ชมรมผู้สูงอายุ


         ความตั้งใจที่จะบันทึกเรื่องของชมรมผู้สูงอายุบ้านหนองนกปีกกามีมานานมาก แต่ก็ด้วยความไม่ขยันบวกกับภาระงานอันท่วมตัว บันทึกนี้จึงใช้เวลานานมาก (อันที่จริงเวลาในการเขียนไม่นาน แต่ที่นานคือเวลาที่จะลงมือเขียน)

         เมื่อเขียนถึงชมรมผู้สูงอายุบ้านหนองนกปีกกา สองคนแรกที่จะนึกถึงคือ “ลุงติ๊บ” ปราชญ์ชาวบ้าน กับ “ลุงเส็ง” อดีตผู้ใหญ่บ้านคนเก่ง ที่เป็นตัวตั้งตัวตีให้เกิดขึ้น และอีกคนก็ “หมอณัฐ” หัวหน้าสถานีอนามัยบ้านหนองนกปีกกา กับทีม อสม. ที่น่ารักของเรา

        ที่เขียนถึงชมรมผู้สูงอายุบ้านหนองนกปีกกา ไม่ใช่เพราะที่นี้มีการบริหารจัดการที่ดีเลิศ ไม่ใช่เพราะเคยชนะการประกวดอะไร แต่เพราะความน่ารักของสมาชิกชมรมที่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นับวันจะหาได้ยากขึ้น

        เริ่มต้นจากการประชุมเพื่อจัดตั้งชมรม ผู้สูงวัยทั้งหลายดูจะเป็นกังวลว่า มีชมรมแล้วจะสร้างภาระเพิ่มขึ้น แต่พอหมอณัฐอธิบายให้เห็นภาพว่า ชมรมไม่ได้วุ่นวายอย่างที่คิด เพราะปกติเราก็ทำกิจกรรมร่วมกันอยู่แล้ว เช่น ไปวัดทุกวันพระ รำไม้พลองทุกวันอาทิตย์ งานบุญของชุมชนก็มาทุกครั้งไปเยี่ยมกันทั้งเวลาสบายและไม่สบาย....งานนี้ผู้สูงวัยของเราก็ถึงบางอ้อกัน...ชมรมผู้สูงอายุบ้านหนองนกปีกกาก็เลยถือกำเนิดขึ้นมา ถึงวันนี้ก็ขวบกว่า ๆ แล้ว (หลังจากมีชมรมแล้วหมอณัฐคนเก่งของเราก็ไปปะเหลาะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพของตำบลเพื่อของบประมาณสนับสนุน..สำเร็จปีแรกได้มา 1,000 บาท ปีที่ 2 ได้มา 3,000 บาท คาดว่าปีหน้าจะได้มากกว่านี้ 55+)

          กิจกรรมก็ประชุมทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน ใช้เวลาช่วงเย็น ก็ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป เริ่มจากการที่ อสม.จะมาให้บริการ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต และวัดรอบเอว

          แล้วก็ลงชื่อประชุม จ่ายเงินค่าฌาปนกิจของผู้สูงอายุ (อันนี้น่ารักเก็บเดือนละ 5 บาท ทำเป็นภาพรวมทั้งตำบล หากมีสมาชิกเสียชีวิตก็จะนำเงินส่วนนี้ไปมอบให้ญาติ: หมู่บ้านละ 1,000 บาท ทั้งตำบลมี 14 หมู่บ้าน ก็ตกราว 14,000 บาท)

 

           จากนั้นก็มายืดเส้นยืดสายด้วยไม้พลองกัน กิจกรรมช่วงนี้เรียกเสียงฮาจากผู้สูงอายุได้มากมาย เพราะจะมีท่านวดน่อง ที่ผู้สูงวัยเรียกว่า “ท่าเปิดซิ่น” (ไว้วันหน้าจะถ่ายภาพมาให้ชมกันว่า เปิดอย่างไร)

           เมื่อยืดเส้นกันพอหอมปากหอมคอ เราก็เริ่มประชุมกันได้ เนื้อหาก็ว่าไปตามสถานการณ์ เช่น งานเทศน์มหาชาติปีนี้ชมรมเราจะช่วยอะไรได้บ้าง การแลกเปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพ การถามไถ่สารทุกข์ หรือเรื่องที่ไปฟังมาจากที่ประชุมระดับตำบล ฯลฯ จบการประชุมก็แยกย้ายกันกลับบ้าน...

      

คำสำคัญ (Tags): #ชมรม#ผู้สูงอายุ
หมายเลขบันทึก: 341219เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2010 21:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

This is wonderful way to create and maintain collaborative social bonding -- the real meaning of community.

Congratulations to all the people involved and the blogger. No doubt we will hear more of them.

แลกเปลี่ยนครับ

ทำงานชมรมผู้สูงอายุมาจะ 6 ปี แล้วผ่านช่วงที่บูมสุด ได้รางวัลระดับเขตมาแล้ว

จนมาช่วงซา.....

กำลังจะทำฌาปนกิจ เทศบาลอยากทำ แต่ชาวบ้านเฉย

งานผู้สูงอายุจริงที่ควรทำ คือ อะไร...

และแลกเปลี่ยนเรื่อง APN ครับ

เรียนถามครับ

ตอนนี้กำลังคิดว่าจะไปเรียนต่อโทแล้วทำAPNดีไหม?

ข้อดี่ที่เกิดขี้นกับผู้รับบริการ และหน่วยงาน ส่วนร่วม พอจะเข้าใจ และฟังมามาก

แต่ประโยชน์ที่เกิดตนเองมีบางไหมครับ เช่น ในระดับพยาบาลผู้ปฏิบัติเป็น APN แล้วทำชำนาญการพิเศษได้ไหมครับ ไม่ต้องรอเป็นหัวหน้ากลุ่มการพยาบาล

และเงิน พตส. จะได้เพิ่มไหมครับ สัก เดือนละ 5,000 บาทเป็นอย่างต่ำ ทำยากกว่าของครู ผลประโยชน์ก็จับต้อง มีคุณภาพกว่าครูที่ทำอาจารย์3 เห็นแต่ภาระงานที่เพิ่มมากขึ้นแต่ไม่เห็นประโยชน์กับพวกพี่ APN ทั้งหลาย ที่อุตสาห์ทำงานหนักกันเลยครับ

เพราะถ้าจะพัฒนางาน ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องดิ้นรนไปเป็น APN ครับ

ตอบคุณ khaek khaeker

ขอตอบตามความคิดส่วนตัวนะ

**งานผู้สงอายุ คือ ทำอะไรก็ได้ให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีที่สุดเท่าที่ปัจจัยทั้งปวงจะ

อำนวยไม่ต้องวิ่งตามตัวชี้วัดทั้งหลายแหล่ ทำในสิ่งที่ทั้งผู้สูงอายุอยากทำ และเราพอ

ให้ความช่วยเหลือได้ อย่าเพิ่มภาระให้ตัวเรา..เพราะจะทำให้ไม่มีสุขในงานที่ทำ

ตัวอย่างความล้มเหลวจากกลุ่มจัดตั้งมีให้เห็นมากอยู่นะ...อย่างกลุ่มผู้สูงอายุบ้านหนอง

นกปีกกานี้..ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบาย..แต่เราก็คุยกันว่า..กลุ่มเราตั้ง

ขึ้นเพื่ออะไร..ก็สรุปได้ว่าเพื่อให้พวกเรา (ผู้สูงอายุ) ได้มาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ทำกิจกรรม

ต่าง ๆ โดยเน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก..สำคัญคือ เมื่อกลุ่มโตมาก ๆ เราต้องย้ำจุดยืนกับ

สมาชิกกลุ่มเสมอ ๆ จะได้ไม่ผิดเป้าที่วาง

**ส่วนเรื่อง APN คงต้องถามตัวเองว่า เราต้องการสอบเพื่ออะไร? แต่เห็นด้วยกับ

ประโยคที่ว่า "เพราะถ้าจะพัฒนางาน ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องดิ้นรนไปเป็น APN"

เพราะหลายคนไม่ได้ APN เค้ายังพัฒนางานไปได้ดีเลย

**ส่วนเงิน พตส. ไม่ข่าวว่าจะเพิ่มขึ้นนะ

** เป็นกำลังใจให้สู้นะ..ทำงานเพื่องานนะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ SR จะพยายามพัฒนาให้ดีขึ้น...

ตามความคิดของผู้สูงอายุนะค่ะ (ขอไม่ดีขึ้นตามเกณฑ์ที่คนอื่นตั้ง 555+)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท