สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ... ไม่ได้เปิดหัวบทความแบบนี้ซะนาน วันนี้ขอหน่อยละกันครับ ^^
บางที่การกลับมาทำอะไรที่เป็นของพื้นๆ หรือที่เขาเรียกว่า Back to Basic
มันก็รู้สึกว่า Classic ดีเหมือนกันนะครับ... ดูอย่างแฟนชั่นสมัยใหม่นี้ซิครับ
ผมว่า Designer อาจจะมีแรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นในอดีตก็เป็นได้
ลองมาดู... เสื้อสายเดียว กับ เสื้อคอกระเช้า กันครับ ผมว่ามันเป็นอะไรที่คล้ายกันมากเลยทีเดียว
เพียงแค่ Designer เขาทำให้มันดูทันสมัยหน่อยก็เท่านั้นเอง
พูดถึงอดีต... ผมก็นึกถึงประสบการณ์ดีๆในวงเหล้าสมัยที่ผมเรียนวิศวะฯครับ
หลายๆคนอาจจะมองว่าการกินเหล้าเป็นสิ่งไม่ดี ผมก็ไม่เถียงครับ แต่เชื่อไหมครับว่าสิ่งๆมันอยู่ในวงเหล้านี้ละ
ตอนนั้นผมอยู่ปี 2 ครับ เป็นงานเลี้ยงฝ้ายหลังทำกิจกรรมเสร็จ รุ่นพี่เกียร์เก่าได้กลับมาร่วมฉลองด้วย
ระหว่างที่กินนั้นพี่เขาก็จะสอนมารยาทในการเข้าสังคม และเล่าประสบการณ์ในการทำงานที่พี่เขาได้พบเจอมา
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดครับ... เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาครับ ^^
พี่ก้องเล่าให้ผมและเพื่อนๆฟังว่า พี่เขาได้ทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งวิศวกรหัวหน้าช่าง
ซึ่งช่างที่เป็นลูกน้องของพี่เขานั้น จบ ปวช. ไม่ก็ ปวส. แถมอายุมากกว่าอีก ( บัณฑิตใหม่ กับช่างเก๋าๆ
ลองคิดภาพตามนะครับว่าการทำงานมันจะยากลำบากขนาดไหน ) พี่เขาบอกว่า "ตอนแรกที่เข้าไป
ต้องยอมรับก่อนเลยว่าพวกวิศวกรอย่างเรามันสิงตำรา พวกช่างเขาสิงสนามจริง ไปทำงานวันแรกก็เจอลองภูมิเลย
ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ผู้ง่ายๆว่าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามารู้สึกว่าเขาไม่ชอบแล้ว" ผมถามสวนไป "ทำไมเป็นงั้นละพี่"
พี่ก้องตอบ "มันมีวิศวกรหลายๆคนไปเบ่งใส่เขา ถือว่าจบสูงกว่าอะไรแบบนี้ พี่ๆช่างเขาไม่ชอบ"
ผมเลยถามต่อ "แล้วพี่ทำยังไงอะครับ" พี่ก้องเล่าว่า "ช่วงแรกก็อาศัยลักจำเอา เพราะถามเขาก็ไม่บอก จนวันหนึ่งพี่เครียด
เลยออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก มีพี่ช่างคนหนึ่งเดินออกมาพักด้วย ก็มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา กดดันมาก
พี่เลยถามเขาไปว่า เอาบุหรี่ไหมครับ... พี่ช่างตอบกลับมาว่า... ก็ดี แล้วหลังจากวันนั้นชีวิตพี่ก็เปลี่ยนไปเลยหวะ"
ผมถามต่อ "ขนาดนั้นเลยเหรอพี่" พี่ก้องตอบว่า "ก็เออซิวะ.. เชื่อไหมตั้งแต่วันนั้นพวกพี่ๆช่างเปลี่ยนไปเลย ขออะไรได้หมด
จากที่ตอนแรกแถบจะไม่คุยกัน ไม่ชอบหน้า ก็กลายมาเป็นสนิทกันเหมือนพี่เหมือนน้อง พี่มีปัญหาอะไรพี่ช่างก็แนะนำ
แถมยังสอนเทคนิคต่างๆให้อีกเพียบ พี่ก็แชร์ความรู้ในตำราไปให้พวกเขาเหมือนกัน แต่ถ้าทำงานจริงๆมึงจะรู้
ว่าความรู้ในตำรามันใช้ได้จริงไม่ถึงครึ่งหรอก และอย่าลืม... สัมมาคาระวะสำคัญมาก การวางตัวเอาให้เหมาะสม
พี่ไม่เคยคิดว่าพี่เป็นนายของพวกพี่ๆช่างเลยนะ พี่่คิดว่าเขาเข้ามาก่อนเขาก็คือพี่เรา Seniority จำไว้"
(บุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพนะจ๊ะ ^^ )
ตัดมาตรงจุดนี้ครับ หลายๆคนคงสงสัย "เอะ... แล้วพี่ก้องใช้เทคนิคในการขอแบบไหนกันน๊าาาา ???" มาดูกันครับ...
จุดเปลี่ยนของเรื่องนี้อยู่ที่ "บุหรี่ตัวเดียว" แค่นั้นจริงๆครับ เทคนิคที่พี่ก้องใช้คือ "การขอแบบให้ก่อนรับ"
พี่ก้องถามช่างว่า "เอาบุหรี่ไหมครับ" ( การให้ ) หลังจากนั้น... "พี่ช่างก็เปลี่ยนไป ขออะไรก็ได้" ( ได้รับ )
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ประสบการณ์ และเทคนิคต่างๆ พี่ก้องขอพี่ช่างได้หมด การทำงานสะดวกสบายขึ้นเยอะ
แถมยังได้มิตรภาพ และเพื่อนร่วมงานเพิ่มขึ้นอีกเพียบ... เห็นไหมครับ "การให้" นี้มันดีจริงๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ... กับ"การขอแบบให้ก่อนรับ"ในเคสนี้ ใครจะเชื่อครับว่า "บุหรี่ตัวเดียวสามารถซื้อใจคนได้"
นอกเหนือจากนั้นการวางตัวที่เหมาะสมของพี่ก้องก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การขอในครั้งนี้ดูมีภาษีมากขึ้นไปอีก
สังคมจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะครับ ถ้ามีคนคิดที่จะให้ มากกว่าคนที่รอรับ... จริงไหมครับ ^^
แล้วคุณละคิดยังไง
แล้วรุ่นพี่คนนั้นก็เลย "ติดบุหรี่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา" หรือเปล่าครับ?...."บุหรี่ตัวเดียซื้อใจคนได้" ข้อนี้คงต้องคิดหนักหน่อยแล้ว กว่าจะเลิกได้ มันไม่หมู เหมือนขอบุหรี่สูบ นะซิบอกไห่..
เรื่องบุหรี่นี่สำคัญเลยครับ
ในกลุ่มคนสูบบุหรี่จะมีองค์ความรู้เรื่องเหล่านี้และก็เชื่อด้วย
เช่นลักษณะการแกะซองบุหรี่ การจุดไฟ การสูบ หรือแม้กระทั่งลักษณะก้นกรองที่ถูกทิ้ง
คนสูบบุหรี่เค้าจะสังเกตนิสัยพื้นฐานกันจากสิ่งเหล่านี้ แต่ผมก็ไม่รู้มากหรอกครับ
ถ้าดูแล้วใช่เค้าก็จะรู้สึกดีด้วย แต่ถ้ามีอะไรที่มันไม่ใช่อาจทำให้เค้าไม่สนิทใจกับเราไปโดยปริยาย เพราะเค้าคิดว่าเราเป็นคนนิสัยอย่างนั้นครับ
นี้เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน
เป็นการเปิดทางการขอนิดนึง
ไปสู่เรื่องที่สำคัญกว่า
แต่อย่าลืม เหมือนอย่างที่วิชา Strategy ได้สอนเราว่า
การทำอะไรที่เป็นแทคติกเดิม อาจอยู่ได้ไม่นานเกินไป
ฉะนั้น ถ้าเราต้องการให้อีกฝ่ายตื่นเต้นได้เสมอ
โดยไม่รู้ว่า วันนี้เราจะปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นแบบใดนั้น
ก็คงจะดีกว่าการที่ใช้กลวิธีใด วิธีหนึ่งไปตลอดกาล
เพราะมันไม่ได้อยู่นานอย่างที่คิดไว้หรอก
อย่างน้อย ก็ถูกลอกเลียนแบบเอา
ฉะนั้น การเปิดทางการขอนิดนึง หากมีข้อมูลและมีตัวอย่างไว้
หลายๆ เรื่อง น่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยค่ะ
สู้ๆ
j
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
@berger0123 >>> จอง คนแรกอะไรประมาณนั้นป่าวครับ แต่ก็ขอบคุณที่แวะมานะครับ ^^
@ฝนแสนห่า >>> ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพี่เขาติดหรือป่าว แต่ปกติพี่เขาก็สูบอยู่แล้วครับ ประจวบเหมาะกับนายช่าง โดยส่วนมากก็จะสูบกัน แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมไม่ได้แนะนำให้สูบบุหรี่แต่อย่างใด ( ผมก็ไม่สูบครับ สัญญากับพ่อไว้ตั้งแต่เด็กๆเลย ^^ ) เพียงแค่อยากให้เห็นอีกมุมหนึ่งของการขอว่า เออ.. แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ อะไรประมาณนั้นมากกว่าครับ ก่อนโพสก็คิดเยอะอยู่เหมือนกันว่าจะโพสดีไหม แต่มันก็น่าแปลกดีนะครับ ว่าบุหรี่ตัวเดียวมันทำได้ถึงขนาดนี้เลย จึงยกมาเป็นกรณีศึกษาให้เห็นถึงการขอครับ แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และข้อคิดดีๆครับ บุหรี่ติดแล้วเห็นเขาว่าเลิกยากมากๆ อย่าไปลองเชียวนะครับ ^^
@เทพดรุณ >>> ขอบคุณพี่เทพครุณครับ ผมก็เพิ่งรู้จากพี่นี้หละครับ ว่าพฤติกรรมการสูบบุหรี่ก็บอกนิสัยได้เหมือนกัน
@แจ๋วแหวว >>> ขอบคุณพี่แจ๋วแหววครับ ถูกต้องเลยทีเดียวครับ เพราะการให้บุหรี่นี้ จะเกิดจุดเปลี่ยนผมว่าก็แค่ครั้งแรกแค่นั้นละครับ เรื่องต่อๆไปก็ต้องอาศัยอย่างอื่นเป็นตัวช่วยแล้ว จะว่า"บุหรี่ตัวนั้นเป็นใบเบิกทาง"ก็คงจะไม่ผิดซะทีเดียวครับ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาครับ... คอมเม้นทุกคอมเม้นมีค่าจริงๆครับ ทั้งติ ทั้งชม แชร์ประสบการณ์ และให้ข้อคิด
สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ผม มีกำลังใจที่จะการผลิตงานขึ้นมา และยังใช้ในการปรับปรุง พัฒนาตัวในบทความต่อๆไปด้วย
ขอบคุณจากใจจริงครับ ^^
ขอบคุณมากกับบทความนี้น่ะ ครับ
ซึ่งทำไห้รู้ว่า
การที่คนเราจะขออะไรให้ได้นั้น
จะต้องรู้จักการเป็นผู้ให้ก่อน
หวังว่าคงได้อ่านบทความดีๆอีกน่ะ ครับ
สวัสดีปีใหม่อีกครั้งครับท่านเอิร์ท
ให้ บุหรี่ตัวเดียว แล้วคบกันยาวเลย แถวบ้านเรียกว่าสินบนครับ แฮ..
ผมคิดว่าคุณพี่ก้องท่านได้พบตรรกศาสตร์ การเข้าถึงใจของลูกน้องของท่านนะครับ
การสูบบุหรี่เดี๋ยวนี้เหมือนเป็นค่านิยมไปแล้วเนอะ
อย่างเช่นเวลาไปเล่นร้านเกมส์
จะเห็นเด็กมัธยมชอบออกยืนสูบบุหรี่หน้าร้าน
ใครไม่สูบเหมือนไม่แน่จิง อะไรแบบนี้
เค้าคิดว่ามันไม่ดีเลยนะค่านิยมแบบนี้
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ
@นาย ก่อเกียรติ ( กอล์ฟ ) พงศ์พันธุ์ >>> การเป็นผู้ให้เป็นสิ่งที่ดีงาม "มือของผู้ให้ สูงกว่ามือของผู้รับเสมอ"ครับ
@ชาวฝนแปดแดดสี่ >>> 555+ ในทางกฎหมายเรียกว่าสินบน ถูกต้องเลยครับ.. ใช้แล้วละครับ ตรรกชีวิตเลยละ
@~*_PangJung_*~ >>> เป็นค่านิยมที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ครับ แต่ก็ยังมีคนยึดถืออยู่เยอะทีเดียว ก็ได้แต่หวังละครับ ว่าสักวันเค้าจะเลิกกันได้
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับผม ^^
การขอแบบให้ก่อนรับ เป็นวิธีที่ดีครับ น่าสนใจมาก
แต่ถ้าจะขอให้เลิกบุหรี่คงต้องเริ่มจาก "ขอนิดส์นึง" พอได้ไหมครับ??
และถ้าอยากเลิกจริง ๆ เริ่มต้นด้วยการ ทานมะนาว ดูนะครับ
เคี้ยวมะนาวพร้อมเปลือกจะทำให้สูบบุหรี่ไม่อร่อยและไม่อยากสูบอีก
ลองนำไปใช้ดูนะครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลการขอดี๊ ดี แบบนี้ครับ
การขอแบบให้ก่อนรับ"ในเคสนี้ ใครจะเชื่อครับว่า "บุหรี่ตัวเดียวสามารถซื้อใจคนได้"
เคสนี้ดีมากเลยครับ ผู้บริหารหลายคน อยู่ในองค์กรไม่ราบรื่น เพราะไม่เคยคิดที่จะซื้อใจลูกน้อง
บางคนซื้อใจด้วยการพาไปเลี้ยงข้าว แต่ไม่ได้เลี่ยงด้วยใจ ก็ไม่ได้ใจครับ แถมยังมาบ่นอีกว่า หมดไปมื้อละเป็นพัน แต่ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา
บันทึกนี้ ชอบครับ
ขอบคุณบันทึกดีๆครับ