คนเราทุกวันนี้มองเห็นกันได้อย่างชัดเจนคือรูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่ส่วนลึกภายในจิตใจและความคิดนั้นยากแท้หยั่งถึง ต่อหน้าเราก็บอกว่าเราดีอย่างนั้นดีอย่างนี้แต่พอลับหลังเรา เผาเราจนดำเป็นจุนเชียวน่ะ คนประเภทนี้เราควรจะเรียกว่า...อะไรดี
เราก็คิดนะว่าเราสนิทสนมกันดีออก แต่มีอะไรทำ มะ...ไม ไม่บอกกะเรา (ดัน)ไปบอกกับคนอื่นเสีย นี่.. สำหรับเราแล้ว มอบให้เขาเกินร้อยทุกอย่าง คอยปกป้อง ช่วยเหลือ แก้ต่าง ให้เขาหมดทุกเรื่อง ต่อนี้ไปเราก็คงจะอยู่ระหว่างทางสายกลาง คือ ไม่มากเกินไป และ ไม่น้อยเกินไปสำหรับเขาคนนั้น(เพื่อนร่วมงาน)นะค่ะ
วันก่อนเราได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมสัมมนาเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง
( ID PLAN )เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับโครงการ SP2 ผู้บริหารจึงได้ให้คณะครูได้เตรียมตัวในการวางแผนว่าแต่ละคนมีความต้องการที่จะพัฒนาตนเองอะไรบ้าง โดยมีศึกษานิเทศนก์เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์มาให้ความรู้จนเกิดความเข้าใจในการวางแผนที่จะพัฒนาตนเองอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้เรียน หน่วยงาน ตนเอง และชุมชน นี่แหละคือที่มาของคำว่า...รู้หน้าไม่รู้ใจ....ค่า....
ได้ระบายความในใจให้ใครต่อใครได้รับรู้บ้างก็รู้สึกดีขึ้นมาทีเดียว ก็นั่นแหละนะ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ถ้าไม่โกรธ ไม่โมโห ก็ไม่โง่และไม่บ้า ฮ่า..ฮ่า..
สมองเสื่อม : วิธีรักษาแบบธรรมชาติ
หลักการบริหารสมอง
การบริหารสมองเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อของแขนงประสาทให้เพิ่มมากขึ้น มีหลักการง่าย ๆ คือ ให้ทำสิ่งที่คุณไม่เคยทำมาก่อน ไม่เคยทำอะไรให้ทำอย่างนั้น เช่น ทุกวันนี้คุณเคยเดินไปข้างหน้า ก็หัดเดินถอยหลัง เท่านี้ก็เป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเซลล์สมองก็จำเป็นต้องเชื่อมต่อเครื่อข่ายของระบบประสาทใหม่จึงจะทำเช่นนั้นได้ นั้นเท่ากับว่าแขนงประสาทจะเพิ่มมากขึ้น
ถ้าคุณเป็นคนทำงานในสำนักงาน ครู ซึ่งมีชีวิตค่อนข้างเรียบง่าย จำเจ ก็ลองหาอะไรที่น่าตื่นเต้นทำ เช่น เต้นรำ ดำนำ ตีเทนนิส เล่นเกมคอมพิวเตอร์ อะไรก็ได้ที่เพิ่มความเร็วให้กับชีวิต
อะไรก็ได้ที่เป็นสิ่งตรงกันข้ามกับที่เคยทำมาทั้งชีวิต แน่นอนในตอนแรกอะไรที่คุณไม่เคยทำจะยาก แต่เมื่อทำไปสม่ำเสมอ อะไรๆก็จะง่ายขึ้น ทำได้คล่องขึ้น นั่นแปลว่าเซลล์สมองของคุณมีการเชื่อมต่อของแขนงประสาทใหม่ และเริ่มใช้งานได้แล้ว เมื่อเป็นดังนี้ หากเซลล์สมองบางเซลล์เสียไปก็จะมีเซลล์สมองอื่นขึ้นมาทำงานแทนเพราะมีการเชื่อมต่อกันไว้แล้ว