บริการก่อนขาย


บริการที่ดีมีคุณภาพ คือ บริการที่ลูกค้าพึงพอใจ

    

         เมื่อวานหลังรับลูกที่โรงเรียนแล้วชวนลูกชายคนโตแวะที่โลตัสสระบุรี เพื่อซื้อของใช้ที่จำเป็นในครัวเรือนประจำเดือน  ตามปกติเช่นทุกเดือน  แล้วเลยไปดูโทรศัพท์ที่อยากได้สักเครื่อง  ที่ราคาไม่แพง  และใช้งานได้ดี  เพราะโทรศัพท์เครื่องเดิมใช้มานานมากและลำโพงเริ่มมีปัญหา  เป็นอุปสรรคต่อการฟังนำไปให้ช่างดู  ช่างบอกว่าเป็นรุ่นเก่าหาอะหลั่ยยาก  สนนราคาซ่อมก็แพงอยู่ถ้าเทียบกับต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่  ฉันจึงเดินไปดูโซนขายโทรศัพท์และมีให้ทดลองกดปุ่มโน่น นี่ นั่น  อยู่หลายเครื่อง  โดยดูตามสเปคที่ต้องการ  คือ  ราคาไม่แพง  ฉันคงใช้แค่รับสายและโทรออก  ส่วนฟังชั่นอื่นๆตามที่เคยมีก็แทบไม่ได้ใช้  คิดว่าคงไม่มีประโยชน์และเพิ่มรายจ่ายออกไปอีกโดยไม่จำเป็น  แล้วก็เป็นช่วงลดราคา  ก็ถูกใจอยู่ 2 เครื่อง  แต่ก็มาจบที่สเปคมี "ฝาพับ"  แต่ก็ยังไม่ซื้อ 
  
        โทรศัพท์ในยุคปัจจุบันมีความสำคัญกับชีวิตของฉันอยู่ไม่น้อย  คือ  ที่สำคัญต้องติดต่อกับคนในครอบครัว   เมื่อต้องเดินทางคนเดียวก็คิดว่าถ้าหากมีเหตุด่วนเหตุร้ายอะไร  ก็ยังสื่อสารไปหาคนที่จะมาช่วยเหลือเราได้  และเบอร์ที่ฉันบันทึกโทรด่วนที่สำคัญก็เช่น  สามี  บ้าน  191  1669   ที่ทำงาน  ตำรวจที่รู้จัก  และ เจ้านาย
        นำความมาบอกสามีสุดที่รักที่กำลังอยากได้เครื่องใหม่อยู่ดี  ด้วยเหตุผลที่เครื่องเก่าชำรุดราคาซ่อมแพงเกินไป เมื่อเทียบกับที่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่  จึงตกลงกันไปดูและคิดว่าจะซื้อเลยคนละเครื่อง  ต้องออกไปอีกรอบซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันนัก
        เมื่อแจ้งพนักงานขาย  แล้วรอคิดเงินจ่ายเงินโดยที่  จ่ายเงินให้กับพนักงานขายเรียบร้อยแล้ว  รอแคชเชียร์ประจำเครื่องคิดเงินและรับใบเสร็จ 
        "เงินไม่พอ"   เสียงแคชเชียร์บอกมายังพนักงานขาย  เมื่อเธอหันหน้ามา หน้าตาก็สะสวยไม่ขี้เหร่แม้จะผิดคล้ำบวกกับยูนิฟอร์มที่เธอสวมก็ดูน่ารักดีนะ  แต่เสียงของเธอดูช่างไม่ค่อยพอใจ  ฉันก็เกิดต่อมเอ๊ะขึ้นในใจทันที  ว่าทำไมเงินไม่พอทั้งที่ฉันจ่ายเกินและฉันจะต้องได้รับเงินทอนอีกต่างหาก
        "เอาอีกแล้ว  บาร์โค๊ตติดมาผิดอีกแล้ว"  เสียงพนักงานขายชายพูดขึ้น
        "ทำไงดีล่ะ  ยกเลิก invoice ก่อน แล้วค่อยคีย์ใหม่"  เสียงพนักงานขายชายบอกแคชเชียร์
        "ได้ยังไงล่ะ  เปิดเก๊ะออกมาแล้ว  มีอย่างเดียวคือต้องหาเงินมาใส่เก๊ะให้ครบแล้วค่อยยกเลิก  หรือไม่งั้นก็ให้ลูกค้าไปทำเรื่องยกเลิก"  แคชเชียร์บอกพนักงานขายด้วยเสียงเฉียบขาดแบบต้องตามอย่างที่เธอแจ้งเท่านั้นแถมยังมีท่าทีว่าไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  บนใบหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้มแม้แต่นิด  ฉันยังนั่งคิดเล่นๆ  ระหว่างรอเขาและเธอสนทนากันว่า ถ้าหากเธอยิ้มสักนิด แล้วมีท่าทีที่อ่อนโยนกว่านี้เธอจะน่ารักมาก
        "เอาไงดี  ยกเลิกไม่ได้เลยเหรอ"  พนักงานขายบอกแคชเชียร์พร้อมส่งสายตาแบบวิงวอน
        "ไม่ได้ต้องให้ลูกค้าไปยกเลิกก่อน  พร้อมกับแนบเอกสารของลูกค้า  มันต้องใช้หลักฐานของลูกค้า  แล้วก็นำไปยกเลิกมาให้เราพร้อมหลักฐาน"  เสียงอันน่าเบื่อของเธอยังพูดต่อ  ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว  โชคดีที่ลูกค้าไม่มี  ไม่งั้นทุกอย่างตรงเคาร์เตอร์ของเธอต้องหยุดชะงักแน่ 
         ขณะที่ทุกอย่างหยุดชะงักพนักงานขายก็ได้โทรปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือน่าจะเป็นหัวหน้างานของเขา  พร้อมกับโทรไปที่เคาร์เตอร์ด้านหน้า  ฉันก็พอจะเดาคำตอบได้ว่าต้องไปยกเลิกตามที่แคชเชียร์บอกนั่นแหละ  แต่เขาจะมีการบริหารบริการตรงนั้นอย่างไร  ฉันและสามียังคงนั่งรออย่างใจเย็น  ในใจก็นึกว่าทำไมฉันจะต้องมาเสียเวลาด้วยนะ  เอาน่าไม่เป็นไรรอดูต่อไป
        "พี่ครับ  รอสักครู่นะครับ"  พนักงานขายบอกฉันพร้อมส่งสายตาขอโทษที่ทำให้ล่าช้า เสียเวลา (ฉันยังคงมองโลกในมุมมองของฉันอยู่) ฉันส่งยิ้มเป็นการตอบรับพร้อมพยักหน้าแบบให้กำลังใจเขา   เขาและเธอก็คุยปรึกษากันอยู่  แต่เธอซิ  ยังส่งเสียงซ้ำว่าไม่ได้ยังไงก็ต้องให้ลูกค้าไปแก้ใบเสร็จด้านหน้า  โถ! คุณคะ  ห้างโลตัสก็ใหญ่โตไม่น้อย  มันไกลอยู่นะจ๊ะ  ฉันยังคงนึกตอบคำถามในใจต่อขณะได้ยินเขาและเธอสนทนากัน
        "พี่ครับ  งั้นพี่ต้องไปแก้ใบเสร็จที่ด้านหน้าก่อนนะครับ"  พนักงานขายบอกฉันอย่างนอบน้อม
        "ให้พี่ไปแก้เองเหรอน้อง"  ฉันถามกลับอย่างราบเรียบ  พร้อมส่งมอบยิ้มให้เขาอย่างขันๆ
        "ครับ"  เสียงพนักงานขายตอบรับ  และโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้อธิบายต่อ  เพราะฉันชิงพูดเสียก่อน
        "น้องคะ  มันไม่แฟร์กับลูกค้ามั้ยคะ  พี่มาซื้อของแล้วพี่ก็จ่ายเงินให้แล้ว  แล้วจู่ๆน้องก็บอกให้พี่เดินไปแก้ใบเสร็จ  แล้วต้องเดินกลับมาหาน้องอีกนี่นะ"  ฉันเน้นคำพูดกับพนักงานขายด้วยใบหน้าเรียบเฉย
         "เปล่าครับๆ  เดี๋ยวผมพาไปเอง"  คราวนี้พนักงานขายชิงฉันตอบบ้าง
         "พี่ว่า น้องน่าจะจัดการนำเอกสารมาให้พี่เซนต์จะเป็นการดีกว่ามั้ย  นี่ถือว่าพี่ช่วยเหลือนะ  เพราะจู่ๆน้องจะมาขอเอกสารหลักฐานอะไรของพี่นี่มันไม่ได้นะ  ถ้าพี่เปลี่ยนของแล้วทำให้น้องเกิดความยุ่งยากแบบนั้นพี่ยินดีจะทำตามแบบที่น้องว่า  แต่นี่พี่ซื้อของถูกต้อง  จ่ายเงินแล้ว  และรอเงินทอนกับใบเสร็จ  มันอะไรกันเหรอ  งั้นพี่ขอเงินพี่คืนก็แล้ว  พี่ไม่ซื้อแล้ว  อย่างอื่นน้องไปดำเนินการของน้องเอง"  ฉันอยากจะบอก/สอนให้เค้ารู้มากกว่าว่าเขาควรทำอย่างไรกับเหตุการที่เกิดขึ้นกับลูกค้า  ไม่ใช่ให้ลูกค้ารับผิดชอบ  ควรรับผิดชอบอะไรบ้าง  พนักงานขายไม่พูดอะไร  แคชเชียร์ก็หันมามอง  จากที่เธอไม่ยอมหันมามองฉันเลยขณะเธอพูดทุกครั้ง
          "พี่ยังอยากได้  โทรศัพท์อันนี้อยู่มั้ยคะ"  เสียงพนักงานขายคนอื่นเข้ามาถามฉันและคิดคงจะมาช่วยเคลียร์ให้ด้วย
        "ค่ะ  อยากได้อยู่แต่ไม่ใช่ให้พี่ต้องทำตามที่น้องแคชเชียร์ต้องการ" ฉันตอบทันที
        "ถ้างั้นก็คีย์ซื้ออันใหม่ให้พี่เขาซิ  แล้วเราก็ค่อยไปทำยกเลิกเอง"  เสียงพนักงานขายคนเดิมบอก  พนักงานขายคนก่อนและแคชเชียร์  แต่เขาและเธอคงไม่ได้ฟังอะไร  เพราะเดินเลี่ยงไปคุยซุบซิบกัน 

ไม่ได้โฆษณานะคะ  แต่วันนั้นไม่มีแบบนี้

        สักครู่  พนักงานขายชายก็นำเงินมาคืนให้ฉันพร้อมบอกว่าเอาเงินคืนให้และขอชื่อที่อยู่ฉันไว้ด้วย  ไม่มีแม้แต่คำขอโทษหรือขอบคุณที่ฉันให้ชื่อและที่อยู่ไว้  ซึ่งฉันก็ไม่ได้ต้องการจะให้มีหรอก  เพียงแต่คิดว่ามันน่าจะมีเท่านั้น  แล้วน้องพนักงานขายก็นำใบเสร็จดังกล่าวไปดำเนินการเอง  คงขอชื่อที่อยู่ของฉันไปเป็นหลักฐาน  ซึ่งฉันก็เขียนๆไปเช่นกัน  ที่ให้ไปก็ไม่ชื่อ-สกุลจริงของฉันเลย
        ปกติแล้วเวลาซื้อของ  ฉันจะนึกถึงบริการหลังการขายร่วมด้วย  แต่ด้วยศักยภาพของของที่ซื้อ  ฉันคิดว่าถ้าหากใช้ไปสักระยะมันจะเสียมันคงหมดอายุการใช้งานของมัน  ตามสภาพและราคาที่เขาตั้งไว้  ฉันจึงไม่ค่อยคิดมากเรื่องบริการหลังการขายของโทรศัพท์เครื่องนี้  แต่เขาก็แจ้งว่าถ้าเครื่องเสียก็นำเครื่องเข้าศูนย์ที่สระบุรีพร้อมบอกที่อยู่หรือนำมาที่ห้างโลตัสเลยก็ได้...แต่นี่ฉันยังไม่ทันได้ใช้ของเลย  แต่ได้รับบริการก่อนขายเสียแล้ว
       ระหว่างทางกลับบ้านยังสนทนากับสามี ฉันบอกกับสามีว่าความจริงไม่โทษหรือโกรธเขาหรอก  พนักงานขายน่าสงสารด้วยซ้ำ  แต่เขาควรเรียนรู้และรับผิดชอบมากกว่านี้  และสำหรับแคชเชียร์สาว  ฉันพูดได้คำเดียวว่า ไม่น่ารัก  และไม่สมควรแสดงกิริยาอาการกับลูกค้า  เพียงแค่กล่าววาจาที่น่าฟังบางทีเราอาจช่วยเขาได้มากกว่านี้ สามีบอกว่า ช่างมันเถอะเค้า(แคชเชียร์)  อาจจะขายมาทั้งวันแล้วเหนื่อย  หน้าเลยงอ ทำให้เราต้องรอนาน...นั่นแน่  พูดเหมือนสโลแกนบริการที่โรงพยาบาลเลย  "หน้าไม่งอ...รอไม่นาน...บริการคืองานของเรา"  แต่ที่ฉันอดดีใจไม่ได้คือปกติสามีจะเป็นคนใจร้อน  แต่วันนี้กลับใจเย็นแฮะ!
หมายเลขบันทึก: 339957เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2010 19:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 12:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

สวัสดีค่ะ

  • พี่คิมเจอบ่อย ๆ เห็นแล้วน่าสงสารค่ะที่เขาคิดดี ๆ ไม่เป็น
  • อยากมีแฟนตรึมไปที่นี่ค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/krukim/339862
  • สวัสดีค่ะ
  • มาเป็นกำลังใจด้วยช่อดอกไม้สวย ๆ ค่ะ

คิดถึงจังเจ๊

ทำงานมือเท้าเป็นระวิงเลยนะ

สู้สู้

สวัสดีค่ะ  คุณครูคิม

หลายรูปแบบนะคะที่เจอ บริการก่อนขาย เช่น เดินตามทุกก้าวที่เราเลือกของ  ราวกับว่ากลัวเราขโมยของ  แนะนำสินค้ามากเกินไปจนเรารู้สึกรำคาญ  ปล่อยลูกค้าเสียจนว่าเขาจะขายของหรือเปล่าเนี่ย  เลือกดูสินค้าหน่อยก็หน้างอ ถ้าไม่ซื้อยิ่งบ่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง  ฯลฯ...แต่เราก็เข้าใจเค้านะคะ  ว่าบริการแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

ไปตามเวปที่คุณครูแนะนำ...สงสัย  แฟนจะหายมากกว่าค่ะคุณครู  iii

ขอยคุณค่ะน้อง  นกบุษรา ที่ยังคิดถึงกันเสมอมา

ขอให้น้องนกมีความสุขมากๆนะคะ

และสวยวันสวยคืนเหมือนดอกไม้ที่มอบให้มา

สวัสดีจ้า  jaja

แต่เจ๊ว่า  ยังไม่เท่า อ.ขจิตเลยค่ะ  รายนั้น เป็นมนุษย์พันแปลกแต่น่ารัก...สู้ได้ทุกวันไม่หวั่นแม้วันมามาก  555

คิดถึงเช่นกันจ๊ะ

สวัสดีครับน้องน้ำชา

บริการก่อนขาย ผมเคยอัดสปอต โฆษรา เอาเปิดงานปีใหม่ สะท้อนองค์กร ....

"โรงพยาบาล หมอคนเดียว

หมอคนเดียวตรวจรักษาได้ทุกโรค

หน้าไม่งอ รอไม่นาน ไม่ใช่บริการของ.......แต๋มๆๆๆๆๆๆๆๆ

คุณหมอชอบมากครับ อิอิอิ

ตามมาก่อกวนก่อนนะครับ บริการก่อนขาย ...

ถือว่าอดทนได้ดียิ่งเลยทีเดียว...
ถ้าเป็นผม  คงไม่รอและลุยกันแล้วกระมังครับ
แต่ก็อย่างว่า...ในโลกความจริง น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
คล้ายครั้งหนึ่ง เด็กปั้มเติมน้ำมันให้ผิด เติมเกินกว่าที่เราสั่ง  ...(เห็นใจ)
แต่กรณีนี้ เขาต้องเห็นใจเรา และอำนวยความสะดวกให้กับเราอย่างถึงที่สุด

บริการ คือ งานของเรา - เขาน่าจะรู้และตระหนักในวาทกรรมทำนองนี้...

ขอบคุณครับ

ผมจะข้ามไปฝั่งนู้นครับ มีคนฝากซื้อโทรศัพเหมือนกันโดยเฉพาะ BB พี่จะรับซัก สองเครื่องมั๊ยครับ รับประกันก่อนขายครับ

สวัสดีค่ะ  ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

ชอบจังเลยค่ะ  สปอต ที่ว่า

แค่นี้ก็โดนร้องเรียน  พยาบาลแก่บ้าง  พยาบาลไม่สวยบ้าง  555

สวัสดีค่ะ  อ.ขจิต ฝอยทอง

น่าสนใจมั้ยค่ะบริการก่อนขาย

คิดถึงค่ะอาจารย์

สวัสดีค่ะ  คุณครูปริมปราง

เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้แล  บริการก่อนขาย  ร้ายจริงๆ

มีความสุขมากๆนะคะ

สวัสดีค่ะ  อ.แผ่นดิน

ความจริงเราก็เห็นใจเค้านะคะอาจารย์แต่  เค้าไม่เห็นใจเราเลย  พยายามเข้าใจเค้าแล้วแต่เห็นเราไม่พูด  เลยไปกันใหญ่ 

เรื่องเด็กปั๊มเติมน้ำมันให้เกิน Order ก็เคยมาแล้วค่ะ แต่ก็น่าสงสารตอนนั้นพอดีว่าใกล้บ้านขอกลับไปเอาเงินที่บ้านมาให้  ทำหน้าตาน่าสงสารเชียว  พอนำเงินมาให้ครบเค้าตกใจไม่นึกว่าเราจะนำเงินมาให้จริง  ความจริงเราไม่ใช่คนใจร้าย  ไม่ชอบเอาเปรียบใคร  และก็ไม่ชอบให้ใครมาทำกับเราเช่นนั้น  ทำผิดยอมรับผิดให้อภัยได้เสมอค่ะ

มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะคะอาจารย์ 

สวัสดีค่ะ  คุณหมอสีอิฐ

ไปฝั่งนู้นขอ Order BB สักเครื่องนะคะอาจารย์  เน้นสีชมพูด้วยค่ะ  พูดจริงๆนะคะคุณหมอ  ไม่หวังบริการหลังการขายด้วยค่ะ  ii  แล้วจะรอรับนะคะ

คนไข้และคนมาใช้บริการเยอะมั้ยค่ะ

ขอให้มีความสุขกับงานนะคะ

มาบอกว่า รอ่านบันทึกใหม่อยู่ วันก่อนไปท่าม่วง พบเพื่อนหมอปื๊ดด้วย เป็นรุ่นพี่ผมชื่อคุณหมอ ปิ่นอภัย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ตามมาเพราะอยากรู้บริการก่อนขายอะคะ

รออ่านเรื่องอยุธยา มาเยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะ  คุณครูkrutoiting

บริการก่อนขาย  เป็นอย่างไรบ้างคะคุณครู  ขออย่าให้ใครได้เจอแบบ namsha เลยนะคะ

พี่ยังใจดีนะ.....เป็นผมผมจะด่าให้เสียเลยละ......พนักงานขายนะไม่เท่าไหร่แต่ไอ้พวกแคชเชียร์นี่ซิ.....พูดไม่เพราะ

สวัสดีค่ะ ชีวิตขาดอะไร...น๊า

เพราะเราพยายามเข้าใจเค้าน่ะค่ะ  แต่ที่สุดแล้วคงเห็นว่าเราไม่โวยเลยไม่รู้ตัว  ก็เลยต้องพูดให้รู้บ้าง  ความจริงอยากจะพูดมากกว่านั้นอีกค่ะ

ถือว่าเป็นบททดสอบสติและกิเลสค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท