คนจนผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านคลองนุน ได้รวบรวมสมัครพักพวกไว้ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 ตลอดมา ตั้งแต่ลุงตั้งวงแชร์จนถึงตั้งกองทุน กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการเกษตรของบ้านคลองนุน อำเภอพะโต๊ะจังหวัดชุมพร ได้ดำเนินการตามวิธีการตามหลักการ ความโปร่งใส ความอดทน และความคิดของลุงจรูญที่ไม่หยุดนิ่ง ที่จะนำพาคนชุมชนบ้านคลองนูนให้หลุดพ้นจากความยากจนอันยิ่งใหญ่ของชีวิต จนกระทั้งกลุ่มผู้ยากจนของลุงพอมีเงินออมของสมาชิกได้ประมาณ 140,000 กว่าบาท เพื่อนำเงินมาให้สมาชิกกู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนภายในครอบครัวจนถึงเดือนมกราคม 2547 เกิดปัญหาที่ทำให้ผู้นำคนจนผู้ยิ่งใหญ่กินไม่ได้นอนไม่หลับก็อยุู่่หลายปัญหา เช่น การบริหารจัดการ เป็นของระบบครอบครัว โดยมีลูกสาวเข้ามาช่วยในการทำบัญชีและือื่นต้องใช้คนในครอบครัว ผู้นำก็ไม่มีความโปร่งใสเป็นธุรกิจของครอบครัว ลุงผู้ยิ่งใหญ่ก็ใช้ความสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยวิธีของลุงเอง แต่ลุงจะใช้วิธีแก้อย่างไร เราไม่เล่า ไว้ค่อยเล่าให้ฟังตอนต่อไป แต่ปัญหาที่หนักอกลุงคือ ปัญหาดอกเบี้ยเงินกู้แพง ทำให้สมาชิกกลุ่มแยกเป็น 2 กลุ่ม 3 กลุ่ม บางคนก็ลาออกจากสมาชิก ที่ไม่ลาออก กลุ่มหนึ่งต้องการได้ดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 ต่อเดือน ขอเรียกกลุ่มนี้ว่า กลุ่มอยากจน แต่คนที่ต้องการกู้เงิน กลุ่มมีความต้องการให้ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 2 บาทต่อเดือน ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เพราะมีความแตกแยกภายในกลุ่มเกิดขึ้น ในตอนนั้นมีสมาชิก 40 คน ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่ ต้องคิดหาวิธีต่าง ๆ นาๆ ไม่ว่าจะเชิญสมาชิกมาร่าวมแสดงความคิดเห็นและลงมติตามกระบวนการกลุ่ม แต่ก็ไร้ผล ลุงจึงต้องวิ่งไปปรึกษา ไปขอคำแนะนำ ไปขอการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์และแล้ววันหนึ่ง เดือนพฤษภาคม 2547 ต้นเดือนมีการประชุมประจำเดือนของผู้ใหญ่บ้าน บ้านคลองนูน ลุงได้พบกับเด็กชายประสาน ได้เข้าร่วมประชุมและประชาสัมพันธ์การศึกษาต่อของคนนอกโรงเรียนในระดับประถม ม.ต้น และ ม.ปลาย และกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ว่าเรียนแล้วได้ประโยชน์อะำไร ลุงเห็นว่า ด.ช.ประสานคนนี้พูดปาว ๆ อยู่่บางคนก็สนใจ บางคนก็ไม่สนใจฟัง แต่ลุงมองและฟัง หลังจากเลิกประชุมหมู่บ้าน ลุงก็ไปพูดคุยกับ ด.ช.ประสาน เพราะลุงเชื่อว่า ด.ช.ประสานจะต้องช่วยลุงได้แน่นอน แต่ลุงก็๋ผิดหวังอีกเพราะ ด.ช.ประสานช่วยแก้ให้ไม่ได้ แม้แต่คุณอำนาจของอำเภอ ลุงก็ขอให้ช่วยหรือแนะวิธีการให้ คุณอำนาจให้คำตอบว่า แล้วแต่มติของสมาชิกกลุ่ม ถึงแม้ว่า ด.ช.ประสาน ช่วยลุงไม่ได้ ด.ช.ประสานก็ให้ความหวังแก่ลุงว่า มีแม่สามารถช่วยลุงได้ ด.ช.ประสานได้นำแม่ไปพบลุงที่บ้านคลองนูนในปลายเดือนมิถุนายน 2547 ได้พบปะและรับรู้ถึงปัญหาของผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านคลองนูนอย่างแท้จริง และช่วยกันคิดหาอุบายจนเป็นผลสำเร็จ คือลุงต้องหารายได้ที่เป็นผลกำไร พอที่จะนำมาให้สมาชิกแบ่งปันกันได้มาก ๆ จากจุดนี้ลุงและครอบครัวประสานช่วยกันแชร์ความรู้ว่าทุกคนในกลุ่มต้องกินข้าวทำไมลุงไม่เปิดร้านขายข้าวสารของกลุ่ม หลังจากนั้น 1 เดือน คือเดือนกรกฎาคม 2547 ครอบครัวของ ด.ช.ประสาน ได้เข้าไปเยี่ยมกลุ่มของลุง พบกลุ่มลุงมีข้าวสารจำหน่ายให้สมาชิกเพื่อเอากำไรจากจุดนี้ นำมาให้กลุ่มคนยากจน แต่ต้องลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 3 บาทต่อเดือน ลงเหลือร้อยละ 2 บาทต่อเดือน จากปัญหาที่ลุงได้รับตั้งแต่นั้นมา ศึกษาคลองนูนจาก จบด้วยความสุข
จากบทเรียนบทนี้ของลุงจรุญ ได้นำข้อคิดและแนวทางการดำเนินงานแก้ปัญหาความจนที่ยิ่งใหญ่มาคิดว่าตัวลุงและกฏกติกาข้อไหนที่ทำให้เกิดปัญหา ลุงพบว่าในกฏระเบียบข้อบังคับของกลุ่มกองทุนเพื่อการเกษตร ไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ชัดเจน ทำให้พวกพ้องของลุงสร้างปัญหาได้ ครอบครัว ด.ช.ประสาน ได้เข้ามาอยู่ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหาให้กับชุมชนบ้านคลองบนูน ตลอดมา โดยคุณลุงบอกว่า ลุงมีพวกแล้ว มีเพื่อนแล้ว และผู้มั่งคั่ง (ธนาคารออมสิน) ได้เข้ามาช่วยเหลือชุมชนของลุงอีกด้วย ขอให้ท่านผุ้อ่านที่รักการเรียนรู้แบบลุงจรูญ อรุณ พบกับคนจนผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านคลองนูนต่อไป
น้องออย คะ
ได้เลยค่ะ พี่สุรีย์คิดว่า เราควรไปที่บ้านคลองนูน กัน ส่วนคุณแดง ดอนไทรนั้น เขาทำงานที่ กศน. ใช้เวลาว่างจัดรายการที่วิทยุชุมชนเพื่อพุทธศาสนาวัดถำ้้สำเภาทอง ก็จะชวนไปสมทบด้วยแล้วกัน ตอนนี้ที่คลองนูนเขากำลังพาทำแผนธุรกิจชุมชน (คือไม่มีวิทยากร แต่เรียนรู้จากเอกสาร มีครูอาสาคอยเป็นผู้อำนวยความสะดวกอยู่ ).. อยากเรียนเชิญให้ อ.พรสกล ไปด้วย จะได้ช่วยแนะนำ ชาวเราด้วย แล้วพี่สุรีย์จะเรียนเชิญ อ.ไอศูรย์ ด้วยไม่ทราบท่านจะว่างหรือเปล่า ..ด้วยความยินดี ค่ะชาวคลองนูนก็เช่นกัน 7 ก.ย 48
ขอแสดงความยินดีกับคุณลุงด้วยนะครับ แล้วถ้ามีโอกาสผมขอไปศึกษาเกี่ยวการดำเนินชิวิตกับคุณลุงนะครับ