ก้าวย่างของสถาบันภาษา มจร: จากความเหน็ดเหนื่อยสู่ความฝันอันบรรจบ

     

 

ก้าวแรกที่แสนยากลำบาก

          ในคราวประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๑๑ /๒๕๕๐วันศุกร์ที่  ๑๔  ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ณ  ห้องประชุม๒๐๕ อาคารมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญฺโญ กรรมการและเลขานุการสภาวิชาการ เสนอว่า กองวิชาการ สำนักงานอธิการบดี ได้มีหนังสือที่ ศธ ๖๑๐๐.๒/๙๒๐  ลงวันที่ ๖ ธันวาคม  พ.ศ.๒๕๕๐ เสนอขออนุมัติโครงการตั้งศูนย์ภาษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (MCU-LC)  จึงเสนอสภาวิชาการเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ซึ่งที่ประชุมในครั้งนั้นพิจารณาแล้ว มีมติให้เลื่อนการพิจารณาออกไปเนื่องจากขาดข้อมูลที่สำคัญบางประการที่จะต้องให้คณะกรรมการสภาวิชาการพิจารณาอนุมัติ

 

ก้าวที่สองยังคงมืดมิด

          ต่อมาในคราวประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๒ เมื่อวันพฤหัสบดีที่  ๑๙   มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ณ  ห้องประชุมชั้น ๔ สำนักงานอธิการบดี  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ. วังน้อย  จ. พระนครศรีอยุธยา    พระศรีคัมภีรญาณ กรรมการและเลขานุการสภาวิชาการ  เสนอว่า  กองวิชาการได้มีหนังสือ ที่ ศธ ๖๑๐๐.๒/๒๑๐ ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๒ เพื่อเสนอโครงการจัดตั้งสถาบันภาษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณา ในครั้งนั้นที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมตินำโครงการดังกล่าวไปพิจารณาและปรับปรุงโครงการให้มีความกระชับและรัดกุมมากยิ่งขึ้น

ก้าวที่สาม แสงสว่างเริ่มเรืองรอง

ต่อมาในคราวประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๒ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่  ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ณ  ห้องประชุมชั้น ๔ สำนักงานอธิการบดี  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอ. วังน้อย  จ. พระนครศรีอยุธยาพระศรีคัมภีรญาณ  กรรมการและเลขานุการสภาวิชาการ เสนอว่า กองวิชาการ ได้มีหนังสือ ที่ ศธ ๖๑๐๐.๒/๔๔๘  ลงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒ เพื่อเสนอโครงการสอนภาษา (MCU-LI) นั้น ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติให้นำเสนอสภาวิชาการอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้น สภาวิชาการได้ให้ข้อสังเกตว่า คณะทำงานได้ดำเนินการมาในทิศทางที่สอดรับกับความต้องการของมหาวิทยาลัยชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ก้าวที่สี่ ดวงอาทิตย์ทอแสง

          ต่อมาในคราวประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๗/๒๕๕๒วันพฤหัสบดีที่  ๑๕  ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ณ  ห้องประชุมชั้น ๔  สำนักงานอธิการบดี  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  พระศรีคัมภีรญาณ กรรมการและเลขานุการสภาวิชาการ เสนอว่า กองวิชาการ ได้มีหนังสือที่ ศธ ๖๑๐๐.๒/๘๙๕  ลงวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ เรื่อง ขออนุมัติใช้ชื่อศูนย์ภาษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อให้โครงการใช้ชื่อศูนย์ภาษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

         เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีนโยบายให้โครงการสอนภาษาเป็นโครงการเบื้องต้นในการก่อตั้งวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ และเพื่อความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย   เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามความในมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.๒๕๔๐   ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติ เห็นชอบให้โครงการสอนภาษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยใช้ชื่อเป็นการภายในดังนี้

๑)      ชื่อภาษาไทย : สถาบันภาษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

๒)     ชื่อย่อภาษาไทย : สถาบันภาษา มจร

๓)      ชื่อภาษาอังกฤษ : The Language Institute of
                                  Mahachulalongkornrajavidyalaya University

๔)      ชื่อย่อภาษาอังกฤษ : LIMCU

ก้าวที่ห้าออกจาริก

         เริ่มเปิดเรียนอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันพุธที่ ๑๑  เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๒  

 

ก้าวที่ยังต้องก้าวต่อไปอย่างมั่นคง

          คณะกรรมการบริหารสถาบันภาษา มจร ได้จัดให้มีการเปิดสถาบันภาษา มจร อย่างเป็นทางการ พร้อมกับการจัดตั้งกองทุนสถาบันภาษาในชื่อกองทุนที่ว่า  “มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กองทุนสถาบันภาษา” โดยนายแพทย์รัศมี – ดร.คุณหญิงสมปอง วรรณิสสรได้สนับสนุนกองทุน “เริ่มแรก” จำนวน ๑,๓๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านสามแสนบาทถ้วน)

ความฝันอันบรรจบ

        วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ จะเป็นวันที่พวกเราชาวมจร รอคอย เพราะเป็น "วันเปิดสถาบันภาษามหาจุฬาอย่างเป็นทางการ"   ข้อสังเกตก็คือ "การดำเนินการเปิดสถาบันภาษานับว่ายากยิ่งแล้ว แต่สิ่งที่จะยากยิ่งไปกว่านี้คือ การรักษาให้แหล่งเรียนรู้แห่งนี้ "เป็นสถาบันอย่างแท้จริง" เพื่อเป็นแหล่งรองรับ และเติมเต็มความฝันและแรงบันดาลใจของใครสักคนที่เห็นคุณค่าของ "ภาษา" และปรารถนาจะใช้ภาษาเป็น "กุญแจที่จะไขไปสู่ความสำเร็จ" ดัง Motto ของสถาบันภาษาของเราที่ว่า "ภาษาเปลี่ยนชีวิตของเราได้" (Languages Change Lives).