สภามหาวิทยาลัยมหิดลเยี่ยมชื่นชมคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

          นี่คือการทำหน้าที่กำกับดูแล (governance) แนว generative governance แบบหนึ่ง   เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์ในการทำหน้าที่สถาบันอุดมศึกษากลุ่ม “World Class Research University” ให้แก่ประเทศไทย ให้ดียิ่งขึ้น

          การเยี่ยมชื่นชมรอบที่ ๒ ครั้งที่ ๑ อ่านได้ที่นี่   ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ ของรอบที่ ๒

          การเยี่ยมชื่นชมศิริราชครั้งแรก เมื่อ ๓ ปีครึ่งมาแล้ว อ่านได้ที่นี่ 

          ทางศิริราชได้เตรียมเอกสารส่งให้ผู้ไปเยี่ยมชื่นชมอ่านล่วงหน้า อ่านได้ที่นี่ 

          จากเอกสารสรุป และจากเว็บไซต์  จะสัมผัสกับระบบการจัดการหน่วยงานขนาดยักษ์ที่ทันสมัย   เปิดช่องให้มีการสร้างสรรค์ใหม่ๆ หลากหลายด้าน   

          ในความเป็นจริงแล้ว คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลทำคุณประโยชน์แก่สังคมไทยมากกว่าที่เขียนไว้ในเอกสารสรุป   เหนือสิ่งอื่นใดคือการสนองพระคุณพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงประชวรอยู่ในปัจจุบัน    และงานที่ผมมองว่าจะเป็นคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองยิ่งในอนาคต คือโครงการเยาวชน ของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล   ที่สำนักงานจัดการอยู่ที่ศิริราช แต่ทำงานให้แก่วงการแพทย์ทั่วประเทศ   เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แพทย์รุ่นใหม่ ในการทำงานเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระบรมราชชนก

         ในวันเยี่ยมชื่นชม ๒๕ ก.พ. ๕๓  ทางศิริราชจัดถ่ายรูปหมู่  ไปถวายดอกไม้ถวายบังคมพระฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัว   ลงนามถวายพระพร   แล้วจึงไปชมวิดีทัศน์ และการบรรยายสรุปโดยท่านคณบดี   แล้วบ่งเป็น ๓ กลุ่ม   ผมไปกับกลุ่มที่ ๑ ไปเยี่ยม ๓ หน่วยคือ ห้องสันติภูมิ หน่วยคุณธรรมและจริยธรรม, หอสมุดศิริราช, และ Siriraj Fitness Center   ทั้ง ๓ หน่วยงานมีความดีเด่นน่าชื่นชมทั้งสิ้น

          ผมได้เห็นสภาพที่ศิริราชเป็นหน่วยงานใหญ่มหึมา   ที่มีคนเก่งๆ จำนวนมากมาย   นอกจากเก่งแล้วยังมีความริเริ่มสร้างสรรค์หลากหลายด้าน   สภาพที่ผมเห็นคือ ศิริราชมีวัฒนธรรมประเพณีของความรักหมู่รักคณะ   และเปิดโอกาสให้คนที่มีแรงบันดาลใจสร้างสรรค์หลากหลายด้านได้ทำประโยชน์ตามความชอบและความถนัดของตน 

          ศิริราชใช้กิจกรรมที่หลากหลายผูกพันจิตใจสมาชิกขององค์กรของตนเข้าด้วยกัน   ผมประทับใจที่ท่านคณบดี ศ. นพ. ธีรวัฒน์ กุลทนันท์ กล่าวแก่ที่ประชุมว่า เวลาพูดถึง “บุคลากรของศิริราช” จะหมายถึงคน ๔ กลุ่ม คือ (๑) อาจารย์และเจ้าหน้าที่  (๒) นักศึกษา  (๓) ผู้ป่วยและญาติ  (๔) คนในชุมชนโดยรอบศิริราช   สะท้อนวิธีคิดและปฏิบัติที่รับผิดชอบต่อสังคม (social responsibility)

         ท่านคณบดีบอกว่า ศิริราชมีรองคณบดีในตำแหน่งที่ที่อื่นไม่มีอยู่ ๒ ตำแหน่ง คือ รองคณบดีฝ่ายคุณธรรมจริยธรรม  มีคลินิคเจริญสติ   ซึ่งก็คือหน่วยแรกที่เราไปเยี่ยม   เราได้รับทราบว่าศิริราชจัดทำบุญเลี้ยงพระทุกวันพฤหัสสุดท้ายของเดือน เพื่อทำบุญให้แก่ผู้ที่เกิดในเดือนนั้น   และวันนี้ก็ตรงกับวันนั้นพอดี   จึงเชิญพวกเราเข้าพิธีถวายสังฆทานด้วย

          อีกรองคณบดีหนึ่งคือ ฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพ   ซึ่งก็ตรงกับหน่วยสุดท้ายที่เราไปเยี่ยม คือ Fitness Center ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วก็ตื่นตาตื่นใจกับความกว้างขวางและพรักพร้อมทันสมัยของเครื่องออกกำลังกายหลากหลายชนิด   ได้ความว่าเพิ่งเสร็จไม่ถึงปี ลงทุนซื้อเครื่องมือไป ๓๐ ล้านบาท 

          หอสมุดศิริราชสมัยผมเรียนปี ๑ – ๒ ที่ศิริราชยังเป็นห้องเล็กๆ อยู่ชั้น ๒ ของตึกอำนวยการ   แล้วก็ย้ายมาอยู่ตึกสร้างใหม่ ๔ ชั้นสมัยผมอยู่ปี ๓   และผมได้เป็นพนักงานหอสมุดอยู่ ๒ ปี   คือตอนเรียนปี ๓ – ๔ (สองปีสุดท้าย)   ผมทำงานอยู่เวรตอน ๑๗ – ๒๑ น. สัปดาห์ละ ๒ – ๓ ครั้ง   มีเพื่ออีกจำนวนหนึ่งทำงานนี้ด้วย    ท่านหัวหน้าบรรณารักษ์ห้องสมุดชื่อ อ. อุทัย ทุติยโพธิ ท่านรักผมมาก   หลังกลับจากเรียนต่อกลับมาทำงาน หอสมุดคือบ้านที่ ๒ ของผม   มาวันนี้อาคารเดิมได้รับการปรับปรุงใหม่หมด   บรรยากาศทันสมัยต่างจากสมัยที่ผมอยู่ที่ศิริราชโดยสิ้นเชิง   ใช้งบประมาณไป ๘๐ ล้านบาท  เอกสารหรือหนังสือเก่าได้รับการสแกนเป็น e-book พร้อมที่จะเปิดให้ค้นจากภายนอกได้   ห้องสมุดกำลังจะให้บริการค้นแบบ any time, any where    

 

วิจารณ์ พานิช
๒๕ ก.พ. ๕๓

ภายใน fitness center

 

อีกมุมหนึ่งของ fitness center

 

กิจกรรมทำบุญและฟังเทศเนื่องในวันมาฆบูชา

 

หอสมุดศิริราชบ้านเก่าของผม

 

ภายในหอสมุด

 

ตึกอานันทราชที่ในหลวงพระราชทานแก่นักเรียนทุนอานันทมหิดลคนแรกของศิริราช ศ[1]. นพ. ประเวศ วะสี  บ้านเก่าของผม

 

วิวอาคารสยามินทร์ วัดอรุณอัมรินทร์ สะพานอรุณอัมรินทร์ และคลองบางกอกน้อย