ความกลัว!!! (Fearfulness!!!)


          มีหลายงานหลายแนวคิดใหม่ๆ ที่ถูกปฏิเสธ!!! ด้วยความต้องการให้มีความแตกต่างจากเดิม หรือการแหกคอกทฤษฎีเดิมๆ ที่เคยสืบทอดต่อๆ กันมา

           ใครก็ตามที่พยายามแหกกฎ แหกคอก จะกลายเป็นผู้ผิด เพราะฝ่าฝืนหรือดื้อแพ่ง ถูกประณาม ดูถูก เหยียดหยาม จากคนหัวเก่า!!!

           ผู้ที่ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้ที่ยังยึดติดว่า สิ่งที่รู้มาแล้ว รู้ดีที่สุด ไม่มีใครจะรู้ดีเท่าฉันแล้ว ประเภทว่า

           “ผิดจากนี้...ไม่ใช่เรา”

           และจะสนับสนุนก็แต่เพียงทฤษฎีนั้น สอดคล้องกับสิ่งที่ตนเข้าใจดี เพื่อเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่รู้แล้วให้ฝังแน่นเข้าไปอีก เปรียบเสมือนกบในกะลา ไม่ยอมออกจากกะลา แต่กลับยิ่งขวนขวายหาสิ่งที่ทำให้กะลานั้น...เหลือที่น้อยลง หรือหนาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจะได้หายใจได้ยากขึ้น

           สาเหตุที่ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆ นั่นคือ กลัวการเปลี่ยนแปลง!!!

           สาเหตุที่กลัวการเปลี่ยนแปลงจึงตอกย้ำความเขลาขึ้นเรื่อยๆ นั้นมาจาก ความขี้เกียจ ความเสียหน้า เดี๋ยวคนดูถูก หาว่าโง่ จึงต้องตอบหรือแสดงให้ผู้อื่นรู้ก่อนว่า

           “ฉันไม่ได้โง่...พูดอะไรฉันรู้เรื่องหมด”

           แต่แท้จริงนั่นล่ะครับ เป็นความโง่แบบสุดๆ หรือ อภิมหาอมตะนิรันดร์กาลโง่ และความโง่นี่เอง ที่เป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าขององค์กร หากองค์กรมีบุคลากรประเภทนี้อยู่มากๆ รับรองว่าพัฒนาช้าเป็นเต่า หากต้องการให้เกิดการพัฒนาที่แปลกและแตกต่าง ก้าวทันธุรกิจและกระแสโลก ต้องรู้จักการเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะทำอะไรนอกเหนือขอบเขตหรือให้มันหลุดโลก แต่ต้องไม่เดือดร้อนใคร!!! ต้องหลุดออกจากกรอบเดิมๆ โดยวิธีดังนี้

1. กล้าคิดค้น

          ไม่ต้องกลัวว่า ความคิดของเราจะไม่เหมือนชาวบ้าน ก็เพราะความไม่เหมือนชาวบ้านนี่แหละ ที่ทำให้โด่งดังมานักต่อนัก บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคน ก็โด่งดังจากการกล้าคิดค้น กล้าคิดอะไรใหม่ๆ ไม่กลัวต่อข้อครหา!!! รักที่จะก้าวหน้า...ต้องกล้าคิดค้นสิ่งใหม่ๆ มาให้โลก เช่น กาลิเลโอ, สองพี่น้องตระกูลไรท์, เฮนรี่ ฟอร์ด, โทมัส อัลวา เอดิสัน เป็นต้น

2. กล้าตัดสินใจ

          อย่าลังเล อย่ากังวล อยากจะทำอะไรก็ “ฟังธง” ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง อย่าใส่ใจกับเสียงคัดค้าน ทักท้วง เพราะความกลัวจะหดหายเมื่อมาเจอกับการตัดสินใจ การตัดสินใจที่ดี จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จในที่สุด

3. กล้าท้าทาย

          ยิ่งทำอะไรแปลกๆ ความกลัวก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกล้าเสี่ยง กล้าท้าทาย นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมาก กล้าท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะหากไม่กล้า ไม่ลงมือทำอะไรเลย ก็มีทางเลือกเดียวคือ ไม่ประสบความสำเร็จ หากมีความกล้า ทางเลือกจะเพิ่มเป็นสองทาง คือ สำเร็จกับไม่สำเร็จ และส่วนมากจะสำเร็จกันแทบทั้งนั้น ท้าทายกับสิ่งใหม่ๆ ชีวิตจะตื่นเต้น มีสีสัน

4. กล้าเผชิญหน้า

          เมื่อกล้าลงมือทำแล้ว ต้องกล้าที่จะเผชิญหน้า ต่ออุปสรรคที่อาจจะตามมาในอนาคต และอุปสรรคนี่แหละครับ จะเป็นสิ่งที่กำหนดความสำเร็จในสิ่งที่เรากำลังตั้งใจทำ อย่าหลบหนี...หลบหลีก...แต่ต้องชนกับการเผชิญหน้า คิดคนเดียวไม่ออก ก็ให้เพื่อนหรือคนใกล้ชิดช่วยคิด คนที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรค ก็เท่ากับว่าล้มเหลวไปครึ่งทางแล้ว...

5. กล้าตอบคำถาม

          สิ่งที่เรากำลังจะทำ เมื่อความกลัวหดหายลง อุปสรรคที่ตามมา คือ ความงุนงงสงสัยของคนอื่นๆ ที่ต้องการแสดงความอวดรู้หรืการลองภูมิเราเราต้องรู้จักและเข้าใจเนื้องานอย่างเชี่ยวชาญ เพราะเราเป็นผู้คิดค้นมา และต้องรู้จักการตอบคำถาม ต้องเรียนรู้ทางหนีทีไล่ในการสร้างความน่าเชื่อถือ ต้อง “ฟันธง” ชัดเจน ว่าสิ่งที่เราทำนี้ ให้ประโยชน์อะไรได้บ้าง???

 

          5 ข้อ สั้นๆ ง่ายๆ หากก้าวข้ามทุกข้อได้แล้ว...ความแข็งแกร่งของความคิดจะเพิ่มขึ้น...ความกลัวจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ปัญญาจะเกิด...ความคิดจะลื่นไหล...และกลายเป็นนวัตกร (Innovator) เพื่อผลิตนวัตกรรม (Innovation) ต่อไป โลกใบนี้ต้องการผู้ที่ไม่หวาดเกรงต่อความกลัวครับ

หมายเลขบันทึก: 328648เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2010 02:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:01 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท