ประสบการณ์วิชาปฏิบัติการทันตกรรมป้องกัน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปีการศึกษา 2552


เนื้อหาประกอบไปด้วยการบรรยายและการฝึกปฏิบัติเพื่อเข้าใจแนวคิดสุขภาพองค์รวม โดยเน้นการวินิจฉัยแบบองค์รวม (holistic medicine) และการให้การป้องกันโรคของช่องปากแบบองค์รวม

ไฟล์ตารางสอนวิชาปฏิบัติการทันตกรรมป้องกัน

ไฟล์นำเสนอ "สุขภาพองค์รวมกับงานทันตกรรม"

วิชาปฏิบัติการทันตกรรมป้องกัน เป็นวิชาของนักศึกษาทันตแพทย์ชั้นปีที่สาม  ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมทักษะที่จำเป็นต่อการที่นักศึกษาจะนำไปใช้วางแผนงานทันตกรรมป้องกันให้กับผู้ป่วยในคลินิกต่อไป

เดิมที วิชาดังกล่าวเน้นการเก็บข้อมูลและการตรวจหาความเสี่ยงต่อโรคฟันผุ  โดยใช้ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการเป็นหลัก  โดยมีคณาจารย์จากภาควิชาชีววิทยาช่องปากเป็นผู้รับผิดชอบวิชา

ต่อมา พวกเราเห็นว่าทันตกรรมป้องกันควรครอบคลุมเนื้อหาที่มากไปกว่าการป้องกันฟันผุ  และการวิเคราะห์ผลจากห้องปฏิบัติการ  จึงมีการปรับปรุงแนวทางการจัดการเรียนการสอนมาอย่างต่อเนื่อง  จนถึงปัจจุบัน วิชาปฏิบัติการทันตกรรมป้องกันของคณะทันตแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีคณาจารย์ผู้สอนจากเกือบทุกภาควิชา  เนื้อหาประกอบไปด้วยการบรรยายและการฝึกปฏิบัติเพื่อเข้าใจแนวคิดสุขภาพองค์รวม โดยเน้นการวินิจฉัยแบบองค์รวม (holistic medicine) และการให้การป้องกันโรคของช่องปากแบบองค์รวม  มีการฝึกทักษะการสื่อสารกับผู้ป่วย  การวางแผนทันตกรรมป้องกัน  การจัดทำและเลือกสื่อที่เหมาะสมที่จะใช้กับผู้ป่วย  ที่สำคัญคือการให้ความรู้เกี่ยวกับทันตกรรมป้องกันของโรคฟันผุ  โรคเหงือกอักเสบ  โรคระบบบดเคี้ยว รวมถึงรอยโรคในช่องปากอื่นๆ  และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำความรู้ไปทดลองใช้กับผู้ป่วยจำลอง  โดยในชม. สุดท้ายของการเรียนวิชานี้  นักศึกษาจะได้มีโอกาสนำเสนอนวัตกรรมทันตกรรมป้องกันที่กลุ่มของตนคิดขึ้น ในรูปแบบ table clinic

หมายเลขบันทึก: 328609เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2010 22:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 00:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
นักศึกษากลุ่มที่หนึ่ง

"บันทึกกิจกรรมในชั้นเรียน" วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2552 เวลา 9.00 - 12.00 น.

1.นั่งฟังบรรยายและชมวีดิทัศน์ “คลินิกในฝัน”

- เป็นแนวคิดที่น่าทึ่งมาก ไม่คิดว่าจะสามารถทำได้จริง "ความร่วมมือ" จากบุคคลในสังคมเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ คลินิกในฝันจึงกลายมาเป็นความจริงและทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนมากมาย สามารถดัดแปลงเอาคลินิกมาเป็นศูนย์ความรู้ขนาดย่อมและพร้อมไขข้อสงสัย ทางทันตกรรมได้ทุกเมื่อ มีการทำงานทันตกรรมป้องกันได้พร้อมมูลมาก หวังว่าสักวันจะเกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศไทย

- มีรูปแบบการรักษาที่ดีและน่าสนใจ คือ ให้ครอบครัวได้มีส่วนร่วม เพราะครอบครัวถือเป็นก้าวแรกและรากฐานสำคัญของสังคม ในการปลูกฝังทัศนคติที่ดีและพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก

- การให้ชุมชนได้มีส่วนร่วม ทำให้เขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปากมากขึ้น จากที่ถูกมองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐหรือหมอ เพียงฝ่ายเดียว

- การย้อม plaque ส่องกล้อง แล้วฉายบนจอทีวีให้ได้ดูพร้อมๆกัน ทำให้เห็นของจริงไม่ใช่แค่คำพูดหรือวิชาการความรู้ลอยๆ ทำให้รู้สึกสนใจที่จะแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากอย่างจริงจัง

2. ฟังบรรยายแนวคิดสุขภาพองค์รวม

- มี concept ที่น่าจดจำ คือ "การไม่ทำให้เค้าเป็นโรคในช่องปากอีก ไม่ใชแก้ไขแต่ในช่องปาก ต้องใช้บูรณาการมิติด้านอื่นด้วย เช่น ร่างกาย จิตใจ สังคม"

3. เล่าประสบการณ์ที่ประทับใจ

- เล่าเรื่องในชีวิตที่เกี่ยวข้องกับทันตกรรมแบบองค์รวม จากเพื่อนที่ไม่ค่อยได้คุยกันก็ทำให้คุยกันมากยิ่งขึ้น ได้เรียนรู้ในการทำงาน ร่วมกันและลักษณะนิสัยใจคอ ได้นึกถึง "ความทรงจำ"ที่ผ่านมา บางครั้งอาจเลือนไปตามกาลเวลา แต่อาจารย์ก็พยายามกระตุ้นเตือนจนได้เรื่อง (มา 1 เรื่อง) และเตรียมนำเสนอหน้าชั้นเรียน ชอบให้อาจารย์จัดกิจกรรมร่วมกัน รู้สึกว่าเวลาผ่านเร็วดีจัง ทั้งยังได้เรียนรู้ ความคิดของเพื่อนที่นี่ ที่ไม่ว่ายังไงก็ยังดูเป็นเพื่อนใหม่อยู่เสมอ อยากทำความรู้จักกับเพื่อนให้มากขึ้นค่ะ และอยากเรียนรู้ที่จะเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่คิดได้ คิดเป็น คิดดี อย่างเช่นอาจารย์

นักศึกษากลุ่มที่สอง

"บันทึกกิจกรรมในชั้นเรียน" วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2552

เรื่องการป้องกันโรคฟันผุและโรคเหงือกด้วยมาตรการควบคุมคราบจุลินทรีย์โดยทางกลและทางเคมี

"นักศึกษาเคารพ" เสียงดังจากหัวหน้าชั้นปีตะโกนขึ้นเป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้นการเรียนในชั่วโมงนี้ .............. เมื่อการเรียนเริ่มขึ้น พวกเราได้รู้ข้อดีข้อเสียของวิธีการแปรงฟันในแต่ละวิธี ยาสีฟันและนำยาบ้วนปากชนิดต่างๆ แล้วจะได้รู้ถึงความเหมาะสมของการนำไปใช้ในผู้ป่วยแต่ละบุคคล ทั้งยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเราได้ ในระหว่างการเรียนนั้นพวกเราก็ได้ทราบว่า จากการแปรงฟันที่พวกเราคิดว่ามีเพียงวิธีเดียว แท้จริงนั้นไซร้มีอีกหลายวิธีที่พวกเรายังไม่รู้จัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตามแต่ชนิดของคนไข้ด้วย ทั้งยังสามารถแนะนำวิธีการแปรงฟันให้กับคนในครอบครัวเราพร้อมทั้งเมื่อมีคนมาถามเราก็สามารถที่จะบอกถึงวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องแก่บุคคลนั้นได้

เมื่อถึงตอนวิเคราะห์การควบคุมคราบจุลินทรีย์พวกเราก็เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากและอธิบายวิธีการใช้ให้เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละประเภท พวกเราก็คิดกันใหญ่ในกลุ่มว่าควรจะใช้อะไรบ้าง สุดท้ายเราก็ได้คำตอบที่ดีที่สุด จากนั้นอาจารย์ก็สรุปให้ฟังอีกรอบทำให้เราเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น

จากนักศึกษาทันตแพทย์ที่มีความรู้อันน้อยนิดเกี่ยวกับการควบคุมคราบจุลินทรีย์ พวกเราก็ได้มีความรู้ที่ทำให้สามารถนำไปเผยแพร่ให้กับประชาชนทั่วไปได้ "นักศึกษาเคารพ"

" ขอบคุณครับ" เสียงดังพร้อมกันเป็นเวลาแห่งการสิ้นสุดการเรียน..........................

นักศึกษากลุ่มที่สาม

บันทึกกิจกรรมในชั้นเรียน

หัวข้อ "การฝึกปฏิบัติย้อมสีคราบจุลินทรีย์"

ในชั่วโมงนี้จะจับคู่กันแล้วสลับกันย้อม plaque ของเพื่อน เพื่อที่จะประเมินถึงวิธีการทำความสะอาดช่องปาก โดยวิธีการต่างๆ ที่แต่ละคนได้ปฏิบัติมา เช่น เทคนิคการแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟัน เป็นต้น ว่าเราใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม และเพียงพอหรือไม่ในการที่จะป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่องปากตามมืโดยเราจะดูจากด้านต่างๆ บนตัวฟันที่ย้อมติดสี basic fushin

ในตอนแรกเราจะเริ่มย้อม plaque ก่อนที่เพื่อนจะแปรงฟัน และนับจำนวนด้านที่ติดสี จากนั้นก็ให้เพื่อนไปแปรงฟันตามวิธีของตนเอง ที่ได้ปฏิบัติเป็นประจำ โดยที่ไม่ต้องส่องกระจก เมื่อแปรงฟันเสร็จแล้วก็จะมาย้อม plaque เพื่อนอีกครั้ง พร้อมกับนับจำนวนด้านต่างๆของฟันที่ยังติดสีอยู่ ถ้าหากพบว่าฟันมีการติดสีเป็นจำนวนมากก็ควรจะเน้นย้ำให้เพื่อนทำความสะอาดในบริเวณที่ติดสีดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และอาจจะแนะนำวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องให้กับเพื่อนตามที่ได้เรียนมาในแต่ละกรณี เช่น ถ้าเพื่อนจัดฟันก็จะแนะนำให้ใช้วิธีแปรงฟันแบบ Modified bass technique ร่วมกับ Charter technique

นอกจากนี้ยังได้มีการทดลองใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของ Chlorhexidine และ Fluoride เพื่อลองเปรียบเทียบกันทั้ง 2 แบบ ว่ารสชาติแตกต่างกันอย่างไร เราควรจะเลือกใช้แบบไหน และแต่ละชนิดมีวิธีการใช้ต่างกันอย่างไร

เมื่อได้จำนวนของฟันที่ติดสีทั้งจากกรณีก่อนแปรงฟัน และหลังแปรงฟัน ก็จะนำข้อมูลที่ได้มาคำนวณหาค่า Plaque Index (PI) จากสูตร เพื่อนำค่าที่ได้ไปประเมินความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่อไป

ร้อยละด้านที่มีแผ่นคราบจุลินทรีย์ = (ผลรวมของด้านที่มีแผ่นคราบจุลินทรีย์/ผลรวมของด้านทั้งหมดที่ตรวจ) × 100

สรุปสิ่งที่ได้จากกิจกรรม

1.ทำให้เรารู้ข้อบกพร่องของตนเองในการทำความสะอาดช่องปาก

2.ทำให้รู้ถึงวิธีการรักษาดูแล และควบคุมสภาวะในช่องปาก

3.ทำให้รู้ถึงวิธีการที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับคนไข้จริง

4.ทำให้รู้ถึงวิธีการคำนวณค่า PI

5.ทำให้รู้ถึงความแตกต่างของน้ำยาบ้วนปากแต่ละชนิด

นักศึกษากลุ่มที่สี่

"บันทึกกิจกรรมในชั้นเรียน"

หัวข้อ "การประเมินความเสี่ยงต่อโรคฟันผุ"

เช้าวันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม เป็นวันที่อากาศแจ่มใส ใกล้จะถึงวันพ่อแห่งชาติ นักศึกษาหลายคนต่างคุยกันถึงการเดินทางกลับบ้านอย่างสนุกสนาน และเริ่มบทเรียนด้วยความตั้งใจ

ในวันนี้อาจารย์ได้สอนเราเกี่ยวกับ “ การประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ” พูดถึงขั้นตอนการทำทันตกรรมป้องกันอย่างละเอียด  ทำให้เรามีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น  และนอกจากนี้ยังมีปฏิบัติการให้เราทำ  ซึ่งเพื่อนทุกคนต่างก็ตื่นเต้นและอยากที่จะทราบว่าน้ำลายของตนเป็นอย่างไร มีปริมาณเชื้อมากน้อยแค่ไหน 

ในขณะที่เพื่อนๆกำลังดีใจกันอยู่นั้น  อาจารย์ก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ ในการวัดผลของปริมาณเชื้อในน้ำลายจะต้องมาดูผลทดลองเป็นเวลา 3 วันติดกัน”  พออาจารย์พูดจบทุกคนต่างก็ออกเสียงพร้อมกันว่า “ห๊า....!!!”  และตามมาด้วยเสียงอันอื้ออึงว่า “จะทำยังไงดี!?”, “ซื้อตั๋วกลับบ้านไว้แล้ว!!”, “พ่อเราจะมารับอ่ะ!!” ฯลฯ แล้วทุกคนก็ทำหน้าเศร้าสร้อย  เมื่ออาจารย์ย้ำอีกทีว่า “กำหนดการมีอยู่ในคู่มือปฏิบัติการ  ซึ่งได้แจกไว้ให้ตั้งแต่ต้นเทอมแล้ว”  เมื่อได้ยินดังนั้นพวกเราก็ตระหนักได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของพากเราเอง  และแล้วก็เหมือนนางฟ้าและเทวดามาโปรดเมื่ออาจารย์บอกว่า “เดี๋ยวจะหาวิธีแก้ปัญหาอีกที” พวกเรารู้สึกซาบซึ้งที่อาจารย์เข้าใจและช่วยเราแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

จากนั้นเราก็ได้เรียนรู้การนำข้อมูลต่างๆมาประเมินผลและนำไปวิเคราะห์ในโปรแกรม Cariogram และอาจารย์ก็เล่าถึงประวัติของ Cariogram เป็นโปรแกรมที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย Prof. Douglas Bratthall  ซึ่งโปรแกรมนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อวิชาชีพของพวกเรา  และพวกเราก็ประทับใจ Prof. คนนี้ที่พยายามคิดค้นและเผยแพร่ให้พวกเราสามารถเข้าไปโหลดใช้กันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

นอกจากนี้ Prof. Douglas Bratthall ก็ได้ประดิษฐ์คิดค้นชุดทดลองอย่างง่ายที่ช่วยให้ทำการทดลองได้สะดวกมากขึ้น  ทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง  ทำให้เราได้คิดว่าเราเองก็สามารถประดิษฐ์คิดค้นสิ่งที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาได้  และยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เรายังไม่รู้  และถึงเวลาที่เราต้องเรียนรู้อย่างจริงจังได้แล้ว

เมื่อถึงท้ายชั่วโมงอาจารย์ก็ได้บอกว่าปฏิบัติการนี้อนุโลมให้พวกเรามาดูผลการทดลองในวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค. แล้วพี่เจ้าหน้าที่จะทำการหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อไว้  และกลับมาดูผลอีกทีในวันอังคารที่ 7 ธ.ค. ทำให้พวกเราทุกคนได้กลับบ้านในช่วงหยุดวันพ่อแห่งชาติ  ทุกคนต่างก็ดีใจเป็นอย่างมาก

สุดท้ายนี้พวกเรารู้สึกประทับใจอาจารย์อาริยาที่ช่วยแปลคู่มือ Cariogram จากภาษาอังกฤษที่เราไม่คุ้นเคย เป็นภาษาไทย  ทำให้พวกเราสามารถใช้โปรแกรมนี้ได้ง่ายมากขึ้น  และขอบคุณอาจารย์และพี่เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ให้ความรู้ ให้ข้อคิด และให้คำแนะนำตลอดการทำปฏิบัติการในวันนั้น

แอ๊บแบ๊วหลั่นล้า

เพื่อที่เหลือมา Update ด่วน

อารมณ์ค้างงงง

อยากอ่านต่อแล้วเฟร้ยยยยย...

^________^

นักศึกษากลุ่มที่สิบ

"บันทึกกิจกรรมในชั้นเรียน"

หัวข้อ "Table Clinic"

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553

วันนี้ตามตารางเรียนวิชา preventive บอกไว้ว่าเราจะต้อง present งานให้อาจารย์ฟัง หลังจากที่ได้เคสคนไข้จากอาจารย์ที่ปรึกษา แล้วศึกษาหาข้อมูลทันตกรรมป้องกันให้คนไข้แล้วเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ช่วง 8.00 - 9.00 น. เป็นช่วงเวลาที่อาจารย์เผื่อเอาไว้ให้เราซ้อม และจัดโต๊ะเพื่อเตรียมพร้อมในการ present แต่ถ้ามองอีกมุมก็เหมือนจะว่าง ดังนั้นเพื่อนๆหลายคนก็จะมาสายกันบ้าง ก็นะ นานๆทีจะได้ตื่นสายสักนิด ถือซะว่าซ้อมไปหนักแล้วเมื่อคืนก่อน

เมื่อถึงเวลา 9.00 น. อาจารย์หลายๆท่านเริ่มมารวมตัวกัน เพื่อประเมินงาน ตั้งข้อซักถาม พร้อมทั้งเตรียมของรางวัลให้กับกลุ่มที่ทำได้ดีด้วย ว้าวๆ อาจารย์ให้ส่งตัวแทนกลุ่มออกไปจับฉลาก ผลปรากฎว่ากลุ่มเราได้ present กลุ่มที่ 1 สมใจ อิอิ ไม่ใช่ว่าพร้อมกว่ากลุ่มอื่นนะ แต่ด้วยความที่รูปแบบการจัดบอร์ดเราไม่ค่อยสวย เลิศเท่ากลุ่มอื่นเค้า เพราะงั้นยังไงก็ขอรายงานดีๆ ตอบคำถามได้ ตัวเปรียบเทียบน้อยๆไว้ก่อนละกัน

กรณีศึกษาของกลุ่มเรามาจากภาควิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและขากรรไกร คนไข้เป็นเพศชาย อายุ 50 ปี มีแผลที่พื้นช่องปากด้านซ้าย มีประวัติในการดื่มสุราและสูบบุหรี่มากมาเป็นเวลาหลายปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง ต้องทำการตัดชิ้นเนื้อร้ายออก การทำทันตกรรมป้องกันในคนไข้กรณีนี้นับว่าไม่ค่อยยากเท่าไหร่ แต่สิ่งสำคัญคือการให้การรักษาที่จิตใจของคนไข้ ให้กำลังใจคนไข้ เพราะลองนึกว่าถ้าตัวเองเกิดรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเหมือนคนไข้คนไข้มา สิ่งที่แย่ที่สุดในขณะนั้นคงไม่ใช่แผลที่ร่างกายแล้วล่ะ จิตใจต่างหากที่แย่กว่า ไม่รู้จะหลุดลอยไปไหนแล้ว เราต้องสร้างกำลังใจให้คนไข้กล้าพอที่จะต่อสู้กับมะเร็ง รับการรักษาที่ต่อเนื่อง และปรับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งให้ได้

เมื่อถึงเวลารายงานจริงๆเพื่อนๆที่เป็นตัวแทนทำได้ดีเลยล่ะ รักษาเวลารายงานได้ภายใน 10 นาที ตอบคำถามก็ได้กัน ถือว่าเป้นที่น่าพอใจ โล่งเลย โชคดีจริงๆจับฉลากได้กลุ่มแรกเนี่ย พอรายงานกลุ่มของตัวเองเสร็จ ก็นั่งฟังกลุ่มอื่นๆรายงานต่อ

แต่ละกลุ่มก็จะรายงานด้วยตามสไตล์ที่ถนัดของตัวเอง บางกลุ่มมีวีดีทัศน์ประกอบการรายงาน บางกลุ่มมีเต้นเปิดตัว บางกลุ่มเลือกที่จะใช้เพลงบรรเลง บางกลุ่มมีละครหุ่นกระดาษสั้นๆเรียกความสนใจจากทั้งอาจารย์และเพื่อนๆ เรียกได้ว่างานนี้แต่ละกลุ่มได้ปล่อยพลังทางความคิดสร้างสรรค์กันออกมาใส่กันอย่างเต็มที่

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก การรายงานของทุกกลุ่มก็ได้สิ้นสุดลง จนมาถึงช่วงเวลาที่อาจารย์แต่ละท่านได้แสดงความคิดเห็นต่อกิจกรรมนี้ ซึ่งอาจารย์หลายๆท่านได้ชื่นชมในภาพรวมของกิจกรรมในวันนี้ และในฐานะที่เป็นแรงงานเล็กๆแรงงานหนึ่งซึ่งมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ ก็อดที่จะภาคภูมิใจในคำชมนี้ไม่ได้

ในช่วงท้ายของกิจกรรมก็ได้มีการแจกรางวัลสำหรับกลุ่มที่รายงานออกมาได้เป็นที่ถูกใจของอาจารย์ บางกลุ่มได้เป็นของใช้ บางกลุ่มได้เป็นขนมซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจของเพื่อนๆกลุ่มที่ได้รางวัล ถึงแม้ว่ากลุ่มของเราอาจจะไม่ได้รับรางวัลแต่ก็อดไม่ได้ที่จะปลื้มใจแทนเพื่อนๆกลุ่มที่ได้รับรางวัล

รางวัลที่เพื่อนๆได้มานั้นอาจจะไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมากมายนัก แต่คุณค่าของรางวัลอยู่ที่ที่มาของความสำเร็จ ซึ่งก็คือความตั้งใจที่ใส่เข้าไปในงาน กอปรกับความปรารถนาดีที่มีต่อคนไข้ โดยผ่านกระบวนการทุกกระบวนการที่กลั่นกรองออกมาจากหลายๆความคิดแล้วสรุปรวบยอดออกมาให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งหากมาพิจารณากันโดยละเอียดแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนมีอยู่ในทุกกลุ่ม ไม่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท