ทางเข้าค่ายบางกุ้ง
จากโฮมสเตย์ที่พักประมาณยี่สิบนาที ลัดเลาะตามถนนเล็กๆขนาดรถยนต์สวนกันได้สองคันของอำเภอบางคนที เราก็มาถึง ค่ายบางกุ้ง ค่ายทหารโบราณสมัยพระเจ้าเอกทัศน์และถูกบูรณะอีกครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อใช้เป็นที่มั่นสำหรับเข้าตีทัพพม่า โดยให้ชาวจีนมารักษาค่ายเอาไว้ จึงเรียกอีกชื่อว่า ค่ายจีนบางกุ้ง
พระพุทธนิลมณี หรือ หลวงพ่อดำ
จิตรกรรมฝาผนังที่เลือนลางบนผนังโบส์ถ
วัดบางกุ้ง วัดโบราณสมัยอยุธยาตั้งอยู่ภายในค่ายบางกุ้ง มีโบส์ถอันวิจิตรด้วยประติมากรรมทางธรรมชาติ ต้นไม้สามชนิด ต้นไทร ต้นไกร ต้นกร่าง ขึ้นแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมหลังคาโบส์ถ รากไม้เลื้อยเลาะเกาะข้างผนัง ดูแล้ววิจิตร มีเสน่ห์ยิ่งนัก เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ดึงดูดผู้คนทั้งหลาย เข้ามาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ ภายในโบส์ถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัตติ ซึ่งดูเลือนลางตามกาลเวลาและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย(มา-ระ-วิ-ชัย) อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน พระพุทธนิลมณี หรือ หลวงพ่อดำ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบวัดที่มีบรรยากาศร่มรื่นของธรรมชาติป่าไม้ แม้ว่าธรรมะของพระพุทธองค์จะดูยังห่างไกล แต่แค่ได้นั่งสงบ ฟังเสียงลมหายใจตนเอง ท่ามกลางธรรมชาติที่แวดล้อม ก็สามารถชำระความวุ่นวายทั้งหลายที่เกาะกินอารมณ์ได้ดีทีเดียว
ปัจจุบัน วัดวาอารามหลายแห่งแข่งกันสร้าง วิหารอันอลังการ พระพุทธรูปขนาดใหญ่มหึมา บางครั้งก็เลยเถิดถึงขั้นสร้างเทวรูปนอกศาสนาก็มี เพื่อเรียกศรัทธามหาชนให้เข้าวัดทำบุญ ทั้งที่ธรรมะคือธรรมชาติ การก่อสร้างหรือปรับภูมิทัศน์ใดๆ ก็ควรจะเป็นไปในลักษณะของธรรมชาติให้มากที่สุด ดังที่เคยเห็นวิหารธรรมชาติในวัดหลายแห่งที่ปฎิเสธการก่อสร้างถาวรวัตถุ มิฉะนั้นแล้ว คุณค่าของศาสนสถานอันเป็นสถานที่กล่อมเกลาจิตใจให้ปราศจากเครื่องเศร้าหมอง จะต่างอะไรกับสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
ผมนั่งสำรวมสติและจิตใจต่อหน้าองค์หลวงพ่อดำ เสียงเขย่าเซียมซีดัง ก๊อก แก๊ก อยู่เบื้องหน้า เสียงชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปลั่นอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าเหตุผลอันใดที่ทำให้ศาสนิกชนเหล่านี้ มานั่งคุกเข่า พับเพียบลงตรงหน้าหลวงพ่อดำก็ตาม จะในฐานะของตัวแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในฐานะหมอยาเพื่อให้หายจากโรค ในฐานะของโหราจารย์ช่วยบอกอนาคต ในฐานะเทพเจ้าที่สามารถดลบันดาลโชคลาภ หรือ แค่ศิลปวัตถุโบราณสมัยอยุธยา
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือ เพียงแค่สิบวินาทีที่ก้มลงกราบพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นช่วงสิบวินาทีทอง ที่ใจปราศจาก โลภ โกรธ หลง เป็นช่วงสิบวินาทีทอง ที่ไม่อาจหาได้ในสังคมโลกอันแสนซับซ้อนภายนอก
สิบวินาทีทอง ที่ไม่อาจหาได้ในสังคมโลกอันแสนซับซ้อนภายนอก
พระพุทธองค์ทรงประสูติใต้ต้นไม้ ตรัสรู้ใต้ต้นไม้ ปฐมเทศนาใต้ต้นไม้ เสร็จดับขันธ์ปรินิพพานก็ใต้ต้นไม้ แล้วจะแปลกอะไร เมื่อวันนึงต้นไม้ที่วัดบางกุ้งแห่งนี้ จะกลายมาเป็นประชาสัมพันธ์ให้ศาสนิกชนกลับมาเข้าวัด เพื่อพระองค์
รูปปั้นท่าแม่ไม้ ลูกไม้มวยไทยในวัด
มาสัมผัสเมื่อรากไม้แสดงธรรมเป็นจริงสมคำอ้าง
งดงามจริงๆทั้งภาพเรื่องราวและการนำเสนอที่ลงตัว
สวัสดีคะ
มาศึกษาการใช้ใจมองธรรมและธรรมชาติคะ
นำเที่ยวทางสื่อได้ดีมากนะคะ..คงได้ไปเยี่ยมชมบ้าง..ตามมาดูครอบครัวที่น่ารักด้วยค่ะ..ลูกสาวคนนี้นะคะที่คุณพ่อจะซื้อหนังสือ พพ.๘๒๙ ไว้ให้อ่าน..
สวัสดีค่ะ
ครูต้อยเคยแวะไปกราบหลวงพ่อดำรวมได้ สองครั้งแล้วค่ะ
ที่นี่สงบ และมีเสียงจากภายในบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมา
เป็นข้อคิดเตือนสติ ให้ไม่หลงผิด
หลงในสิ่งปรุงแต่งขึ้นมานอกเหนือจากธรรมชาติ
ขอบคุณค่ะที่นำสิ่งดีงามมาแบ่งปันให้ระลึกถึง
ธรรมะ ธรรมชาติและรากไม้
เสมือนเตือนให้นึกถึงรากกำเหนิด ดิน น้ำ ลม ไฟ
สวัสดีครับ
บรรยากาศสงบน่าเรียนรู้แบบนี้ เห็นทีต้องพาลูกเมียเยี่ยมที่นี่บ้างซะแล้ว