แก้วน้ำเคลือบยา


เตือนภัยร้ายที่อาจเกิดกับคุณหรือคน ใกล้ตัวคุณ

ที่มา : forwarded mail
*************************************************

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ พี่สาวของจอยเองค่ะ เธอชื่อ พี่แก้ว
พี่แก้วอายุ 40 ต้นๆ เป็นหญิงร่างเล็ก หน้าตาคมคายจัดว่าสวยเลยทีเดียวค่ะ พี่แก้วเป็นคนมีรถแต่ไม่ชอบขับรถ จึงชอบใช้บริการของรถปอ.และรถตู้เป็นประจำ ประมาณ เดือน ธ.ค.2552 วันนั้นเธอไปทำธุระแถว สุทธิสาร เวลาประมาณ 17.30 น. พี่แก้วกำลังยืนรอรถตู้เพื่อจะกลับ บ้านแถวดาวคะนอง

ขณะที่ยืนรอรถ มีคุณป้าคนหนึ่งยื่นแก้วน้ำซึ่งบรรจุน้ำกับน้ำแข็งให้ พร้อมพูดว่า"หนูจ๋าช่วยถือแก้วให้ป้าหน่อยจ้ะ ป้าขอหยิบของในกระเป๋าประเดี๋ยวนึง" หลังจากที่ช่วยถือแก้วให้คุณป้า เพียงไม่ถึง5นาที ก็รู้สึกว่าตัวเองชามากๆ และไม่สามารถ บังคับตัวเองได้ แถมยังเดินตามคุณป้าขึ้นรถตู้ คัน ที่จอดรออยู่ข้างหน้าไปหน้าตาเฉยเลย พี่แก้วรับรู้ถึงความไม่ปกติ เธอพยายามต้อต้านกับความผิดปกติของร่างกาย มันทรมานมากๆ ด้วยความที่เธอเป็นคนฉลาดจึงแกล้งทำเป็นหลับ เธอสังเกตว่าในรถตู้คันนั้นมีเหยื่ออีก 2 สาว ซึ่งคงจะถูกหลอกมาจากที่อื่น อาการทั้ง 2 คนนั้นหมดสติค่ะ นอกจากเหยื่อเคราะห์ร้ายแล้วยังมีป้ามหาภัยกับผู้ชายวัยกลางคน 1คน เป็นคนขับ และอีก 1 คนนั่ง เคียงข้างกันอยู่หน้ารถ ระหว่างทางทั้ง 3 คนไม่มีบท สนทนาใดๆเลย

หลังจากที่พี่แก้วขึ้นรถแล้วพวกมัน ก็ขับรถวนอนุสาวรีย์ชัยฯอยู่ประมาณ 4 รอบ หลังจากนั้นรถก็ขึ้นทางด่วนมุ่งตรง ไปจ.ชลบุรี มันก็ขับวนไปวนมาจนไปจอดที่หน้า Lotus พัทยา ขณะนั้นเป็นเวลา เกือบ 4 ทุ่ม พวกมันเข้าใจว่าพี่แก้วหลับอยู่ พวกมันทั้ง 3 คนลงไปคุยกันข้างหน้าของห้างโลตัส ทิ้งเหยื่อไว้ลำพัง เมื่อพี่แก้วลืมตาแอบดูก็พบว่าประตูแง้มอยู่นิดนึงพอจะมีทางรอด ทางเดียว แต่ต้องเสี่ยง จึงรวบรวมพลังในร่างกายทั้งหมดเลื่อนประตูกระโดดลงมาและวิ่งอย่าง ไม่คิดชีวิตวิ่งหนีมาแต่ตัวจริงๆเลย ค่ะส่วนกระเป๋าสะพายซึ่งบรรจุเงินและโทรศัพท์มือถือ อันตรธารหายไปโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่ ใน รถตู้แล้วล่ะค่ะ พี่แก้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือกับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พี่มอเตอร์ไซค์ก็ใจดีขี่รถพาพี่แก้วมาที่สถานีรถประจำทางซึ่งเ่วลา นั้นเป็นเวลาที่รถทุกคันหยุดเดินรถ(ดึกมากแล้วประมาณ 4-5ทุ่ม)

พลันเหลือบไปเห็นชายวัยกลางคนนั่งรอ รถอยู่เหมือนกัน จึงเข้าไปเล่าเหตุการณ์ให้ฟังพร้อมฝากพี่แก้วไว้กับชายคนนั้น ชายคนนี้เป็นวิศวกรพอเห็นว่าคง ไม่สามารถพาตัวเองและพี่แก้วกลับกรุงเทพได้เนื่องจาำกไม่มีรถโดยสารจริงๆ จึงโทรศัพท์หาวิศวกรรุ่นน้องให้มารับที่สถานีเพื่อไปส่งปลายทาง ที่บางนา หลังจากนั้นไม่นาน

รถรุ่นน้องก็ขับเข้ามาจอดเทียบ วิศวกรรุ่นพี่และพี่แก้วก็ขึ้นรถไปด้วยกัน ระหว่างทางพี่แก้วก็ใจเต้นตูมตามกลัวว่าจะหนีเสือปะจรเข้ นั่งรถไปก็ภาวนาไปให้พระคุ้มครอง จนรถแล่นมาถึงและจอดที่แยกบางนา

พี่แก้วก็เอ่ยปากขอยืมเงินวิศวกรคนนั้น(แค่เศษเหรียญ)เพื่อใช้ โทรศัพท์หาสามีให้มารับ คุณวิศวกรก็เลยให้ยืมโทรศัพท์ พร้อมเงินติดกระเป๋า ส่วนพี่แก้วก็ขอบคุณพร้อมยื่นนามบัตร(ที่ติดมาใน กระเป๋าเสื้อ)ให้เผื่อว่าจะไปเที่ยว ที่สวนลิ้นจี่ที่อัมพวา และก็ลาจากกัน ส่วนพี่แก้วไม่นานสามีก็ขับรถมา รับกลับบ้าน พี่แก้วไม่สามารถฝืนร่างกายได้รีบบอกสามีให้ช่วยส่งโรงพยาบาลด่วน เมื่อไปถึงร.พ.ก็เล่าอาการให้หมอฟัง หมอบอกว่าสมัยนี้มี ยาตัวใหม่ที่สามารถซึมซับเข้าสู่้ร่างกายทางผิวหนังได้ทันที อาการจะชาไปทุกส่วนของร่างกาย

ส่วนพี่แก้วที่มีอาการแย่มากเนื่อง จากร่างกายทำปฏิกิริยาต่อต้านกับฤทธิ์ยา จึงต้องนอนให้น้ำเกลือในร.พ ถึง 3 วัน ยังโชคดีที่พี่แก้วไม่เป็นเหยื่อของพวกมันและยังได้วิศวกรช่วยชีวิต มาได้ค่ะ ส่วนเหยื่อที่เหลือไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร พี่แก้วบอกว่าวินาทีนั้นไม่ได้คิดถึงอะไรแล้วขอแค่เอาตัวให้รอด ออกมาจากรถตู้ก่อนค่ะ

จากนั้นไม่นาน วิศวกรคนนั้นก็ได้ติดต่อขอไปเที่ยวที่สวนพร้อมแฟนสาว ส่วนพี่แก้วได้ใช้โอกาสนี้ตอบแทนบุญคุณค่ะ

*******************************************

หมายเลขบันทึก: 345599เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2010 17:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

น่ากลัวจริงๆ ภัยทุกรูปแบบ

พัฒนาขึ้นเยอะ..ขอบคุณค่ะ

ทำไมคนเราถึงได้เก่งในการทำเลวนักนะ ทำไมไม่ใช้ความเก่งในทางสร้างสรรค์จะได้ทำให้ประเทศเจริญขึ้น

คุณป้าก็เนอะ ผู้หญิงด้วยกันยังทำกันได้ เจ็บใจจัง

ไม่รู้จะพึ่งใครได้ แฟนผมก็โดนล้วงกระเป๋ามาเมื่อคีนนี้เอง ...เสียใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท