ประเพณีส่งสการ
ส่งสการ เป็นประเพณีเกี่ยวกับการจัดงานศพของชาวล้านนา หมายถึงการที่ลูกหลานญาติมิตร นำเครื่องสักการะต่าง ๆ ตามไปส่งผู้วายชนม์ที่สุสาร ถือว่าเป็นการยกย้องให้เกียรติ์และสักการะนั่นเอง
ก่อนวันส่งสการ ๑ วัน จะนำร่างผู้วายชนม์ออกจากบ้านไปขึ้นปราสาทไม้ที่เตรียมไว้นอกชายคา ตกกลางคืนจะมีการสวดอธิธรรม เทศนาธรรม และมีการเล่นมหรสพต่าง ๆ ให้ครึกครื้นตามแบบประเพณีโบราณ
ช่วงเช้าของวันส่งสการ หลังจากถวายเพลพระสงฆ์แล้ว ช่วงบ่ายมีพิธีบังสุกุล และฟ้อนหน้าไฟ แล้วจึงตั้งขบวนแห่ไปยังสุสาน
ริ้วขบวนส่งสการประกอบด้วยของต่าง ๆ มากมาย จะยกเฉพาะสิ่งสำคัญ ๆ ต่อไปนี้
๑. นำขบวนด้วยกังสดาล เพื่อประกาศให้ผู้คนล่วงรู้ด้วยเสียงดังกังวาน
๒. ตุงสามหาง ที่ทำเป็นรูปตัวคน เขียนชื่อ วันเดือน ปีเกิด ผู้วายชนม์ไว้ สามหางหมายถึงไตรสรณะคม จะได้เกาะขึ้นไปสู่สวรรค์
๓. ถุงข้าวด่วน การเดินทางไปปรโลกมีระยะทางเท่าใดไม่มีใครทราบ ญาติมิตรจึงได้ห่อข้าว หมากเมี่ยงเสบียงกรัง เพื่อให้ผู้วายชนม์ไว้กินระหว่างทาง เป็นกุศโลบายที่ว่า การสร้างบุญกุศลไว้ย่อมเป็นเหตุปัจจัยเหมือนกับห่อข้าวไว้เดินทาง
๔. เสลี่ยงคามหามพระสงฆ์ พระสงฆ์อ่านธรรมเพื่อนำทางไปสู่ภพภูมิที่ดี
๕. เสลี่ยงปราสาทเล็ก ที่บรรจุเครื่องอุปโภคต่าง ๆ เพื่อให้นำไปใช้ในปรโลก
๖. เสลี่ยงปราสาทหลวง ที่บีจุหีบใส่ร่างผู้วายชนม์ มักจะสร้างเป็นปราสาทย่อมุมไม้สิบสอง ฉลุลายด้วยกระดาษสี ประดับด้วยดอกไม้นาน ๆ พันธุ์
๗. ขบวนญาติมิตร ปิดท้ายด้วยขบวนนักดนตรี ที่จะบรรเลงประโคมตลอดระยะทางส่งสการ
เมื่อมาถึงสุสาน จะนำปราสาทหลวงตั่งไว้บนกองฟอน ถวายผ้าบังสุกุลแก่พระสงฆ์ มีการฟ้อนหน้าไฟ
การประชุมเพลิงเริ่มด้วยการจุดบอกไฟลูกหนู ซึ่งจะวิ่งไปจุดดอกไม้ไฟตามห้างที่มีอยู่รอบสุสานละลานตา ห้างพลุไฟเปรียบเป็นป่าหิมพานต์ประตูสู่สวรรค์ สุดท้ายจะวิ่งไปสู่ปราสาทหลวง เผาไหม้ทั้งปราสาทรวมถึงหีบใส่ร่างผู้วายชนม์
ประเพณีส่งสการของชาวล้านนาล้วนแฝงไปด้วยกุศโลบาย เพื่อสอนลูกหลานให้ประพฤติปฏิบัติตนตามหลักศาสนา นอกจากนั้นยังรวบรวมวัฒนธรรมประเพณี และงานช่างฝีมือล้านนาไว้มากมาย เช่น การฟ้อนรำ การสร้างปราสาทหลวง การแต่งกายของผู้รวมงาน ซึ่งปัจจุบันนี้หาดูพิธีการนี้ได้ยากเต็มที
ภาพงานพิธีส่งสการ เจ้าไชยสุริยะวงศ์ ณ เชียงใหม่
(ที่มา : http://maingarm-999.blogspot.com/2009_12_01_archive.html สืบค้นเมื่อ ๒๔ - ๒- ๒๕๕๓)
ที่มา : เอกสารจากหอสมุดแห่งชาติ
ภาพ : http://maingarm-999.blogspot.com/2009_12_01_archive.html
เรียบเรียง : วาทิน ศานติ์ สันติ
ขอบขอบคุณสำหรับข้อมูลและภาพไว้ ณ ที่นี้
ไม่มีความเห็น