หมิ เสียหายครับ กรุณาลบความเห็นที่ให้ด้วยครับคุณหมอ
ชอบแวะมาบ้านนี้ ให้สาระความรู้ และหรรษาแบลุ่มลึก ประมาณ หึหึ
เด็กไทยไม่กินหวาน งบประมาณในการทำโครงการ ไม่มากแต่ป้องกันการแก้ปัญฟันในการรักษาในอนาคต ประหยัด งปม.ได้มหาศาล ว่าอย่างนั้นมั้ยหมอ
ใช่แล้วค่ะท่านลุงบังวอญ่า
ไม่ใช่แค่ประหยัดงบประมาณการรักษานะคะ
อย่ารู้จักเลย .... โรคฟันผุ ปวดฟันจี๊ดขึ้นไปถึงหัว ดื่มน้ำก็เสียว ต้องคอยแคะเศษอาหารออกจากรูผุให้ลูกหลาน ปวดมาก ๆ ก็ร้องไห้ นอนไม่ได้กันทั้งบ้าน ทุกข์ทรมานเสียสุขภาพจิต พ่อแม่พลอยขาดงานไปด้วย ไม่งั้นตาหรือยายก็กระย่องกระแย่งจูงพาหลานมา ถ้าเข้าชั้นประถมศึกษาแล้ว....ก็เสียการเรียน
ร้ายกว่านั้น.....เป็นเบาหวานตั้งแต่อายุน้อย ๆ (มีรายงานพบที่ 8 ขวบค่ะ) โรคแทรกและคณะตามมาอีกสารพัด.....ไม่ใช่แค่งบรักษานะคะ สุขภาพของชีวิตที่เหลือล่ะ ?
ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ...สุด
เริ่มต้นตอนที่สุขภาพยังดี อายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
พิสูจน์.....ไม้อ่อนดัดง่าย....จะยังจริงหรือไม่ ?
ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ
มีกิจกรรมหลากหลายดีนะครับ ช่วงนี้เห็นเด็กๆๆแล้วน่าเป็นห่วง เจอทั้งโรคอ้วน ฟันผุครับ ตามมาให้กำลังใจ รออ่านอีกนะครับ ขอไปเชียร์แม่หมอนนทลี กรมอนามัยก่อนครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะอาจารย์สำหรับกำลังใจ
มีแต่เรื่องอยากเขียนเต็มไปหมดเลยค่ะ
แต่ความสมดุลกับเวลา....ยังสรรหาไม่ลงตัว
จะพยายามนะคะ
มาต่อตามสัญญา (นานนิดนึง)
ภาพลีลาท่าทางเด็ดของ ผอ.อมร ในการนำเสนอบันได 5 ขั้น กลุ่ม ก. ยิ้มสดใสทันตกรรมป้องกันของนักเรียนประถมศึกษา
2. ให้ความรู้กับนักเรียนเรื่องการแปรงฟัน มีกิจกรรมการแปรงฟันทุกวันและแปรงฟันให้ถูกวิธี แต่งตั้งครูและนักเรียนรับผิดชอบดำเนิน การแก้ปัญหาโรคฟันผุ อบรมให้ความรู้ผู้นำนักเรียนด้านสุขภาพฟัน จัดมุมให้ความรู้ในการรักษาฟันให้ถูกต้อง พร้อมมีครูหรือวิทยากรคอยแนะนำ
3. ให้ครูผู้สอนบูรณาการกับทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ประสานผู้เกี่ยวข้องนำนักเรียนผู้มีปัญหา เข้ารับการรักษาโดยด่วน ทำความเข้าใจระหว่างโรงเรียนกับร้านสหกรณ์และร้านค้า แนะนำผู้ปกครองให้รู้จักการเลือกรับประทานขนมหวาน หรือไม่รับประทานอาหารที่ทำให้ฟันผุ
4. มีกิจกรรมการแข่งขันประกวดฟันสวยโดยมอบรางวัลผู้ชนะเลิศ สร้างบรรยากาศ เพื่อรักษาสุขภาพฟันให้แข็งแรงด้วย 3 อ. อารมณ์ อุจจาระ (ยังไม่ค่อยเข้าใจ) อากาศ มีการประเมินผลและตรวจสอบเรื่องคุณภาพของฟันเป็นรายเดือนหรือ 2 เดือน รายงานผลจัดทำโครงการ
5. เด็กนักเรียนมีฟันสวยและแข็งแรง สุขภาพฟันที่ดี นักเรียนสามารถดูแลฟันตนเองได้และสามารถแนะนำผู้อื่นให้ใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากได้
ภาพชัดแจ๋วแจ่มแจ้งแถลงไขของ อ.ยุพิน กลุ่ม ข. เครือข่ายเด็กไทยฟันดี แสดงบันได 5 ขั้น
1. วิทยากรให้ความรู้กับผู้ปกครองนักเรียนเกี่ยวกับการดูแลช่องปากของตัวเองและบุตรหลาน จนเป็นนิสัย ฝึกนิสัยให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ นักเรียนรู้วิธีแปรงฟันที่ถูกวิธี ประชุมวางแผนในการจัดกิจกรรมการแปรงฟันนักเรียนของครูกลุ่มเครือข่าย วิทยากรจากสาธารณสุขไปให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาช่องปากทุกปี ครูผู้รับผิดชอบโครงการจัดอบรมนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน ให้ความรู้เรื่องสุขภาพช่องปากและฟัน
2. นักเรียนรู้จักหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ฟันผุ นักเรียนเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อฟัน สร้างสุขนิสัยรักการแปรงฟัน
3. นักเรียนต้องปรึกษาทันตแพทย์ทุก 6 เดือน ได้รับบริการอุดฟัน ขูดหินปูน ใช้ฟันได้อย่างถูกวิธี เช่น ไม่ใช้ฟันเปิดฝาน้ำต่าง ๆ มีสุขนิสัยที่ดีต่อฟันตนเอง ไม่ปวดฟัน และมีสุขภาพช่องปากและฟันแข็งแรง
4. ผู้ปกครองดีใจที่ลูกหลานมีสุขภาพช่องปากและฟันแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคมะเร็งในช่องปาก รู้จักการแปรงฟันที่ถูกวิธี และรู้ถึงประโยชน์ในการแปรงฟันทุกวัน
5. นักเรียนมีสุขนิสัยที่ดีทุกวัน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึง ม.3 มีสุขภาพปากและฟันดี ไม่เป็นโรคฟันผุ ปลอดภัยจากโรคเหงือกอักเสบ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในโรงเรียนเครือข่าย นักเรียนทุกคนต้องมีฟันสวยยิ้มสดใสและยิ้มอย่างมั่นใจ เด็กทุกคนกล้าแสดงออกด้วยความมั่นใจ มีความสุขและมีเพื่อนมาก
กิจกรรมเครือข่ายเด็กไทยฟันดี
1. สำรวจปัญหา พบฟันผุ หันเข้าจากบ้าน ชุมชน
2. เสนองานผู้อำนวยการ เป็นนโยบายของโรงเรียน จัดทำโครงการ แต่งตั้งคณะกรรมการ
3. กิจกรรมที่เครือข่ายช่วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
4. แทรกแผนการสอนเรื่องทันตสุขภาพในทุกชั้นเรียน
5. มีกิจกรรมการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันร่วมกันหลังรับประทานอาหาร มีการแปรงฟัน และมีการอมน้ำเกลือ (ถ้ามีเม็ดสีจะมีการเคี้ยวเม็ดสีก่อนแปรงฟัน)
6. จับคู่เด็กตรวจฟันให้กัน
7. ได้รับความรู้เรื่องฟันและอาหารที่มีประโยชน์ต่อฟัน
8. ประชุมผู้ปกครอง แทรกการดูแลฟัน ให้ผู้ปกครองช่วยดูแลฟัน
9. มีการประเมินติดตาม ผลการดำเนินการ
รายชื่อโรงเรียนเครือข่ายเด็กไทยฟันดี อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย ปี 2553
1. โรงเรียนบ้านเหมือดแอ่ 2. โรงเรียนบ้านนากอ
3. โรงเรียนตอแก 4. โรงเรียนอนุบาลบ้านคอกช้าง
5. โรงเรียนเดื่อทุ่งสวรรค์ 6. โรงเรียนฉันทนาวัณรถ
7. โรงเรียนบ้านหนองบัวเงิน 8. โรงเรียนน้ำสวยมิตรภาพที่ 19
ภาพคุณครูเจี๊ยบคนเก่งนำเสนอ กลุ่ม ค. เด็กไทยไม่กินหวาน เด็กส่วนมากชอบกินขนมทำให้ฟันผุ จะคุยกันในโรงเรียนที่จะทำโครงการเด็กไทยไม่กินหวานว่าจะมีแนวทำอย่างไรบ้าง ขั้นแรกจะนำเสนอผู้บริหารเพื่อหาแนวทางลดการกินหวานในโรงเรียนของเรา จะประชุมผู้ปกครองขอความร่วมมือคุยกับแม่ค้าขนมหวาน จะประสานทีมโรงพยาบาลและอนามัยภายหลัง
รายชื่อโรงเรียนเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย ปี 2553
3. โรงเรียนบ้านโนนแดง 4. โรงเรียนโนนดู่โพนหวาย
5. โรงเรียนบ้านหมากหุ่งขี้เหล็ก 6. โรงเรียนโพนสวรรค์
สรุปการประชุมได้ว่า
เป็นไงบ้างคะ...เริ่มต้นการวางแผนแบบสนุกสนานครื้นเครง ออกมาจากใจและประสบการณ์ตรงของเหล่าครูมืออาชีพ ต่อนี้ไปก็เป็นฝีและมือของผู้ที่ได้ทำสัญญารวมใจจากหนึ่งเป็นสอง...และสามสี่ห้า...จนกว่าจะถึงวันที่ออกไปทำงานที่โรงเรียนร่วมกัน แล้วค่อยมาเติมเต็มเล่าต่อ ค่อย ๆ ถอดประสบการณ์เป็นครูต่อ ๆ และต่อ ๆ ไป
ของฝากก่อนลาจาก....น้องเจี๊ยบ สสอ.สระใคร สอนให้ยกมือขึ้นประสานเหนือหัว เกร็งหน้าท้อง เดินท่าผีก็องกอย เข่าตรงขาตรงสลัดขาซ้ายสลับขวา....ฮากันตรึม วันละ 2 – 4 ร้อยครั้ง ใครพุงไม่ลด.....เชิญมาเรียนตัวต่อตัว
สวัสดีแค่นี้ก่อนนะคะ….ไปทำท่าผีก็องกอย
ธิรัมภา
ขออภัย 31 พฤษภาคม 2553 นะคะ มิใช่ 31 มิถุนายน
ธิรัมภา
ครูอนามัยเข้มแข็งพัฒนาเครือข่ายเด็กไทยฟันดี อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย
เครือข่ายครูอนามัยเข้มแข็ง เป็นก้าวย่างสำคัญในการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ในโครงการยิ้มสดใสเด็กสระใครไม่กินหวาน อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย
หลังจากคุณครูอนามัยจาก 8 โรงเรียนของอำเภอสระใคร ผู้เป็นตัวแทนโรงเรียนสมัครเข้าร่วมเครือข่ายเด็กไทยฟันดี จังหวัดหนองคาย ปี 2553 พร้อมกับอำเภอปากคาดและศรีวิไล รวม 24 โรงเรียนในจังหวัดหนองคาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองคายเขต 1 - 3 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ได้เชิญประชุมระดมสมองร่วมดำเนินการระดับจังหวัด เมื่อวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553 ณ โรงแรมไทยลาวริเวอร์ไซด์ โดยอาจารย์นิทัศน์ ปลัดพรหม และทพ.วัชรพงษ์ หอมวุฒิวงศ์ เป็นวิทยากรกระบวนการ ด้วยโอกาสความน่าจะเป็น 0.33 อำเภอสระใครของเราจึงได้รับภารกิจพัฒนากิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของนักเรียน (ฮ่า ๆ ๆ.....ไม่บอกหรอกว่าคุณครูจับฉลากได้อันนี้)
คุณครูอนามัยทั้ง 8 โรงเรียนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว วันนี้แถมทีมหมอขอเพิ่มความคุ้นเคยผ่านกิจกรรมกลุ่ม พัฒนาเรื่องราวและสื่อที่ต้องการให้เข้าถึงหัวใจเด็ก หลังจากวันนั้น คุณครูส่งข่าวมาเป็นระยะ ๆ คุยกันแล้วนะคะ จะจัดอบรมผู้นำนักเรียน ได้วันที่ที่แน่นอนแล้ว 23 มิถุนายน คุณหมอว่างไหมคะ ? ไม่มีวันอื่นแล้วค่ะ ติดรับประเมินภายนอก.....ว่างค่ะ ๆ ว่างไว้ก่อนแหละ อย่างอื่นค่อยว่ากัน (เลื่อนนัดคนไข้ ไม่มีปัญหา....แม้ทันตแพทย์อีกคนหนึ่งลา....ส่วนใหญ่คนไข้ห้องฟันเป็นคนไข้ประจำ หรือไม่ก็เคยพาสมาชิกครอบครัวมา ดังนั้น ค่อย ๆ อธิบายให้เข้าใจได้.....หมอไปทำงานอีกงานหนึ่ง เป็นวิทยากรให้เด็กนักเรียนของเรา)
ถึงวันพุธที่นัดหมาย.....อยากบอกว่าเกินคาด บอกได้คำเดียวว่า....เก๋า หมายถึง ทั้งทีมคุณครูอนามัย 8 โรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นด้านอำนวยการจัดอบรม การประสานงาน การเตรียมสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ สื่อคอมพิวเตอร์ ระบบไฟฟ้า เตรียมเด็กผู้นำนักเรียน อาหารกลางวัน น้ำดื่ม แม้แต่เตรียมประธาน ซึ่งท่าน ผอ.อมร ไชยคำหาญ โรงเรียนอนุบาลบ้านคอกช้าง เจ้าของสถานที่ ผู้เป็นประธานกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาที่ 20 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองคายเขต 1 กล่าวต้อนรับ เปิดการอบรมและให้โอวาทได้อย่างกระชับ....น่าประทับใจยิ่ง
ฉะนั้น ทีมหมอ ๆ จึงต้องตั้งใจเต็มที่เช่นกัน เริ่มจากให้นักเรียนทำความรู้จักกัน เรียงชื่อเล่นที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ก จนถึง ฮ ...เฮฮาซะซาย นักเรียนได้รู้จักกันข้ามโรงเรียน จากนั้น....ทำแบบทดสอบก่อนเรียน 30 ข้อ ตามแผ่น CD คอมพิวเตอร์ช่วยสอน “ยิ้มสดใสเด็กไทยฟันดี” ที่สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัยแจกให้มา กลเม็ดตอนคลิกเลือกคำตอบ ก็แกล้งเลือกผิดข้อ ไม่ให้มีเสียงปรบมือ ไม่งั้นนักเรียนจะรู้คำตอบ.....ของเขาดีนะ เอามาใช้เป็นสื่อประกอบคำพูดของหมอ ใส่ลีลาท่าทางน้ำเสียงน่าตื่นเต้นเข้าไปหน่อย ถ้านักเรียนจะหลับก็ขอความกรุณาอย่ากรนรบกวนเพื่อน ๆ นะคะ.....อิอิ !!! จึงมิอาจหลับลง
ถึงตอนผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง อุ่นเครื่องด้วยการระดมสมอง นักเรียนมาวันนี้คาดหวังอะไร ? ทุกคนบอกมาได้ ไม่มีผิดไม่มีถูก ทุกความเห็นมีคุณค่า.....แล้วจึงให้นั่งนึกถึงสุขภาพช่องปากนักเรียน เพื่อน ๆ พี่น้องเป็นอย่างไร ? เพื่อให้นักเรียนซึมซับ...รู้เอง แต่ว่าก่อนที่จะถึงสิ่งที่หวังไว้ จึงต้องเติมช่องว่างนั้นก่อนด้วยเนื้อหาตามที่นักเรียนบอกว่าอยากรู้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนไม่พอ ก็ต้องใช้สื่อสามัญ....โปสเตอร์ เน้นย้ำจุดสำคัญที่เด็ก ๆ ควรจะเข้าใจเป็นพื้นฐาน เช่น กินแป้งขนมกรุบกรอบหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปุ๊บ เชื้อโรคในปากนักเรียนทุกคนจะเปลี่ยนน้ำตาลกลายเป็นกรด ถ้ากรดตกค้างที่ผิวฟัน โดยเฉพาะหลุมร่องฟันเป็นแอ่งเหมาะสม แต่อาหารที่นักเรียนกินไม่มีแร่ธาตุแคลเซีม ฟอสฟอรัส ฟลูออไรด์และอื่น ๆ เพียงพอ อัตราการเสริมสร้างผิวเคลือบฟัน น้อยกว่าอัตราที่กรดทำลายผิวเคลือบฟัน ก็จะเกิดเป็นฟันผุขึ้น จุดฟันผุเริ่มแรกเล็กมาก ๆ ถ้าผ่านชั้นเคลือบฟันที่แข็งที่สุดเข้าไปได้ถึงชั้นเนื้อฟัน นักเรียนจะเริ่มเสียวฟัน ภายนอกเห็นเป็นจุดหรือรูเล็ก ๆ แต่ภายในเป็นโพรงขนาดใหญ่กว่าที่เห็นตรงผิวฟัน นักเรียนจึงต้องอ้าปากดูในกระจก หรือให้เพื่อนสลับกันตรวจฟันให้ ตรวจดูฟันตนเองบ่อย ๆ ถ้าปล่อยจนปวดฟันแล้วค่อยไปหาหมอ อาจไม่ทันเวลา การรักษาจะยุ่งยากมากขึ้น ฟันซี่เดียวอาจต้องเสียการเรียนไปโรงพยาบาลหลายครั้ง
เอาละถ้าไม่อยากฟันผุหรือมีหินปูน แบ่งกลุ่มนักเรียนตามจำนวนวิทยากร 5 คน (หมออ็อบ น้ำอ้อย หมอนก หมอแดง หมออ้อ) ให้นักเรียนบอกประโยชน์ของการแปรงฟัน ให้ชี้ตามลำดับตำแหน่งและด้านของฟันที่เราจะแปรง และอย่าลืมแปรงลิ้นด้วย สิบปากว่าไม่เท่าลงมือทำ.....หมอสาธิตแปรงให้อาสาสมัครคนเก่งก่อน สาธิตใช้ไหมขัดฟันด้วย แล้วค่อยยกพวก (ไม่ได้ไปตีกัน) ออกไปที่สนามหญ้าเคี้ยวเม็ดสีชมพูย้อมฟัน เดี๋ยวก็รู้กัน.....ใครจะสะอาดเอี่ยมกว่ากัน ....น้ำลายไหลอย่าให้เลอะคาง เลอะเสื้อนะคะ เดี๋ยวแม่คิดว่าไปตีกันกับใครมา.....คุณครูบอกว่า ดูคุณหมอสอนนักเรียนทำ คุณครูก็ได้ประโยชน์ไปด้วย
กลับมาเปลี่ยนที่นั่งเป็นกลุ่มแต่ละโรงเรียน ช่วยกันคิดและเตรียมตัวแทนนำเสนอว่า เมื่อกลับไปโรงเรียน ผู้นำนักเรียนด้านสุขภาพช่องปากอย่างพวกเรา จะลงมือทำอะไรบ้าง ? ส่วนใหญ่คุณครู คุณหมอไม่ต้องลุ้นมาก นำเสนอราบรื่น...ฉะฉาน (มีบ้างเขินอาย...ต่อ ๆ ไป ฝึกบ่อย ๆ น่าจะเก่งขึ้น) สุดท้ายถึงเวลาพี่หมออ็อบให้ทำแบบทดสอบหลังเรียน ซึ่งผลส่วนใหญ่ทำคะแนนได้มากขึ้น ปิดอบรม รับเกียรติบัตร
ต่อจากนี้....คำนำเสนอที่นักเรียนกล่าวไว้ จะเป็นจริงมากน้อย คุณครูผู้ริเริ่มเฟ้นหานางเอก พระเอกแล้ว ก็จะแปลงร่างเป็นผู้เขียนบท เป็นผู้กำกับ นางเอกพระเอกตัวประกอบจะโลดแล่นแสดงเองอย่างเป็นธรรมชาติ.....ถึงเวลาคุณครูก็ต้องถอยออกมาเป็นเบื้องหลัง เป็นผู้จัดต่อไป
ผ่านการอบรมวันนี้ไป (ด้วยเสียงแหบแห้ง) ความร่วมมือเกื้อหนุนระหว่างเครือข่ายคุณครูและเครือข่ายคุณหมอก็จะแน่นแฟ้นมากขึ้น อาศัยซึ่งกันและกันต่อไป ต่างก็ชื่นชมเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน...คุณครูเก๋าจริง ๆ ค่ะ งานออกมาเรียบร้อยราบรื่น...(แม้แต่ตำบักหุ่งยังแซ่บถูกปากอีหลี) คุณหมอก็สอนดีค่ะ คุณครูแอบฟังก็ได้ประโยชน์ไปด้วย...รอติดตามผลงานนักเรียน จะเป็นเครือข่ายเด็กสระใครที่ใสใจ...ฟันดี ได้จริงหรือไม่ ?...มีความหวังเสมอ
มีความสุขอีกแล้วครับท่าน
ธิรัมภา