การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอีกแนวทาง คือ การศึกษาจากหลักปรัชญา เพราะแนวทางปรัชญานั้น เป็นศาสตร์แห่งการเปลี่ยนแปลง ทุกท่านคงไม่ลืมว่า ในอดีตปรัชญาเมธีสากลต่างๆ เช่น พลาโต, อริสโตเติล, โฮเมอร์ และอีกหลายๆ ท่าน เป็นผู้ที่ก่อให้เกิดปัญญา สร้างลูกศิษย์มากมาย และฝึกให้เกิดทักษะของการคิด
ผมเชื่อว่า การคิดที่ถูกต้องนั้น เป็นส่วนที่ช่วยในการพัฒนาสังคม และการพัฒนามนุษยชาติได้เป็นอย่างดี ลองศึกษามุมมองในแง่ของปรัชญาดูบ้าง
1. ปรัชญาพื้นฐาน
- Idealism (ความคิด : อุดมคตินิยม)เป็นแนวความคิดหรืออุดมคติ เกิดขึ้นภายในสมอง,
- Materialism (ปฏิบัตินิยม)
- Experientialism (ประสบการณ์นิยม)
- Existentialism (อัตนิยม) มองตัวเอง ใช้ตัวเองเป็นผู้ตัดสิน มนุษย์มีทางเลือก (Choice)
อยู่ที่จะเลือกไปทางไหน อยู่ที่เฉพาะตัวบุคคล เราเลือกที่จะอยู่ฝ่ายไหน ด้านไหนก็ได้
ชาวต่างชาติเชื่อการตอบแทนโดยมีผลประโยชน์และมีกรตอบแทน แต่มิได้เป็นเรื่องของความมีบุญคุณต่อกัน เป็นแนวทางการคิดและการดำเนินชีวิตของโลกทุนนิยม
2. ปรัชญาการศึกษา
มีอยู่แล้วในเบื้องต้น โดยมิต้องสนใจในปรัชญาพื้นฐาน บางครั้งอาจจะเรียกว่า แนวคิดทางการศึกษา หรือทฤษฎีทางการศึกษา
- เราต้องการมนุษย์แบบไหน?
- จัดให้เรียนเช่นไร?
- จะสอนหรือถ่ายทอดอย่างไร?
เช่น คนว่านอนสอนง่าย คนมีวัฒนธรรม ต้องให้เรียนในเรื่องของวัฒนธรรม และใช้แนวการสอนแบบสั่งสอน (สารัตถนิยม)
สารัตถนิยม เป็นความเชื่อของผู้ปกครองหรือผู้อาวุโสในการเลือกให้ ชี้แนวทางให้ ดังนั้น ลูกหลานจึงไม่มีโอกาสได้เลือก
ถ้าเป็นสมัยก่อน สารัตถนิยมก็อาจจะใช้ได้ผล แต่ในสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันใช้แนวความคิดในการบังคับไม่ได้
ประเทศและการศึกษาจะไม่เกิดการพัฒนา หากเราต้องการให้เกิดการเรียนการสอนแนวใหม่ เกิดการพัฒนาทางสติปัญญา นั่นคือ ต้องให้ผู้เรียนได้คิด ได้พัฒนาสติปัญญาโดยสม่ำเสมอ โดยการจัดการสิ่งแวดล้อมให้เกิดแนวทางการพัฒนาปัญญา เมื่อมนุษย์เกิดปัญญา ปัญญาจะเป็นสิ่งที่อยู่ยาวนาน เป็นสิ่งที่อยู่นิรันดร...
จึงกลายเป็นปรัชญานิรันตรนิยม คือ การอยู่อย่างถาวร ไม่มีสูญสลาย สิ่งที่อยู่เนิ่นนาน ก็มาจากแนวความคิดของพุทธศาสนา ซึ่งมีความเป็นนิรันดร์ มีความเป็นนิพพาน ปรัชญานิรันตรนิยม ไม่เกี่ยวกับปรัชญาใดๆ เป็นปรัชญาประยุกต์ ไม่ใช่ปรัชญาแท้ๆ
ถ้าต้องการให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขในสังคม เช่น สามารถปรับตัวได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ เรียกว่า พิพัฒนนิยม เน้นเรื่องของร่างกายที่แข็งแรง
สังคมปัจจุบันต้องเน้นเรื่องของการคิด การคิดวิเคราะห์ จึงเป็นสิ่งที่ควรพัฒนาและเสริมสร้างเข้าในจิตใจ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาด้านความคิด ให้พัฒนาเป็น Thinking School
การคิด เป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ต่ำสุด หรือการเห็นความสำคัญน้อยที่สุด การศึกษาไทยในปัจจุบันเน้นเอาการศึกษาจากต่างประเทศเข้ามาสอน จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องย้อนกลับเข้าสู่ชุมชน เข้าไปดูว่าชุมชนต้องการอะไรมากกว่าการค้นหาในเรื่องที่ไกลตัวหรือนอกเหนือทรัพยากรที่มีอยู่ ต้องค้นหาสิ่งที่อยู่ในชุมชน ให้การศึกษาถูกย้อนกลับเข้าสู่สังคม
กลุ่มต่อมาเน้นว่า การศึกษาเปลี่ยนแปลงตามสังคมโลกเป็นประจำ ไม่มีแนวทางความคิดทางการศึกษาเป็นของตนเอง ไม่มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง...
กลุ่มต่อมา เน้นเรื่องของเทคโนโลยี เรื่องของอนาคต สังคมโดยส่วนใหญ่จะเป็นสังคมบริโภคนิยมและตามแบบอย่างต่างประเทศเป็น Consumer และ Follower เห็นแบบอย่างจากวัยรุ่นเป็นตัวสำคัญ เราเป็นผลผลิตนิยมน้อย ไม่ค่อยสร้างสรรค์นิยม ในระยะยาวเราจะกลายเป็นสังคมที่ตามอย่าง ไม่เกิดการพัฒนา
มนุษย์ในสังคมยุคใหม่ต้องปรับเปลี่ยนเป็นแนว CCPR ให้มากขึ้น
C = Critical
การวิเคราะห์หาเหตุผลให้มากขึ้น โดยเฉพาะ Critical Mind บริโภคอย่างฉลาด เป็น Smart Consumer
C = Creative Mind
มีสำนึกสร้างสรรค์ คิดสิ่งใหม่ๆ ต่างประเทศคิดเรื่อง Creative Mind เป็นเรื่องสำคัญ
P = Productive
คิดถึงผลงาน ผลผลิตเป็นที่ตั้ง ต้องมีข้าวของเป็นของตัวเอง
R = Responsible
ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไป
การศึกษาของไทยไม่เน้นการวิเคราะห์วิจารณ์ เพราะจะทำให้คนรู้ทัน เราไม่ค่อยส่งเสริมด้านการคิด ทรัพยากรมนุษย์ของไทยศึกษาในด้าน CCPR น้อยมาก
กรอบมาตรฐานที่มนุษย์ต้องมี...
K = Knowledge ความรู้
Basic ความรู้ทางวิชาการ ความรู้ทางวิชาชีพ
Advance ทันสมัย
Proactive วิชาการเชิงรุก สร้างความรู้ใหม่ได้ (Producing Knowledge)
Excellence ความรู้เป็นเลิศ มีความเชี่ยวชาญ (Expert)
T = Thinking ความคิด
Basic คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์
Advance คิดทันสมัย สร้างสรรค์
Proactive คิดเชิงวิสัยทัศน์ คิดเชิงยุทธศาสตร์ (ผสมผสานแนวคิดยังอนาคต)
Excellence คิดรวบยอด คิดแบบชัดเจน ตกผลึกทางความคิด (Conceptualization)
S = Skill ทักษะ
Basic ทำงานได้
Advance ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
Proactive คิดใหม่ สร้างงานใหม่ได้
Excellence เกิดความชำนาญในงานนั้นๆ สามารถแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ทะลุปรุโปร่ง
E = Ethic คุณธรรม
Basic จรรยาบรรณในวิชาชีพ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์
Advance เป็นตัวอย่าง เป็นแบบอย่างได้
Proactive ชักจูงให้บุคคลรอบข้างกระทำดีด้วย
Excellence อุทิศตนเพื่อส่วนรวม มีความเสียสละ มีความกล้าหาญทางจริยธรรม
มนุษย์ต้องมีความกล้าหาญทางจริยธรรม ในการดำรงชีวิตและการปกครองหรือการครองตน มีแนวทางและการตัดสินใจที่ชัดเจน ความสำเร็จของการศึกษาอยู่ที่ผู้สอนต้องมี High Expectation สูง เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการพัฒนาและสังคมก้าวหน้าอย่างมากที่สุด ผู้นำของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์คือ ต้องมี High Expectation สูงเช่นเดียวกัน
สมัยรัชกาลที่ 5 การเปลี่ยนแปลงเพื่อคุณภาพชีวิต มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เป็นสังคมในยุคอุตสาหกรรม เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นระบบทุนนิยม
ปี 2475 การเปลี่ยนแปลงเน้นเฉพาะเรื่องของการปกครอง
ปี 2537 เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) เริ่มมีเทคโนโลยีมาใช้จัดการและค้าขาย
หลังจากกรณีเหตุการณ์ตึกเวิร์ลเทรดถล่ม เริ่มมีการขายความคิดกันมากขึ้น เป็นแนวทางการขายความรู้
กระบวนการกลุ่ม (Group Think)
เป็นส่วนช่วยให้ความก้าวหน้าและความรู้เกิดการพัฒนาองค์กร
กระบวนการกลุ่มที่ไม่ดี
- รู้แล้วไม่พูด
- มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ
- ประธานเป็นเผด็จการ
- การโหวตใช้ไม่ได้
- เฮโลสาระพา ตามๆ กัน โดยไม่มีเหตุผล
- พวกมากลากไป
กระบวนการกลุ่มที่ดี
- ร่วมกันให้ความเห็น (Contribute)
- ใช้การวิเคราะห์วิจารณ์
- มีประธานเยี่ยม กระตุ้นให้เกิดการแสดงความคิดเห็น
- ใช้วิธีการเสริมเพิ่มเติมซึ่งกันและกัน
- มีความขัดแย้งกันบ้างแต่ต้องมีเหตุผลในแนวทางเดียวกัน
- ไม่นิ่งเฉยเมื่อตนเองรู้ข้อมูลเพิ่มเติม
- มีการคิดครั้งที่สอง (Second Though)
การเป็นประชาธิปไตย ต้องมี Contribution เป็นไปในทางเดียวกัน หลักคิดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในอดีตความรู้อยู่ที่ตัวผู้สอน หาจากที่อื่นไม่ค่อยได้ กระบวนการในการให้ความรู้ มักจะเป็นการบรรยายเป็นส่วนใหญ่
เมื่อมีเทคโนโลยี มีตำรามากขึ้น ก็มีความรู้จากตำราสู่ผู้เรียน กระบวนการเพิ่มเติม คือ การศึกษาจากรายงานต่างๆ ความรู้อยู่กับสื่อต่างๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์
กระบวนการเรียนการสอนต้องให้ผู้เรียนติดตามการเคลื่อนไหวจากสื่อต่างๆ กระบวนการความรู้อยู่กับ IT ความรู้มีอยู่ในทุกที่ ตัวผู้สอนผู้ฝึกอบรม ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพียงแค่การบรรยายเพียงอย่างเดียว
หากอาจารย์ผู้สอน ไม่มีการให้คะแนนผู้เรียน ก็จะทำให้ผู้สอนไม่มีความหมาย หลักและแนวการคิดเกิดการเปลี่ยนผ่านกระบวนทัศน์เดิม จาก ครูที่เป็นผู้ให้ความรู้ เป็นผู้ที่เอื้อต่อการให้ความรู้ของผู้เรียน
กระบวนการใหม่ในอนาคตครูหรือผู้สอนต้องมีหลัก 7 ประการ...
1. ช่วยให้ผู้เรียนกำหนดจุดมุ่งหมายและหาความรู้
2. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถหาความรู้เป็นหลักสำคัญ การแนะนำวิธีการ
3. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกสรรหรือคัดกรองความรู้ได้ด้วยตัวเอง ในสิ่งที่สนใจ
4. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ขึ้นมาได้ (Conceptualization)
5. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ประเมินและตกผลึกในความรู้นั้นอย่างชัดเจน
6. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องสอน
7. ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักการประเมินการเรียนของตนเองว่าเกิดการรับรู้มากน้อยเพียงใด
ผู้สอนจะเหนื่อยมากขึ้น เพื่อการวางแผนให้ผู้เรียนสามารถที่จะค้นหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ผู้เรียนจะมีความรู้ เกิดปัญญาที่ยั่งยืนยาวนาน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก พ.ร.บ. เน้นกระบวนการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็กมากขึ้น...
แนวทางและแนวคิด เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งการพัฒนาจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ต้องเริ่มมาจากการศึกษาเป็นเบื้องต้น เพราะหากการศึกษาดีด้วยแล้ว โอกาสความก้าวหน้าย่อมมีมากขึ้นตามลำดับ เพราะมนุษย์รู้จักคิด รู้จักประยุกต์ใช้งานจริง....
สวัสดีค่ะ คุณtrainerpatt
กระบวนการใหม่ในอนาคตครูหรือผู้สอนต้องมีหลัก 7 ประการ...
มาเยี่ยม มาอ่านบันทึกดีดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ