ฮาชิ หัวใจพูดได้


หลังจากดูหนังจบใจที่เคยหงุดหงิดกับม็อบก็สงบลงเพราะนึกเห็นใจในอีกฝ่ายหนึ่งได้

วันนี้โทรไปหาน้าที่บ้านแถวฝั่งธนฯและสามพราน..ทั้งสองบ้านบอกว่าสบายดีและจะมาค้างไหม..บอกน้าๆไปว่าพรุ่งนี้ติดขึ้นเวรน้าทั้งสองบ้านก็บอกว่า ไม่ต้องมา..ค่ำมืดแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก..ไว้เลยช่วงสัปดาห์นี้ก่อน...ไม่อยากดูทีวีเลยเปิดอินเตอร์เน็ตดูโปรแกรมหนัง...เห็นหนังเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้โปรโมทแต่ความที่เป็นคนรักหมา..หมาอะไรนี่หน้าตาน่ารักจัง..แถมดารานำยังเป็นพระเอกที่เคยรู้จัก"ริชาร์ด เกียร์" หนังชื่อ "ฮาชิ หัวใจพูดได้"..ค้นๆอ่านข้อมูลเกี่ยวกับหนัง..อ่านแล้วรู้เลยว่าต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าติดไปด้วยเพราะเป็นเรื่องที่น่าประทับใจในความจงรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของของสุนัขตัวหนึ่งที่แม้ว่านายของมันจะตายจากไปแต่มันก็ยังมาเฝ้ารอที่สถานีรถไฟ ทั้งเช้า และเย็นตามเวลาที่นายเคยทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเกือบสิบปีจนกระทั่งมันตายตามเจ้าของไปในที่สุด...เช็คเวลาและโรงที่จะฉาย..เฮ้อทำไมต้องเป็นเมเจอร์รัชโยธินด้วย..แต่ความอยากดูมีมากกว่าความกลัวจุดเสี่ยงบึ้ม..จึงทำการจองตั๋วหนังออนไลน์ไปซะเลย...ดูเวลาแล้วมีเวลาเดินทางแบบไม่ต้องฉุกละหุกเกินไปเลยเลือกการเดินทางด้วยรถเมล์..เมื่อนั่งผ่านแยกเกษตรเหลือบเห็นบนช่วงสะพานลอยที่ร่มๆมีกลุ่มคนทั้งชายและหญิงประมาณเกือบสิบคนได้ยืนดูอะไรบางอย่าง...อย่าถามว่าเสื้อสีอะไรเลยแต่เห็นแบบเสื้อที่ใส่เหมือนกันมีลายปักรูปหัวใครก็ไม่รู้สามหัวติดที่หน้าอก..สวมแว่นดำทำท่าทางกระวนกระวายคล้ายกับกำลังมองหาใครหรืออะไรอยู่..ใจเริ่มขุ่นๆนิดดีว่ารถไม่ติดมากเลยพิจารณาใจตัวเองไปพลางๆ..นั่งไปจนถึงป้ายโรงหนัง..ว้าวมีทหารถือปืนสวมแว่นดำยืนหน้าโรงด้วย..ไม่มีร้านเปิดท้ายตั้งเกะกะหน้าโรงเหมือนครั้งก่อนๆ..ผู้คนที่มาใช้บริการดูบางตา/น้อยลงไปแต่ก็ไม่ถึงกับโหรงเหรง...มีที่นั่งให้รอเยอะกว่าเดิมทำให้สามารถคว้ากล้วยปิ้งที่ซื้อมาจากข้างป้ายรถเมล์มาหยิบกินได้อย่างสดวกใจ..ประหยัดตังค์ไม่ต้องซื้อป๊อปคอร์นอันแสนแพงเพื่อแลกกับการหาที่นั่งระหว่างรอโรงฉาย..งวดนี้มีการฉายหนังตัวอย่างให้ดูไม่มากแต่มีหนัง/สารคดีเผยแพร่ที่จัดทำโดยมูลนิธิและเครือข่ายWWW.welovetheking.comเป็นเพลงและภาพที่รวบรวมเหตุการณ์ความไม่สงบที่บ้านเราได้เจอะเจอกันมาในช่วงสองสามปีนี้..ฉันชอบท่อนเพลงที่ว่า"อยากเห็นคนไทยรักกันดังเดิม"มันโดนเข้าไปที่ใจ..นึกถามในใจว่าเมื่อไหร่และจะเป็นไปได้หรือ..เมื่อหนังเริ่มฉายใจก็มาอยู่ที่หนัง..หนังเรียบง่ายแต่กินใจค่ะ..สำหรับคนที่รักหมาไม่อยากให้พลาดเพราะเราเคยน้อยใจเสียใจที่หมามันตายก่อนแต่เมื่อมาดูเรื่องนี้หนังเสนอมุมมองของน้องหมาที่อดทนและซื่อสัตย์รักษาการทำหน้าที่ของมันต่อเจ้านาย..เพราะตอนเจ้านายไปไม่กลับซึ่งนายก็คงไม่รู้หรอกว่าจะไปแล้วไม่ได้กลับ..นายก็ยังเย้าหยอกและบอกว่าจะกลับมาหามาเล่นกับมันอยู่..มันจึงต้องรักษาและยึดมั่นอยู่กับคำของนาย ใจของฮาชิมันสั่งตัวมันเองให้รอนาย ณ.จุดเดิมหน้าสถานีรถไฟที่นายเคยไป-กลับ..ฝนตกหิมะโปรยปรายก็ไม่ละความตั้งใจ..รอเผื่อว่านายจะได้รู้ว่าฮาชิรักและซื่อตรงต่อนายแค่ไหน..เห็นหน้าตาละห้อยหาของหมาที่รอนายซึ่งยังไงก็กลับมาหามันไม่ได้แล้วก็เริ่มอินมีน้ำตาซึมๆและตอนฉากก่อนจบตอนที่ฮาชิกำลังจะตาย..ภาพหมาแก่ๆเนื้อตัวสกปรกด้วยแต่ในใจและภาพที่มันยังคิดถึงนั้น..ฮาชิเห็นแต่อดีตของตัวมันที่เป็นลูกหมาตัวเล็กๆที่หลงทาง แล้วได้เจอนายที่มันแสนรักอย่างหมดใจจนมันไม่สามารถรักใครได้อีก คุณค่าและศักดิ์ศรีของฮาชิคือความภักดีและตอบแทนนายด้วยการรอและเชื่อฟังคำของนาย..ในทีสุดฮาชิก็ได้พบกับนายซะที นายนั่งรถไฟและเปิดประตูทางออกสถานีเรียกมันให้เข้าไปหาและชักชวนมันไปเล่นด้วยกันตามสัญญา..หมาฮาชินอนตายตาหลับพริ้มไปกับความฝันในห้วงคิดท่ามกลางสายของหิมะ..

ซาบซึ้งใจจนกระทั่งเมื่อออกจากโรงหลังจากดูหนังจบ..ใจของฉันที่เคยหงุดหงิดกับม็อบก็ค่อยๆสงบลงได้เนื่องจากสามารถรู้สึกนึกเห็นใจในความผิดหวังและปวดร้าวของอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างสนิทใจเลยจริงๆ..ขอบคุณมากฮาชิที่สอนให้ฉันเข้าใจและรู้ซึ้งคำว่า"หมารักนาย"

 

หมายเลขบันทึก: 344077เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2010 20:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

คิดถึงเจ้า "มอม" ที่เคยได้เรียนได้อ่านตอนเป็นนักเรียนจังเลยครับ...

ผมเองก็มีสุนัขตัวโปรดเหมือนกัน  ตอนอยู่ที่มหาสารคาม มันชอบเล่นกับผมมาก  แต่ที่มหาวิทยาลัยไม่มีที่เลี้ยงเลยต้องเอาไปไว้ที่บาน  ในยามพ่อกับแม่มาเยี่ยม ก็จะเอามันติดรถมาด้วย  เห็นได้ชัดว่ามันดีใจมากเลย  กระโดดโลดเต้น  เห่าเสียงดัง  จนผมต้องลงไปจากแฟลตเพื่อเล่นกับมันเป็นระยะๆ ...

ขอบคุณเรื่องดีๆ ในเช้าชื่นของชีวิตนะครับ

"ทำเพื่อนาย" ...?

@แผ่นดิน

: ย้อนกลับมาอ่านที่เขียนอีกครั้ง..รวมถึงประโยคเชิงตั้งคำถามท้ายความเห็นของคุณแผ่นดินแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้...555เพิ่งรู้สึกได้ว่าที่จริงแล้วตัวดิฉันเองเป็นคนช่างประชดประชันโดยไม่รู้สึกตัวจริงๆด้วย..แต่การเขียนบันทึกตามแนวของgotoknowและการได้ตามอ่านงานของเพื่อนๆหลายท่านรวมถึงคุณแผ่นดินมีส่วนช่วยกล่อมเกลาจิตใจและการใช้วาจาของดิฉันให้มีความอ่อนโยนมากขึ้น..ดิฉันดีใจที่มีเพื่อนร่วมวงลปรร.ตรงนี้ที่รักสุนัขเหมือนกัน..ใกล้จะตรุษจีนอีกครั้งหนึ่งแล้วขอให้คุณแผ่นดินและครอบครัวมีความสุขมากๆนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท