หลายคนชอบมองว่าฉันมักจะคิดต่างจากคนอื่นๆ...
แต่ฉันกลับมองว่า เราคิดเหมือนๆกันนะ
เพียงแต่เราอาจจะคิดจากคนละมุมคนละองศากันเท่านั้นเอง
วันนี้ เธอบ่นๆกับฉันเรื่องงาน แล้วก็บอกฉันว่า...
เอาเถอะ..ก็เค้าจ้างเรามาแก้ปัญหา ไม่ได้มาสร้างปัญหานี่นา
ฉันก็ตอบเธอกลับไปว่า สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่คิดว่าเค้าจ้างฉันมานะ...
ฉันเพียงถูกมอบหมายให้มาเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน
เพื่อจะได้นำสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้มา ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนหมู่มาก
เงินเดือนที่ฉันได้รับก็คือค่าใช้จ่ายระหว่างหนทางแห่งการเรียนรู้ของฉัน
องค์กรที่ฉันทำงานอยู่นี้ ก็ยังให้โอกาสกับฉันในการเอาทรัพย์สินของเค้ามาใช้
ให้ฉันได้สร้างได้ทำสิ่งที่ฉันคิดฉันฝันอยากจะทำ โดยไม่ต้องใช้สินทรัพย์ของตัวเอง
ช่างเป็นความวิเศษยิ่งนัก ที่ได้รับโอกาสอันประเสริฐเช่นนี้
ฉันต้องขอบคุณที่เลือกฉันมานั่งทำงานอยู่ ณ ตรงนี้
ฉันไม่ได้ถูกจ้างให้มาทำงานนะ... เราสมัครใจที่จะร่วมกันสร้างสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นตะหาก...
ก่อนหน้านี้เธอกับฉันต่างก็มีเรื่องขัดอกขัดใจกันมาตลอด
วันนี้เธอมาบอกกับฉันว่า ต่อไปเธอจะไม่ทำแบบนั้นแบบนี้กับฉันอีก
ฉันได้แต่บอกเธอไปว่า ถ้าเธอไม่ทำแบบที่เธอเคยทำกับฉัน
เธอก็ไม่ใช่เธออีกแล้วสิ เธอที่เป็นเธอและฉันรู้จัก ต้องดุ ต้องดื้อ ต้องชอบแกล้งฉัน
หน้าที่ของเธอคือเป็นตัวเธอ เธอจะดุ เธอจะดื้อ จะชอบแกล้งฉัน
ก็นี่แหละที่เป็นแบบของเธอ ถ้าไม่ใช่แบบนี้ ก็ไม่ใช่เธอที่ฉันเคยรู้จัก
หน้าที่ของฉันคือตระหนัก และยอมรับในความเป็นเธอ
เมื่อฉันเรียนรู้ในความเป็นเธอ ฉันก็จะรู้ว่าจะต้องปฏิบัติต่อเธออย่างไร
ฉันไม่ได้อยากให้เธอเปลี่ยนในความเป็นเธอ เพราะการเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนมันไม่ง่ายเลย
แต่การเลือกวิธีที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นให้ได้ผลลัพท์เป็นที่พึงพอใจด้วยกัน
ก็แค่เลือกออกมาบางวิธี จากวิธีการปฏิบัติหลายหมื่นพันวิธี
ฉันว่ามันง่ายกว่ากันเยอะเลย...ที่ฉันจะเลือก มากกว่าที่เธอจะต้องเปลี่ยนไป
เหมือนเวลาที่ทำงานด้วยกัน ฉันไม่เคยคิดจะสั่งสอน จะโกรธ จะลงโทษใคร
เพราะฉันเชื่อว่าทุกคนทำในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวของตัวเอง ณ เวลานั้นๆแล้ว
ถ้ามีอะไรที่ไม่เป็นไปตามที่ฉันคาดหวัง งานไม่สำเร็จไปตามเป้าหมาย
ก็เพราะฉันเลือกวิธีที่ไม่เหมาะสมในการทำงานด้วยกันตรงนั้น
ฉันก็แค่เลือกวิธีการทำงานใหม่ อะไรที่เค้าถนัด ฉันก็ควรเปิดโอกาสให้เค้าได้คิดได้ทำ
อะไรที่เค้าไม่ถนัด ก็หาช่องทางอื่นในการทำให้สำเร็จ อาจจะเป็นตัวเรารับมาทำเองบ้าง
หรือถ้ามีโอกาส ก็ให้เค้าได้ลองเรียนรู้ฝึกฝนที่จะทำเพิ่มเติมไปทีละนิดทีละหน่อยบ้าง
ฉันว่ามันทำให้เราทำงานด้วยกันอย่างมีความสุข มากกว่าการมาดุด่าต่อว่าต่อขานกันนะ
แต่ก็ไม่รู้นะ... นี่เป็นแค่วิธีการคิด วิธีการทำงานของฉันเอง ที่ก็ไม่น่าจะแตกต่างอะไรกันไปมากนัก
แค่องศาการมองสิ่งรอบตัว อาจต่างกันสักเล็กๆก็เป็นได้
เมื่อตอนเย็น เธอเล่นเกมส์เสี่ยงดวงเล็กๆ แล้วได้ผลลัพท์มาเป็น โชคดีของเธอวันนี้มีแค่ 32%
เธอบอกฉันว่าโชคดีของเธอ มีไม่ถึงครึ่งเลย
ฉันได้แต่บอกเธอไปว่า เธอมีโชคดีตั้งเกือบ 1 ใน 3 แน่ะ
แล้วนี่ก็เย็นแล้ว เวลาของวันเหลือเพียง 1 ใน 4 หรือแค่ 25%
ถ้าเธอไม่ได้มีโชคดีมากนักตลอดใน 3 ส่วน 4 ของวันที่ผ่านมา
ก็เท่ากับว่าความโชคดีของเธอจะมากองอยู่ที่เวลาที่เหลือของวันนี้หมดเลย
ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมองว่าการได้คุยกับฉันครั้งนี้เป็น 32% ของโชคดีของเธอ
หรือว่าเป็นเจ้า 68% ที่ตรงกันข้ามก็ไม่รู้นะ....
….
คุณพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ได้ถามหลานชายตัวดีว่า
โปรแกรมการเรียนแบบอินเตอร์ ต่างกับโปรแกรมธรรมดาตรงไหน
เจ้าหลายชายตัวดีตอบคุณพ่อไปแบบตรงๆว่า
โปรแกรมอินเตอร์เรียนในห้องแอร์ ส่วนโปรแกรมธรรมดาเรียนในห้องไม่มีแอร์ครับ
อืม...ก็จริงเนอะ.... ก็นั่นคือมุมที่เค้าให้ความสนใจนี่นา
เรียนในห้องแอร์มันก็จะเย็นสบายกว่าเรียนในห้องธรรมดาร้อนๆ
ฉันว่าฉันเองก็คงคิดไม่แตกต่างจากเจ้าหลานชายหรอก
หากว่าฉันกับเค้ามองเรื่องนี้...ที่องศาเดียวกัน
เพราะเราต่างก็มีความคิดต่างๆความคิดที่หลากหลาย...ที่เหมือนๆกัน....
………………………..
หมายเหตุ: เธอที่ถูกกล่าวถึงในที่นี้ ใช้แทนบรรดาน้องสาวหลายๆคนที่ผมมักจะเสวนาด้วย แล้วแต่ว่าใครจะเข้ามาอยู่ตรงองศาไหนของการสนทนานะครับ
สวัสดครับคุณเปียนโนในยามเช้า
ถ้ามนุษย์ทั้งโลกคิดเหมือนกันหมด โลกนี้จะมีเพียงความคิดเดียว การเห็นต่างหรือคิดต่างจะช่วยให้องค์ความรู้ในโลกเกิดการแตกแขนง เกิดเป็นสรรพวิทยามากมาย แต่ข้อพึงระวังคือ การเห็นต่างหรือคิดต่างต้องมีเหตุผลรองรับที่ยอมรับได้ ก็เท่านั้นเองครับ