นมาสวมบัตรประชาชนตัวเอง แบบนี้ก็มี

        จะเห็นว่าเมื่อเราไปทำหนึ่งเรื่องแต่ข้อมูลที่ได้มันมากกว่าหนึ่งเรื่องมันสัมพันธ์กันอย่างยุ่งเหยิงทีเดียว  อย่างเช่นคนไม่มีสิทธิ์  ทำให้สิทธิของการรักษา  การช่วยเหลือจากภาครัฐ  การศึกษา  ฯลฯ  เหล่านี้จะทำให้คนกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิและไม่มีโอกาสใดๆเลย  จากจำนวนที่มากนี้  บางครั้งผู้พิการเองก็มาตัดพ้อว่าหมอไม่เห็นมาเยี่ยมอีกเลย...สำหรับน้องกุลผู้ออกตะเวนไปสำรวจ  แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์  ว่ารายใดต้องให้มาพบที่โรงพยาบาลเพื่อฟื้นฟูโดยใช้กายอุปกรณ์  รายใดจะให้ญาติทำเอง  รายใดจะประยุกต์ใช้กายอุปกรณ์ที่ทำเองได้บ้าง

        “โอ้ว!  จอร์จ  หนูไม่สามารถเยี่ยมซ้ำได้เลยพี่  นี่ถ้าหนูออกเยี่ยมอย่างเดียวนะ  วันละรายก็ครบปีพอดี  น้องกุลคุยไป  หัวเราะไป  แต่กระนั้นน้องกุลก็พยายามทำให้ได้มากที่สุด น้องกุลยังบอกอีกว่าที่สำคัญที่สุดคือความเข้าใจ  ความรัก  ความเอาใจใส่ของญาติที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยได้ดีที่สุด  โดยเฉพาะในรายที่ต้องฟื้นฟูที่บ้าน

หมายเลขบันทึก: 347654เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2010 02:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับ น้องน้ำชา

0 ทับกวางคือสถานที่สำคัญอีกแห่งที่ถูกกล่าวถึงใน ในซีไรต์ปีนี้ "ลับแล แก่งคอย"

0 กิจกรรมเกี่ยวคนพิการ พม. เราทำงานเชิงในการสงเคราะห์ ในอนาคตการดูแลช่วยเหลือ คงถ่ายโอนมาให้ อปท. และกองทุนสวัสดิการชุมชน "ให้อย่ามีคุณค่า รับอย่างมีศักดิ์ศรี" อย่างเช่น กองทุนออมบุญเทศบาลตำบลปากพะยูน

0(“แปลกนะ เรามีเงิน มีงบ แต่ใช้อะไรไม่ได้ ให้ออกมาช่วยคนข้างนอก ขณะที่ข้างในพวกเรายังขาดอยู่เลย ส่วนใหญ่ก็ได้มาจากการบริจาค” พี่เตือนตัดพ้อให้ฟัง) การที่หมอ พยาบาล ลงไปดูแลผู้พิการ เป็นการทำหน้าตาม การเข้าถึงและใช้บริการสาสุขครับ

0จะทำวิทยานิพนธ์ "เรื่องการเข้าถึงทางด้านสุขภาพของคนพิการทุกประเภท" เพราเห็นว่ายังมีผู้พิการหลายประเภท หลายคนที่อยู่ชายขอบ ยังเข้าไม่ถึงสิทธิ์ทางด้านสุขภาพ

0ฝากขอบคุณ น้องกุลน้องมะเดี่ยว ที่เป็นทัพหน้าในการค้นหาผู้พิการครับ

ถ้าภาวนาให้ drive K เสียบ่อยๆ จะเป็นไรมั้ยเนี่ย 55

พี่น้ำชา สู้ สู้

สวัสดีค่ะ  ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

ขอสนับสนุนวิทยานิพนธ์ค่ะ  แต่ส่วนน้อยก็มีค่ะที่เรียกว่า  "หัวหมอ"  อยากได้ทุกอย่างไม่เคยพอทั้งๆที่ตัวมีมากกว่าคนอื่น

สำหรับมะเดี่ยว  ต้องเรียกว่าตัว "แผนที่เดินดิน"  เลยค่ะ

น้องกุลบอกหนูต้องมี อสม.ไปด้วยค่ะพี่ ไม่งั้นไม่มั่นใจ  เพราะพื้นที่กว้าง  และมีความแตกต่างกันในการดำเนินชีวิต  แต่หัวใจของน้องทั้งสองแกร่งค่ะ

ช่วยกันขับเคลื่อนคนละทางเพื่อให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงบริการจริงๆค่ะ

ขอบพระคุณแทนน้องๆด้วยค่ะ

เจ้เริ่มจับทางถูกแล้ว  แต่ไม่รู้จะมีคนปิดทางรึเปล่า 555

K:\  ล่มบ่อยเจ้  ก็เหนื่อยตามหลัง  แค่สองอาทิตย์ก็พอประมาณ

สู้ สู้  เช่นกันจ้า

ส่งรายงานหัวหน้าเรียบร้อยแล้วสิ  โชคดีนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท