ความในใจ๓ เรื่อง กระสือแว้บๆๆ


กระสือเป็นอะไรกันแน่

กระสือแว้บๆ

 

                                    

เจอกันตอนที่ สามแล้วค่ะก่อนอื่นขอเฉลยความตอน๒ก่อนนะคะ

สิ่งที่เด็กๆคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมายคือแม่นาค ฉากเด็ดที่ยื่นมือลงไปเก็บ

มะนาวใต้ถุนบ้านนั่นแหละค่ะเป็นเหตุผล ที่วงแตกกระเจิง....ในความในใจ๒

  แม่นาคไม่เท่าไหร่ค่ะเป็นแค่ละครและหนัง..ที่ผู้เขียนเจอกันจังๆๆตอนเด็กเห็นกัน

ครบ ทุกคน เด็ก๑๐คนก็ ๒๐ ลูกกะตาละค่ะ  คือกระสือ  ........

            ค่ำวันหนึ่งเราเด็กๆลูกๆหลานๆไปนั่งเล่นบ้านคุณป้า..นวย.ลูกคนที่๑ของคุณ

ยาย  บ้านใกล้กันค่ะ  ต้องพายเรือไปสัก ๕๐๐ เมตรเห็นจะได้  ถ้าเดินไปริมตลิ่งบ้าน

คุณยายก็จะต้องเลียบกอจากริมตลิ่งไปโผล่หน้าบ้านป้านวยแล้วเรียกคนที่นั่นให้เอา

เรือมารับที่ฝั่งคลอง ก็แค่ใช้เรือขวางคลองก็ข้ามได้ ผู้ใหญ่นั่งคุยกันในบ้านเด็กๆออก

มานั่งคุยที่นอกชานหน้าบ้าน คืนนั้นพระจันทร์สวยมาก  ผู้เขียนหันไปเห็นไฟแว้บๆ

ลอยช้าๆมาจากทางทุ่งนาข้างบ้านป้า ลอยช้าๆต่ำบ้างสูงบ้างเป็นสีเหลืองอ่อนเหมือน

แสงจันทร์ คล้ายแสงไฟฉายแต่ไม่สว่างขนาดนั้น ตอนแรกผู้เขียนคิดว่ามีใครเดินถือ

ไฟฉายมาจากทุ่งนา แต่พอลอยสูงก็สูงเกินความสูงของคน  และก็ไม่ไกลจากนอก

ชานที่เรานั่งสักเท่าไหร่  ประมาณ๒๐๐ เมตร ผู้เขียนดีใจมาก รีบส่งเสียงดังกระโดด

โลดเต้น "กระสือมาแล้วไปดูกันเร็วพวกเรา  " ผู้ใหญ่ได้ยินเสียงก็วิ่งมาห้ามไม่ให้ลง

ไปดู ผู้เขียนไม่กลัวเลยสักนิดอยากไปดูใกล้ๆว่าตัวจริงมีแต่หัวกับไส้แล้วแสงออกมา

จากส่วนไหน....แหมนึกแล้วก็ยังเสียดายไม่หายนะเนี่ย....แต่ไม่กล้าขัดคำสั่ง..ป้าๆ

พอเช้าผู้เขียนก็จัดการ...ยกโขยงกันไปดูลาดเลาเมื่อคืน..กระสือมาทำธุระอะไรแถว

นั้นพอไปถึงริมตลิ่งข้างๆกอจาก  ก็เห็นหลักฐานมีซากเป็ดตายลอยติดอยู่หนึ่งตัว

ส่งกลิ่นอันหอมหวล ( จะได้ไม่น่าเกลียด ) อ้อ..กระสือมาหาของกินนั่นเอง

           แสดงว่าที่คนเฒ่าคนแก่เล่าให้เราฟังก็มีมูล  แถวนั้นเมื่อสมัยก่อนจะมีกระสือ

ซึ่งเป็นคนธรรมดานี้แหละ  กลางวันเป็นคน กลางคืนเป็นแสง (  ดูแล้วไม่เห็นมีหัวนะ)

ออกมาหาของเน่า กิน  แล้วห้ามตากผ้าถุงเปียกกลางคืน กระสือจะมาเช็ดปาก

จะมีรอยเป็นรูปปาก ที่ผ้าถุง  ถ้าอยากจะรู้ว่าใครเป็นกระสือให้เอาผ้าถุงไปต้มในน้ำ

ร้อน คนที่เป็นกระสือจะปากพอง สังเกตุได้  อันนี้ผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง  ไม่เคยเห็นและไม่

อยากลอง  รู้สึกสงสารคนที่เป็นกระสือมาก  บางคนรับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ

บางคนก็เล่นไสยศาสตร์แล้วทำอะไรไม่ดีไม่งามก็เป็นกระสือซะเอง...เรื่องที่ได้ยินมา

เรื่องที่เคยอ่านก็มีต้นว่านประเภทหนึ่งเรียกว่าว่านกระสือ  แต่ผู้เขียนจำไม่ได้ว่า

แสงออกมาจากต้นว่านเองหรือคนที่ไปขุดว่านมากลายเป็นกระสือเหมือนกัน

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนมีเหตุอันพิเศษ..ได้พบได้เจอ...เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษ

ก็กรุณาบอก..เล่า..เรื่องราวของคุณมาให้ทราบบ้างก็ดีนะคะ

     เรื่องนี้ผู้เขียนเล่าให้เด็กหอที่โรงเรียนฟังบ่อยๆ...ก่อนจะเข้าถึงธรรมะก็..ใช้บรรดา

แขกผู้ไม่ได้รับเชิญล่อมาจนเด็กๆ  ติดกับ มาหลายต่อหลายรุ่นแล้วละค่ะ

                                                                         รัก

                                                                         ไม่

                                                                       ต้อง

                                                                          มี

                                                                         บท

                     ใจใสใส                          

    

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 343073เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2010 17:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นค่ะ

ขอบคุณนะคะ

หลับฝันดีค่ะ^__^

 นู๋ต้นเฟริน์ที่รัก ขอโทษที่ไม่ได้ตอบนานมากมาย ไม่ว่างออนเลยจ้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท