LiBraRianCSR!!!
นาย รัชชานนท์ เจริญเกียรติสถานนท์

อร่อยได้ธุรกิจ..


อร่อยได้ธุรกิจ..'ออมสิน ชีวะพฤกษ์'

การเป็นนักชิมตัวยง ไม่ได้สอนให้ "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ช่างเลือกเฉพาะอาหารเท่านั้น แต่รวมถึงการทำงานด้วย

นั่นคือ การพยายามคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อนำมาเสริมศักยภาพในการบริหารองค์กร และให้บริการลูกค้า

จากนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนชอบกิน และมักตระเวนชิมอาหารอยู่เป็นประจำตั้งแต่ร้านอาหารข้างทางไล่ไปถึงภัตคารหรูหราดูไฮโซ แค่เพียงร้านนั้นมีอาหารดี มีคุณภาพ และรสชาติอร่อย

สิ่งเหล่านี้เป็นการบ่มเพาะนิสัยช่างเลือกให้ ออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แบบไม่รู้ตัว และกลายเป็นนิสัยที่ถูกถ่ายทอดมาถึงการทำงานด้วย

“เวลากิน ผมจะดูว่า วันนั้นจะกินอะไร เช่น ถ้าอยากดื่มไวน์ ก็จะเลือกกินกับอาหารอิตาเลียน เพราะรสชาติเข้ากันดี ผมจะตระเวนชิมอาหารกับครอบครัวบ้าง เพื่อนฝูงบ้าง ช่วงเดินทางไปตรวจงานตามสาขาต่างๆ ของไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่ทั่วประเทศ ก็เป็นโอกาสได้ชิมของดี ของอร่อย เกือบทั่วประเทศเหมือนกัน”

การเป็นนักชิมตัวยงของออมสินสร้างนิสัยให้เขาเป็นคนช่างเลือก ช่างคัดสรร และมีความละเอียดอ่อนในหลายๆ เรื่อง สะท้อนจากนิสัยการกินที่นอกจากจะต้องเลือกว่า กินอะไรถึงมีรสชาติเข้ากันแล้ว การจะเลือกกินร้านใด ยังมีหลักการอีก 3 ข้อ คือ อาหารต้องดี รสชาติอร่อย ถัดมา สถานที่ต้องเดินทางไม่ลำบาก และสุดท้ายบรรยากาศต้องดี

รวมไปถึงนิสัยในการทำงาน ที่ต้องเลือกและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรและการให้บริการประชาชน

“เรื่องพวกนี้เป็นส่วนสำคัญช่วยส่งเสริมสุนทรียภาพให้การกินของเราและเพิ่มรสชาติในชีวิต

บางครั้งบรรยากาศไม่ดี ก็ไปชิมนะ ขอให้ของดีและอร่อย เช่น ที่เยาวราช บรรยากาศจอแจ ร้อนก็ร้อน ฝุ่นก็เยอะ แต่อย่างที่รู้ๆ ของกินที่นั่นอร่อยจริง”

นิสัยช่างเลือก ช่างคัดสรร ถูกนำมาผสมผสานในการทำงาน ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ โครงการ “อร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์ไทย” ซึ่งสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ Gold Award จากการประกวดสุดยอดแคมเปญการตลาด หรือ MAT Award ประจำปี 2009 จากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยมาได้

คอนเซปต์ของโครงการนี้เป็นการนำจุดแข็งเรื่องสาขาที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศและความชำนาญในการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ของไปรษณีย์ไทยมาผสมผสานกับจุดเด่นการเป็นซีอีโอนักชิมที่ได้ลิ้มรสของดี ของอร่อย มาเกือบทั่วประเทศของออมสินมาใช้ให้เกิดประโยชน์

แน่นอนว่า อาหารที่เข้าร่วมโครงการไม่ได้แค่มีชื่อเท่านั้น ยังต้องได้รับการคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่ต้องผ่านปาก ผ่านลิ้น ของซีอีโอนักชิมท่านนี้มาก่อน

“ผมได้ชิมของอร่อย ผมก็อยากให้ประชาชนทั่วไปได้มาชิมเหมือนกัน ยืนยันว่า คัดมาแต่ของดี ของอร่อยแบบที่ผมกินจริง ๆ”

นิสัยที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย ได้จากการเป็นนักชิมอีกข้อหนึ่ง คือ การเป็นคนละเอียดอ่อน โดยเขาจะใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นชีวิตส่วนตัวหรือการทำงาน

อย่างโครงการอร่อยทั่วไทยฯ นอกจากจะลงมือคัดสรรอาหารแล้ว ยังลงไปดูเรื่องการบรรจุหีบห่อ และจัดส่งว่า ทำอย่างไรให้คงคุณภาพ คงรสชาติดั้งเดิมไว้

ที่สำคัญเมื่อจัดส่งแล้ว ทำอย่างไรให้สินค้าถึงมือผู้รับได้ในสภาพสมบูรณ์

เพราะอาหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และแตกต่างจากการจัดส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ทั่วไปที่ถ้าล่าช้าไป 1- 2 วัน ไม่ก่อให้เกิดการเสียหาย

“ผมใส่ใจและละเอียดกับเรื่องคุณภาพมาก เพราะเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น อย่างมีลูกน้องนำเสนอให้เอาปลาทูแม่กลองมาไว้ในแคมเปญนี้ แต่ผมรู้ดีว่า ข้อจำกัดของสินค้านี้คือ เน่าเสียง่าย เลยลองให้เลขาผมสั่งดู พอของมาถึงก็เป็นไปตามคาด คือ เน่า ทำให้เจ้าของต้องปรับปรุงแพ็กเกจใหม่”

นอกจากนี้การได้ตระเวนหาของอร่อยตั้งแต่ร้านข้างทาง ไล่ไปถึงอาคารหรูหราไฮโซ ทำให้ได้สัมผัสกับผู้คนที่มีความหลากหลาย สิ่งเหล่านี้สอนให้ออมสินเรียนรู้ถึงความต้องการของกลุ่มคนต่างๆ และนำมาปรับใช้กับบริการของไปรษณีย์ไทย นั่นคือ บางคนยอมจ่ายแพง หากของนั้นดีจริง

ดังนั้นการให้บริการของไปรษณีย์ไทย จึงโฟกัสเรื่องบริการที่ดีมีคุณภาพ มากกว่าราคาถูกเพียงอย่างเดียว เช่น หากกำหนดส่งพัสดุภัณฑ์ถึงมือผู้รับในเวลา 16.00 น. ก็ต้องเป็นไปตามนั้น

หรือในโครงการ อร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์ไทย ที่ตั้งกฎเหล็กเพิ่มขึ้นมา หากอาหารส่งถึงมือผู้รับแล้วอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ รับประทานไม่ได้ หรือเน่าเสีย ให้พนักงานเก็บสินค้านั้นกลับคืนมาทันที และต้องจัดส่งสินค้าให้ใหม่แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมคืนเงินค่าสินค้าให้ลูกค้าด้วย

"ผมถือว่า สิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจของการทำงาน เพราะเนื้อในของเรา คือ บริการ หากบริการดี มีประสิทธิภาพ คนก็จะติดใจกลับมาใช้บริการเราอีก เหมือนกับผมเวลาจะเลือกทานอาหารก็จะเลือกร้านที่ดี มีคุณภาพ และอาหารอร่อย”

การตระเวนชิมของดี ของอร่อย สำหรับ ออมสิน จึงไม่ได้ทำเพื่อตามใจ (ปาก) ตัวเองเท่านั้น

แต่ความชอบนี้ช่วยสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ สร้างวิธีคิดการบริหารองค์กรได้อีกด้วย

ที่มา : ณัฐสุดา เพ็งผล

หมายเลขบันทึก: 347073เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2010 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2012 17:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท