พระพุทธเจ้าของเราช่างเลิศล้ำ(๑๔) มาฆบูชา---มหัจฉริย ๔ ประการ
วันมาฆบูชามีเหตุมหัศจรรย์ ๔ อย่างซึ่งเรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต แปลว่า วันที่ประชุมแห่งองค์ ๔
๑.พระอรหันต์พันสองร้อยห้าสิบองค์
๒.ล้วนเป็นเอหิภิกษุสงฆ์ สัญจรมาแต่สี่ทิศ
๓.พากันมาโดยสมานจิตต์ มิได้มาด้วยนัดหมาย
๔.วันนั้นเล่าพระจันทร์ก็ให้เพ็ญพราย เสวยมาฆนักขัตติ
รวมมหัจฉริยเหตุสี่ประการ
พระโบราณาจารย์ จึงขนานนามว่า “มาฆะจาตุรงคสันนิบาต"
พระพุทธเจ้าเมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นมหาสังฆสันนิบาตอันประกอบไปด้วยเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว จึงทรงเห็นเป็นโอกาสอันสมควรที่จะแสดง "โอวาทปาฏิโมกข์" อันเป็นหลักคำสอนสำคัญที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาแก่ที่ประชุมพระสงฆ์เหล่านั้น เพื่อวางจุดหมาย หลักการ และวิธีการ ในการเข้าถึงพระพุทธศาสนาแก่พระอรหันตสาวกและพุทธบริษัททั้งหลาย พระพุทธองค์จึงทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์เป็นพระพุทธพจน์ 3 คาถากึ่ง ท่ามกลางมหาสังฆสันนิบาตนั้น มีใจความดังนี้
นอกจากเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตในวันเพ็ญเดือน 3 ในพรรษาแรกของพระพุทธเจ้าแล้ว ในวันเพ็ญเดือน 3 แห่งพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้า (คราวที่ทรงพระชนมายุ 80 พรรษา) ก็ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นอีกเหตุการณ์หนึ่งคือ พระพุทธองค์ได้ทรง "ปลงพระชนมายุสังขาร" พระศาสดาเสด็จพักผ่อนกลางวัน ณ ปาวาลเจดีย์
ถือได้ว่าวันมาฆบูชาเป็นวันคล้ายวันสำคัญของพระพุทธศาสนาสองเหตุการณ์สำคัญ คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ และวันที่ทรงทำการปลงพระชนมายุสังขาร" (แต่โดยทั่วไปจะทราบแต่เพียงว่าวันนี้เป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์)
สวัสดี ในวันมาฆะบูชาค่ะ
ธรรมะสวัสดี เช่นกันครับ
อุบาสิกาณัฐรดา
วันนี้ ขอทำดี ทำบุญนอกวัด ด้วยการลงทำกิจกรรมทางสังคมในหมู่บ้านครับ
กลับมาเหนื่อยมาก...เลยไม่ได้ไปเวียนเทียนที่พระธาตุนาดูน
...
ขอบคุณครับ