* จะพยายามครับ ถึงแม้บางคน จะต้องฝืนใจมากๆๆๆ ก็ตามที
ฝืนใจไม่ไหว อย่างน้อยก็จะฝืน กาย ฝืนวาจา ครับ
นมัสการพระคุณเจ้า
กราบนมัสการพระคุณเจ้าธรรมฐิตเจ้าค่ะ
"บางคราครั้งเราอาจลืมนึกไปว่าคนๆนั้น ที่อยู่ตรงหน้าเราๆอาจจะพบกันได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตนี้เท่านั้น หรือนั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน…"
ยอมรับว่าบางคราวครั้งก็ลืมนึกไปจริงๆ เจ้าค่ะ พอเค้าทำสิ่งใดไม่เหมาะเรา เราก็คอยแต่จะเพ่งโทษเค้าแทนที่จะน้อมเข้ามาพิจารณาตนเองเพียงอย่างเดียว...ทำให้ใจไม่ผ่องใส เกิดความขุ่นมัว...
ดาวคงจะต้องเพียรพยายามคอยขัดเกลาใจตัวเองให้คิดในแง่บวก เลือกมองด้านที่ดีและหากจะบอกกล่าวตักเตือนสิ่งใดก็ต้องประกอบด้วยเมตตาจิตเป็นหลัก แต่ทว่าบางครั้งการบังคับใจให้รู้เท่าทันความคิดก็ทำได้ยากจริงๆ เจ้าค่ะ การบังคับกายและวาจาทำใด้ง่ายกว่ากันเยอะเลย ยังต้องฝึกฝนอีกแยะ
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
นมัสการพระคุณเจ้า
นมัสการค่ะ ท่านธรรมฐิต
"ในชีวิตนี้มีโอกาสได้พบหน้ากันแล้วกับใครคนใดคนหนึ่งก็ตามที
..อย่าพลั้งเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร..หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่ควร..
เพราะนั่นอาจเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายกับใครคนหนึ่งนั้น.."
เตือนทั้งตนเองและเตือนทั้งศิษย์...ในการพูดดี คิดดี และทำดีต่อคนที่อยู่รอบตัวเราค่ะ
ดาวจะลองฝึกใจโดยไม่บังคับ....
จะลองทำเหมือนฝึกคนสักคน เฝ้าดู เรียนรู้ เพื่อจะได้เข้าใจเค้ามากยิ่งขึ้น (แต่ขอตักเตือนเค้าบางเวลานะเจ้าคะ อิอิ)
กราบขอบพระคุณท่านธรรมฐิตสำหรับข้อชี้แนะเจ้าค่ะ
นมัสการพระน้องเจ้าค่ะ สบายดีนะคะ
รับธรรมะดีๆ ยามเช้า สาธุค่ะ
นมัสการพระคุณเจ้า
ขอเรียนถามว่าถ้าหากอีกคนเป็นคนที่ชอบมองโลกในแง่ร้าย
จะมีวิธีการพูดเพื่อปรับทัศนคติของเขาได้อย่างไรเจ้าค่ะ
น่าจะพามาพบธรรมฐิตเนาะคุณโยม..
ขั้นแรกคุณโยมต้องพูดให้เขาเห็นในแง่ดีในสิ่งนั้นๆให้ได้
เมื่อเขาเห็นว่าไม่ร้ายคุณโยมก็ต้องหาเหตุผลที่เป็นรูปธรรมมาให้เขาเห็นให้ได้
โดนเอาสิ่งรอบตัวเขานั้นแหละ
หรือยกตัวอย่างในตัวคุณโยมก็ได้
ธรรมฐิตว่าสักวันเขาคงเห็นน้ำใสในน้ำขุ่นได้แน่เนาะคุณโยม
สาธุๆๆเนาะ
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
จะทำอย่างเต็มความสามารถเจ้าค่ะ
ดิฉันอยากเห็นเค้ามีจิตใจที่สดใส
อยากให้เค้ามีความสุขใจเจ้าค่ะ
สาธุ