ประเทศไทย ไม่น่าเลย...


เสียงบ่นของคนแก่...

สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา...

พูดอย่างนี้คงกว้างมากจนไม่มีใคบอกว่าผิด

ใครจะคิดประเทศไทยที่เคยสุขสงบ...
วันนี้ เราหันหน้ามาตีกันเอง แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย หาคนแพ้ชนะ ยิ่งกว่านั้น ยังมีคนที่นั่งดูอยู่เฉย รอให้มีคนชนะแล้วเข้าเป็นพวก บางคนก็ไม่อยากเปลืองตัว

พูดอย่างนี้ไม่ได้ยุให้เลือกข้างนะครับเพียงแต่กำลังคิดึงว่าเมื่อไหร่ที่ คนไทยเราจะได้คิดเสียที่ว่า เราทะเลาะกันไปทำไม ใครได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ .. แต่ก็นั่นแหละครับอย่างมาก นักวิชาเกินที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างผมก็ได้แต่มองแล้วก็สั่นหัวไป มากสุดที่ทำได้คงได้แต่ทำใจแล้วเขียนงานวิชาการออกมาสะท้อนปัญหาแล้วเสนอทางแก้ไขเท่าที่ความรู้ตัวเองจะมี (ตอนนี้ยังรู้ไม่พอที่จะบอกว่าต้องแก้อย่างไร แล้วก็รู้ด้วยว่า ปัญหานี้ทุกคนต้องช่วยกันแก้)

 

GT 2000

ประเด็นร้อนที่ทุกคนจับตามอง และเป็นทอล์ค ออฟ เดอ ทาวน์ว่าจะเป็นมวยล้มต้มคนดูเหมือน เรื่องเปิด/ปิดเขื่อนปากมูลไหม  ครม.สมัย นายทักษิณตั้งกรรมการขึ้นมาศึกษาผลดีผลเสีย แล้ว มีคำแนะนำออกมาอย่าง ครม.ตัดสินอีกอย่างโดยที่ไม่มีเหตุผลสนับสนุนการตัดสินใจว่าอยู่บนฐานของอะไร สังคมไทยก็งง หรือ

เรื่องการรถไฟไทย สรุปจะปฏิรูปหรือไม่ปฏิรูป ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการอยู่ตรงไหน รัฐบาลอภิสิทธิ์เอาอย่างไร เพราะนี่เรื่องก็จะเงียบหายไปอีกแน่นอนจากการที่ถูกกระแสความวุ่นวายทางการเมืองมาบดบังกระแส แถมสื่อไทย ก็ดีใจหาย ไม่เสนอข่าวเลย ไม่มีการติดตามผลงาน สื่อไทยดีจัง..(ประชดนะรู้ไว้ด้วย)

  อย่างไรก็ตาม รอดูว่านายกอภิสิทธิ์ออกมาพูดว่าไม่ควรใช้แล้วเพราะไม่น่าเชื่อถือ  แต่ผู้บัญชาการกองทัพบกออกมา ยืนยันว่ายังคงน่าใช้ เพราะไม่มีเครื่องมืออื่นให้ใช้ ณ ตอนนี้... ... เข้าใจข้าราชการไทย ผู้ใหญ่ย้ายลงภาคใต้เอาชื่อไปแปะรับเบี้ยเสี่ยงภัย ผู้น้อย ถือกระบอกเครื่องบรรลัยGT2000 เสี่ยงชีวิต ต้องรอดูว่า ผลจะออกมาอย่างไร (อนาถใจ...)

 

เราเคยเป็นบ้านเมืองที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมถูกทำลายจะกินกุ้งปลาทีต้องไปขอสัมประทานทำประมงจากเพื่อนบ้าน ต้นทุนทางสังคมเราไม่เหลือแล้ว บรรดานักวิชาการทั้งหลายช่วยกันเสนอทางแก้ไขด่วน สื่อทั้งหลายทำข่าวด่วน!!!

เราเคยเป็นเมืองที่ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ  ตอนนี้มีความพยายามสร้างกระแสความเกลียดชังระหว่างศาสนา เพื่อแบ่งแยกประเทศ    เราเอาศาสนามาใช้อย่างเห็นแก่ตัวหรือเปล่า? และท้ายสุด เราไม่เว้นที่ว่างให้ความเชื่อส่วนบุคคลในแต่ละศาสนาเลยใช่ไหม

 เราอยู่อย่างที่พระเจ้าอยู่หัวเราสอนพวกเราว่าในบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่เราต้องสนับสนุนคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง ซึ่งคนดีในความเห็นผมนั้น คนดี ต้องดีกับบ้านเมือง ไม่ว่าเหลืองแดง ถ้าไม่ดีกับบ้านเมือง ก็ไม่ควรเอาไว้ "ถ้าเราไม่สร้างระบบที่สนับสนุนสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา.. วันหนึ่งเราทุกคนจะแย่ เราจะไม่มีที่ยืน"  แต่ไม่แน่... ประเทศไทยอาจจะต้องรอให้เราเสียบางสิ่งบางอย่างไปก่อน เราจึงจะรู้คุณค่าของสิ่งที่เราเสียไป

 

ระบบการศึกษา เราเคยมีระบบการศึกษาที่พอใช้ได้ และดีถึงขั้นที่คนเกาหลีมาดูงานหลังสงครามเกาหลี วันนี้การศึกษาไทยอ่อนปวกเปียก คนในระบบฟัดกันเอง ผู้บริหารพยายามเอาสถานศึกษาออกนอกระบบ เพื่ออำนาจ เพื่อพวกกู โดยอ้างว่าจะเป็นประโยชน์ ร้อยเปอร์เซ็น  โดยไม่พูดถึงข้อเสียที่มีเลย ถ้าออกนอกระบบดีจริง ทำไม ท่านอาจารย์สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่เอาธรรมศาสตร์ออกนอกระบบ ไปเลย ทั้งๆที่สมัย ไอเอ็นเอฟ ท่านเป็นแกนนำในการทำเรื่องนี้เอง  แถมตอนนี้เราไม่อยู่ในโปรแกรมไอเอมเอฟแล้ว ทำไมยังต้องออกนอกระบบ ตอนนี้มหาวิทยาลัยรัฐหลายๆแห่งก็พยายมจะออกนอกระบบตาม  

ทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ความคิดที่เหมือนดี  แต่เป็นการสร้างหนี้สินแก่นักเรียนตั้งแต่ยังไม่จบ รัฐบาลในอดีตเคยให้เงินสนับสนุนมหาวิทยาลัยตามจำนวนนิสิตนักศึกษาที่รับเข้ามา  แต่... นับตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ เปลี่ยนนโยบายให้เด็กกู้เงินเรียนเอง สรุปรัฐไม่ต้องแบกรับภาระการศึกษา เอาเงินให้ สส. อบต.ไปดูงานต่างประเทศดีกว่า( *** เรื่องเศร้า)

วันนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งอ้างความเป็นมหาวิทยาลัยแห่งโอกาส เพื่อที่จะสร้างคน รับนักศึกษากันไม่อั้น เปิดรับตรง หลายรอบ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในกำกับทั้งหลาย เพื่อพยุงความอยู่รอด แต่ไม่ได้ดูหรือเปล่าว่ามาตรฐานการสอนมีคุณภาพพอไหม พอเด็กเรียนไม่จบ ก็กลายเป็นหนี้ทันทีหลังหนึ่งปี น่าถามว่า จริงๆ แล้ว ตัวนักศึกษาเองมีศักยภาพพอไมที่จะเรียน คนเรามีสิทธิเท่ากันแต่มีความสามารถที่แตกต่างกัน มีอาจารย์ท่านหนึ่งเคยตั้งคำถามว่า  เรากำลังทำร้ายเด็กหรือเปล่า เราปล่อยให้เด็กๆ เข้ามาเรียนโดยรู้ว่าหัวเค้าไปไม่ไหว ทำไมไม่ให้เค้าไปเรียนสาขาอื่นๆ ในสายอาชีพ จบมามีงานทำเลยดีกว่าเด็กบางคนที่เรียนมหาวิทยาลัยมา แต่ก็ไม่จบแถมเป็นหนี้อีก พูดอย่างนี้ ก็พูดดังไม่ได้เดี๋ยวจะหาว่าพวกอาจารย์มหาวิทยาลัยไปกีดกันสิทธิในการศึกษาของเด็กๆ  เราเห็นเด็กอาชีวะหลายคน จบไปเปิดอู่ติดแก๊ส ได้เงินเดือนเป็นหมื่นมากกว่าคนจบมหาวิทยาลัยเสียอีก  อย่างนี้แหละ สังคมไทย (บ้าใบปริญญา มีปริญญา มี ศาสตราจารย์, ดร. เต็มเมือง แต่แก้ปัญหาประเทศไม่ได้)

 

วันนี้เรายกฐานะวิทยาลัยราชภัฏ เรายกฐานะวิทยาลัยเอกชนให้เปิดการสอนระดับปริญญา จนถึงปริญญาเอก แต่เราไม่คุมมาตรฐาน  เด็กจบมาแล้วต้องปิดหลักสูตร ทำไมไม่คุมตั้งแต่ตอนก่อนยกฐานะ ที่น่าเศร้า คือ เพื่อนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแห่งหนึ่งที่บอกว่าตัวเองอินเตอร์ ตัวเค้าเองสำเร็จปริญญาโทต่างประเทศมา ต้องไปเรียนปริญญาเอกต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ เพราะหนึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนั้น ไม่มีทุนให้ อ้างว่า ถ้าส่งอาจารย์ ไปคนหนึ่งต้องส่งอาจารย์ทุกคนเรียนต่อ เชิญอาจารย์พิเศษ ดีกว่าประหยัดกว่า... แต่ตามกฎ สมศ. มหาวิทยาลัยต้องมีอาจารย์ประจำที่มีตำแหน่งวิชาการและ ดร. ทำให้ อาจารย์ท่านนั้นตัดสินใจไปเรียนที่มหาวิทยาราชภัฏในโปรแกรมภาษาไทย เพื่อไปสอนในมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่อินเตอร์  ที่พูดนี้ไม่ได้ดูถูกมาตรฐานการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่พึ่งได้รับการยกฐานะทั้งหลาย  แต่ไม่มั่นใจ การควบคุมคุณภาพการศึกษา  ขนาดมหาวิทยาลัย แห่งการวิจัยของไทยทั้งหลายจะเปิดปริญญาเอก คิดแล้ว คิดอีก มหาวิทยาลัยราชภัฏไทยหลายแห่ง พอยกระดับเป็นมหาวิทยาลัยก็เปิดเลย พร้อมกันจริงแล้ว หรือ หรือพร้อมเพราะต้องพยุงฐานะ เรื่องนี้พูดดังก็ ไม่ได้ เพราะผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เดี๋ยวจะหาว่าผมไปปิดโอกาสของมหาวิทยาลัยเอกชน และมหาวิทยาลัยราชภัฏอื่นๆ (แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็บอกผมได้ตรงๆ นะครับ ผมตั้ง ข้อสังเกตไว้) เรื่องนี้คงต้องให้เวลาพิสูจน์คุณภาพของบัณฑิตเอา ไม่ว่าสถาบันใดก็ตาม

ส่วนตัวผมเอง ผมเชื่อว่าคนที่ตัดสินใจมาเป็นอาจารย์ทุกคนไม่ว่าอยู่ในสถาบันใดก็ตาม  เราอยากถ่ายทอดประสบการณ์และสิ่งดีๆ ให้เด็ก และผมเชื่อมั่นว่าถ้าคนที่เป็นอาจารย์ในประเทศไทยทุกคนพัฒนาความรู้ตัวเองอยู่เสมอ เราจะไปรอดประเทศชาติก็จะรอด  แต่ถ้าแม่พิมพ์ของชาติ บิดเบี้ยว เห็นแก่ประโยชน์ตนและพวกพ้อง ไม่พัฒนาความรู้ทางวิชาการ เอาแต่หวังตำแหน่ง อำนาจ และประโยชน์ของตน คนในชาติก็จะ ไร้คุณภาพไปเรื่อยๆ

 

แม่พิมพ์เป็นฉันใด ผลก็ออกมาเป็นฉันนั้น

 

ขอพระสยามเทวาธิราชปกป้องบ้านเมืองไทยให้เจริญรุ่งเรือง ให้คนดีมีที่ยืนในสังคม  ให้คนไทยรู้คุณค่าของการสร้างระบบสังคมที่ดี ระบบการศึกษาที่ดี และคุณค่าของการสร้างคนที่มีคุณภาพ และคุณธรรม ขอให้ทุกเชื้อชาติ ศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคียอมรับในความแตกต่าง ขอให้ทหาร และตำรวจที่ทำดีตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสุข และปลอดภัย ขอให้พี่น้องไทยทุกศาสนาในสามจังหวัดชายแดนใต้ อยู่กันอย่างสุขสงบร่มเย็นเทอญ

คำสำคัญ (Tags): #ประเทศไทย
หมายเลขบันทึก: 337875เขียนเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2010 21:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ชีวิตครับ ทำดีต่อไปครับ 


ผมอยากเห็นประเทศชาติสงบสุข.....อยากให้ในหลวงหายเหนื่อย

แต่ในตอนนี้บ้านเมืองวุ่นวายไปหมด ในเมื่อ นักการเมืองต่างๆยังไม่มีจิตสำนึก

ประเทศชาติก็คงไม่มีวันสงบสุข ไม่มีวันเจริญ ซึ่งในความคิดผม ก็ มีแต่นักการเมืองหน้าเก่าๆ

มาเป็นฝ่ายบริหาร สลับกันไปมา มันก็ยังคงอยู่ในวังวนนี้ต่อไป คงไม่มีวันพัฒนา สักที

แถมในตอนนี้ ยังเกินข้อครหา ว่า ศาลอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน นั้น

เกินเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์ ว่าปฎิบัติหน้าที่ 2 มาตราฐาน ซึ่งผมฟังข่าวและมาวิเคราะห์ บางเรื่องมันก็จริง

หากในเมื่อศาลอันเป็นที่พึ่งแห่งความยุติธรรมสุดท้ายโดนเหยียบย่ำขนาดนี้ ไม่เป็นที่ยอมรับ

บ้านเมืองจะมีสภาพอย่างไร ผู้พิพากษา เริ่มถูกดึงไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองมากขึ้น ถูกกดดันมากขึ้น

ซึ่งที่ ผมกล่าวมา นั้น มันเป็นเพียงความคิดด้านเดียวของผม ผมก็ไม่รู้จะขอความเห็นจากอีกด้านจากใคร

ผมก็เลยอยากให้อาจารย์ ซึ่งผมรักและเคารพ รับฟัง ถูกผิดอย่างไรก็ขอความคิดเห็น ชี้แนะ ด้วยนะครับ

อีกกรณีหนึ่ง ผมอยากรู้อาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับคดีที่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมันก็เป็นการกระทำที่เห็น

อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ว่าใครผิด ใครเป็นตัวการ แต่ผมยังเห็นคดียังไม่ไปถึงไหนเลย ทั้งๆที่เป็นคดีใหญ่ สร้างความเสียแก่ประเทศ

อย่างมากมาย

อันนี้คือความเห็นของผมนะครับ

ตอนนี้รัฐบาลยังทำงานไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ จะด้วยว่าเวลายังไม่นานรึว่าถูกขัดขวางโดยกลุ่มคนบางกลุ่ม ผมว่าเราน่าจะให้โอกาสรัฐบาลนี้ทำงานมากกว่านี้ซักหน่อยนะครับ

ส่วนในกรณีความเห็นข้างบน ในเรื่องของ นักการเมืองรุ่นเก่าๆหน้าเดิมๆ ผมเห็นด้วยนะครับ จะกี่ปีก้เห็นแต่หัวหน้าพรรคเดิมๆ ลูกพรรคเดิมๆ ในการที่ไม่มีนักการเมืองรุ่นใหม่ๆขึ้นมานั้น ผมมีความเห็นว่า มันน่าจะเกี่ยวกับ อิทธิพลและฐานคะแนน ถึงจะไม่เกี่ยวทั้งหมดแต่มันก็มีส่วนไม่มากก็น้อยนะครับ นักการเมืองรุ่นใหม่ๆ หากไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพรรคการเมืองชื่อดัง ต่อให้การศึกษาดี นิสัยดี ฐานะทางบ้านไม่ขัด ก็คงจะยากที่จะฝ่าฟันหัวคะแนน อิทธิพลของนักการเมืองรุ่นพี่ได้ แล้วสาเหตุที่ทำให้พวกนักการเมืองรุ่นพี่พวกนี้ยังอยู่ได้ก้เพราะการซื้อเสียงนั่นเองครับ เชื่อผมสิ เเม้แต่เลือกตั้งอบต สท ยังมีการซื้อเสียงเลยครับ

ส่วนคำว่า 2 มาตรฐานนั้น ผมว่ามันก็สมควรอยู่หรอกนะครับ ตอนรัฐบาลเสื้อแดงก็ให้ มารตรฐานที่2 แก่พวกเสื้อเหลือง พอมาทีของรัฐบาลเสื้อเหลือง มันก็คงจะเป็นทีของเสื้อแดงบ้างล่ะครับ ที่จะโดนยัดเยียดมาตราฐานที่ 2 ให้ แต่ในกรณี แกนนำพันธมิตรที่จะต้องถูกจับ ผมว่า ตำรวจสมควรที่จะจับได้แล้วนะครับ ไม่ทราบว่ารออะไรอยู่ คนทั่วไปที่ไม่ใช่แดง อย่างผมก็รอคำตอบเหมือนกันนะครับ

ที่มาพูดทั้งหมดนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องของข้างบนเลย แต่ก็แอบๆใกล้เคียงหล่ะนะ ^^ อยากให้คนไทยรักกันนะครับ

อ่านแล้ว เห็นความตั้งใจเลยครับ ขอบคุณครับสำหรับความคอดที่ถ่ายทอดออกมา

อ่านแล้ว เห็นความตั้งใจเลยครับ ขอบคุณครับสำหรับความ*รู้*ที่ถ่ายทอดออกมา

ขอบพระคุรทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม แวะมาให้กำลังใจ และให้ความเห็นครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท