การจัดการความรู้เรื่องที่หนึ่งน่าจะเป็นเรื่องการจัดเวลา เวลาทุกคนมีเท่ากันคือวันละ 24 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าท่านจะจัดสรรเวลาทั้ง 24 ชั่วโมงได้อย่างไร
เคยได้ฟังนักข่าวในวิทยุกล่าวว่า คนไทยเสียเวลากับการหาอยู่หากินมากถึงวันละ 5 ชั่วโมง คำว่าหาอยู่หากิน คือกว่าจะปรุงอาหาร รับประทานอาหาร ล้างถ้วยล้างชาม ถ้าบ้านไหนมีอาหารว่างด้วย คงจะเสียเวลาไปมากกว่าที่กล่าวมา
แล้วถึงเวลานอน คุณแม่ของผู้เขียนสอนว่า อรหันต์ สี่ เศรษฐี ห้า ยาจก หก หมายถึง การจะเป็นอรหันต์ต้องนอน 4 ชั่วโมง ใครจะเป็นเศรษฐีต้องนอน 5 ชั่วโมง และถ้าใครนอน 6 ชั่วโมงเป็นยาจกแน่ ก็เลือกเอาเองนะคะว่าจะนอนกันวันละกี่ชั่วโมงในหนึ่งวัน หักลบแล้ว เวลากินกับเวลานอน รวมแบบถัวเฉลี่ยเป็น 10 ชั่วโมง
คนกรุงเทพฯเสียเวลากับการอยู่บนถนน ยกตัวอย่างผู้เขียนอยู่บนถนนเดินทางไปทำงานทั้งไปและกลับ 1 ชั่วโมง 45 นาที ซื้อกับข้าวด้วยก็ 2 ชั่วโมงพอดี รวม เวลากิน เวลานอน เวลาเดินทาง รวมเป็น 12 ชั่วโมง
อยู่ที่โรงเรียนตั้งแต่ 06.00 น จนถึง 17.00 น.(ประมาณ) รวมเวลาอยู่ที่โรงเรียนเป็น 11 ชั่วโมง รวมเวลากิน เวลานอน เวลาเดินทาง อยู่ที่โรงเรียนเบ็ดเสร็จแล้วรวมได้ 23 ชั่วโมง มีเวลาที่จะทำอะไรตามใจฉันเพียงแค่ 1 ชั่วโมง
ต้องแบ่งเวลาแล้วค่ะ เวลาที่จะเรียนรู้เพียง 1 ชั่วโมง จะทำอะไรได้ จะหักเวลาเดินทางก็ไม่ได้ กลับบ้านก่อน 17.00น.ก็คงจะได้กระมัง ก็ต้องหันมาหักเวลากิน หรือหักเวลานอนก็ได้
ลองจัดเวลาให้ตนเอง ผู้เขียนหักเวลากินค่ะ จะหัดเป็นคนกินง่าย ไม่ต้องพิถีพิถันกันทุกวัน ตามแต่โอกาส แต่จะไม่ปล่อยเวลาเสียไปโดยไม่ได้ประโยชน์
ครูผู้สอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา หรือท่านผ่านไปมาอ่านแล้วคล้อยตาม ลองนำแนวทางไปลองปฏิบัติดูนะคะ หรือท่านใดมีแนวทางที่ดีกว่านี้ มาแนะนำกันบ้างนะคะ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ครูอ้อย แซ่เฮ ใน ครูภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษาจัดการความรู้
เหมือนๆเคยได้ฟังใครพูด หรือได้อ่านจากที่ไหนแต่นานจนลืมๆไปแล้ว ขอบคุณนะคะที่เล่าให้อ่าน ให้รำลึกถึง และคิดว่า เราลืมอะไรไป...ใช่เลยคะ ..ลืมแบ่งเวลาให้ตัวเอง...ให้ครอบครัว...ให้ไว้สำหรับการได้ใช้นานๆ... เริ่มคิดว่า...เรากำลังดึงเอาเวลานาคตมาใช้หรือเปล่า...
จะลองแบ่งเวลาย่างพี่อ้อยว่าดู...กลัวแต่มีสิ่งที่ใหญ่กว่ามาทำให้ช่วงเวลาเราหายไป
ขอบคุณนะคะ