อาลัยตำรวจผู้กล้า “ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ”


ได้รับ Fw mail จากกัลยาณมิตรขอโอกาสนำมาให้สมาชิกได้อ่านกัน อนุโมทนาขอบคุณ ธรรมรักษา

บทสัมภาษณ์สุดท้าย 
พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา 

" อยากให้ผู้บังคับบัญชารับรู้ว่าพวกเราทำงานกันอย่างไร"

 

            ก่อนถูกระเบิดเสียชีวิตไม่ถึง 10 วัน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ทีมข่าวอิศรา” เอาไว้ เป็นบทสัมภาษณ์สุดท้ายที่สะท้อนให้เห็นตัวตนและจุดยืนของเขากับการทำงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายนี้...ก่อนที่เขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

                 “ ที่ผมเดินทางไปโวยวายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมไม่ได้ไปโวยวายเพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี แต่อยากให้ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงรับรู้ว่าพวกเราทำงานกันอย่างไร เราทำงานท่ามกลางความขาดแคลน แต่ไม่เคยเอาอุปสรรคตรงนี้ไปอ้างเพื่อสร้างปัญหา ” พ.ต.อ.สมเพียร เปิดใจถึงเรื่องที่บุกไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามความเป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย

                 “เช่นเดียวกับที่ผมไปทำเนียบรัฐบาล  ก็ไม่ได้ไปเพราะความผิดหวังที่ไม่ได้โยกย้ายไปที่อื่น  แต่มันถึงเวลาแล้ว อายุราชการผมเหลืออีกปีกว่า ๆ ก็น่าจะมาพูดคุยกัน ต้องพูดความจริงว่าในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดอะไรขึ้น”

                พ.ต.อ.สมเพียร  ทำเรื่องขอย้ายจาก   สภ.บันนังสตา  ไปเป็นผู้กำกับการ สภ.กันตัง จ.ตรัง โดยให้เหตุผลกับผู้บังคับบัญชาว่าเขาทำงานด้วยความลำบากตรากตรำในพื้นที่เสี่ยงอันตรายมาหลายสิบปี  น่าจะได้พักบ้าง  ในช่วง       18 เดือนสุดท้าย  ก่อนเกษียณอายุราชการ แต่แล้วเขาก็ต้องพลาดหวัง กระทั่งต้องบุกไปยื่นหนังสือถึงศูนย์กลางอำนาจในเมืองหลวง

                “หลังจากผมไปยื่นหนังสือก็มีกระแสการตอบรับที่ดี บอกตรงๆ  หลังจากเกษียณราชการแล้ว ผมอยากนั่งกิน น้ำชา นั่งนินทาเพื่อน แล้วก็กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวบ้าง เพราะผมไม่ได้อยู่กับครอบครัวมานานถึง 40 ปี เวลาที่อยู่กับครอบครัวมีน้อยมาก ผมโดดเดียว อยู่คนเดียวมาตลอด“

                แต่เมื่อไม่ได้ย้าย  ก็คือไม่ย้าย   พ.ต.อ.สมเพียร   บอกว่าพร้อมจะทำงานต่อไปจนสิ้นอายุราชการ โดยเฉพาะ  กับ อ.บันนังสตา  ซึ่งเขามีความหลังให้ระลึกถึงไม่น้อยเลย

                “ตอนที่ผมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งให้เป็นผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา   ผมรู้สึกดีใจมาก   เพราะในอดีตผมเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอำเภอนี้มาก่อนแล้ว ผมทราบดีว่า อ.บันนังสตา มีปัญหาต้องแก้ไขหลายด้าน จึงเชื่อมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี”

                และการรวมใจเป็นหนึ่ง คือวิธีการทำงานของ พ.ต.อ.สมเพียร

 




 

                 “ทีมงานของผมที่เคยร่วมงานกันในพื้นที่  อ.บันนังสตา   ไม่ว่าจะเป็น   ดอเลาะ   เซ็งมะสู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9    ต.ปะแต  อ.ยะหา  จ.ยะลา  ที่ชาวบ้านรู้จักในนามผู้ใหญ่เลาะแห่งตะโล๊ะเว  หรือ ยะผา ยะโก๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา คนเหล่านี้เมื่อทราบข่าวว่าผมจะเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ อ.บันนังสตา  อีกครั้ง ก็มาเสนอตัวว่าจะเข้ามาช่วยงาน เพราะขณะนั้นสถานการณ์ในบันนังสตารุนแรงมาก เป็นพื้นที่สีแดงจัด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บล้มตายกันแทบทุกวัน”

                “ที่ผ่านมาผมปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหลายครั้ง โดยมีกองกำลังภาคประชาชนทั้งเยาวชนและคนแก่     ที่ญาติพี่น้องต้องได้รับผลกระทบและสูญเสียลุกขึ้นมาจับปืนสู้ด้วยกัน ทำให้ผมภาคภูมิใจมาก ส่วนการใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหานั้น ผมอยู่ในพื้นที่บันนังสตามาหลายปี ใช้เงินงบประมาณของรัฐที่ให้เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับหน่วยงานอื่น ส่วนใหญ่จะใช้เงินของตัวเองเป็นหลัก”

                พ.ต.อ.สมเพียร ไม่ได้แค่ทำงานแก้ปัญหาเหตุร้ายรายวันเท่านั้น แต่ยังสร้างคนไว้รองรับอนาคตอีกด้วย

                “เด็กวัยรุ่นที่มาเป็นอาสารักษาดินแดน (อส.) ที่  ปฏิบัติงานร่วมกันอยู่ในขณะนี้    ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครจับปืนมาก่อนเลย แต่เด็กเหล่านี้ตั้งใจ ผมก็พยายามขอร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบรรจุตำแหน่งให้ บางคนไม่มีความรู้แต่มีผลงานก็ต้องบรรจุ แม้จะทำงานมาหลายปีแต่ทีมงานอีกหลายคนยังไม่มีเงินเดือน ไม่มีค่าจ้าง ไม่มีค่าตอบแทน พวกเราทำงานกันด้วยใจจริงๆ สู้เพื่อแผ่นดินตรงนี้จริงๆ”

                เป็นคำพูดจากใจของ พ.ต.อ.สมเพียร ที่ยังห่วงใยลูกน้องและเพื่อนร่วมงานกระทั่งวาระสุดท้าย

 

ผู้กำกับ ฯ สระโบสถ์ เผย จ่าเพียรโทร.คุยก่อนตาย 

                พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผู้กำกับการ สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เพื่อร่วมรุ่นโรงเรียนผู้กำกับการ รุ่นที่ 52 ของ พ.ต.อ.สมเพียร ซึ่งออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายเช่นกัน  กล่าวว่า   เมื่อคืนวันที่ 11 มี.ค.53  เวลาประมาณ 20.00 น. หรือก่อนถูกระเบิดเสียชีวิตเพียง 1 วันพ.ต.อ.สมเพียร ได้ใช้โทรศัพท์มือถือโทร.มาหา และระบายความอึดอัดที่ไม่ได้รับความเห็นใจจากผู้บังคับบัญชาในการแต่งตั้งโยกย้าย

                “พี่สมเพียรพูดกับผมว่า ตั้งแต่ที่ร้องเรียนไปกับทั้งนายกรัฐมนตรีและ พล.ต.อ.ปทีป (พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ข่าวที่ว่าจะมีการเยียวยาให้ ก็ยังไม่ได้รับเยียวยาแต่อย่างใดทั้งสิ้น”

                “พี่สมเพียรแกพูดไปก็เสียงสั่นเครือว่า   แกยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไรจากผู้ใหญ่ตามที่ออกข่าวเลย    อาทิตย์หน้าแกจะลามากรุงเทพฯ เพื่อมาทวงถามความยุติธรรมอีกครั้ง  แกยังชวนผมกินข้าวด้วยกันอยู่เลย“

                พ.ต.อ.ศารทูล   กล่าวด้วยว่า  เมื่อได้ทราบข่าวว่า  พ.ต.อ.สมเพียร  ถูกระเบิดเสียชีวิตเมื่อบ่ายวันที่ 12 มี.ค.53 รู้สึกตกใจมาก เพราะเพิ่งคุยกันอยู่เมื่อคืน ได้แต่ปลงกับชีวิตตำรวจคนหนึ่งที่ทำงานเพื่อชาติ


 การเสียชีวิตของ  พ.ต.อ.สมเพียร   เอกสมญา 

ไม่ได้สะท้อนถึงความโหดร้ายของสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น  

แต่ยังทำให้เห็นถึงระบบการบริหารงานบุคคลในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

 

 

ช่วยกันส่งเมล์ ฉบับนี้ต่อไปให้มากที่สุดนะครับ  ร่วมไว้อาลัยกับนายตำรวจผู้กล้า  ผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติไทยครับ

 

ขอขอบคุณทุกท่านครับ

 

ขอบคุณภาพประกอบจากhttp://pongphun.wordpress.com


หมายเลขบันทึก: 344498เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2010 13:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ท่านน่าสงสารที่สุด...หลับเถิดนะท่านผู้กล้า...นับถือท่านจริงๆ  คนอย่างท่านในเมืองไทยมีไม่มากนัก 

อยากให้ระบบราชการมีความยุติธรรม ประเทศไทยจะได้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น เป็นไปได้ไง 40 ปีไม่ได้รับพิจารณาย้าย

ธรรมสวัสดีโยมเจ้าหญิงแห่งท้องทะเลบัวแดง

อนุโมทนาสาธุกับโยมที่มาร่วม

ไว้อาลัยกับนายตำรวจผู้กล้าที่เสียสละ

ปกรักษาชาติบ้านเมือง ขอให้ดวง

วิญญาณท่านจงสู่สุคติ

ธรรมรักษ

ขอร่วมไว้อาลัยกับท่านด้วยครับ

คุณความดีของท่านจะเป็นแบบอย่างให้ชนรุ่นหลังครับ

ขอให้ท่านไปสู่สุคติภูมินะครับ

สาธุ...

เราทำงานท่ามกลางความขาดแคลน แต่ไม่เคยเอาอุปสรรคตรงนี้ไปอ้างเพื่อสร้างปัญหา

ธรรมสวัสดีโยมPhornphon

ความดีที่ท่านทำไว้คือ

เกราะคุ้มครองจิตให้ท่านสุขสงบ

แม้ในยามมีชีวิตท่านจะไม่ได้

ดังหวังในบั้นปลายของชีวิต

ราชการ..ที่ต้องการกลับมา

อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว

ทั้งที่ได้ทุ่มเททำงานเสียสละตลอดมา

ธรรมรักษา

 

 

กราบนมัสการครับท่านพระจาตุรงค์ ชูศรี

ครับเป็นบทเรียนที่สำคัญของข้าราชตำรวจ

และผู้ที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ต้องตระหนักอย่างสำคัญ..หวังว่าการสูญเสีย

นายตำรวจดีดี จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ที่ดีในวงการผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ที่มีหน้าที่

ทำงานเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมครับ

ธรรมรักษาครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท