Orn
น.ส. กนกอร ตั้งกุลบริบูรณ์

กล้า ที่ จะ ขอ !


กล้าที่จะขอดูไม่มีอะไรเสียหายค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นเรื่องความกล้าค่ะ หลายๆคนไม่กล้าที่จะขอ แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่เราควรได้หรือมีโอกาสที่จะได้ล่ะก็ ทำไมเราไม่กล้าที่จะขอล่ะ อาจจะได้หรือไม่ได้ แต่มันก็ไม่มีอะไรเสียหายนะคะ (เสียหน้าก็ช่างมัน) ลองกล้าที่จะขอดูนะคะ

          วันก่อนเพื่อนโทรมาหาบอกว่าเพิ่งซื้อรถยนต์คันใหม่ Honda Accord ก็เลยถามเค้าไปว่าได้อะไรเป็นของแถมบ้าง เขาบอกว่าตอนแรกเซลล์ก็แถมให้เค้านิดเดียวมี ประกันภัยชั้น 1 พรบ. ทะเบียน พรม ผ้ายาง และ ส่วนลดเงินสด 10,000 บาท แต่ว่าเขาได้ไปหาข้อมูลใน internet หลังจากที่วางเงินจองไปแล้ว 10,000 บาท ของเวปคนที่ใช้ Accord ในนั้นมีคนที่จองรถเหมือนๆกันมาโพสว่าพวกเค้าได้ของแถมอะไรบ้าง กลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่ได้ชุดแต่งรอบคันด้วย ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 10,000 บาทค่ะ ทำให้เพื่อนดิฉันรู้สึกเสียดาย อยากได้แบบคนอื่นเค้ามั่ง เกิดกิเลสล่ะคราวนี้ >_<  แต่ทำไงได้ล่ะเงินก็จองไปแล้ว !

ดิฉันก็เลยถามต่อว่าแล้วทำยังไง? เธอบอกว่าตอนแรกเธอไม่กล้าที่จะโทรไปขอของแถมเพิ่มเพราะว่าเงินจองก็จ่ายไปแล้ว แต่เพื่อนๆเธอบอกเธอว่าให้ลองโทรไปดูเพื่อว่าเซลล์อาจจะแถมเพิ่มให้ก็ได้ เธอลังเลอยู่ 2-3 วันค่ะ แต่ก็อยากได้ของแถมดังนั้นเธอก็เลยโทรไปหาเซลล์ที่จองด้วย แล้วขอ ขอแถมเพิ่มคือชุดแต่งรอบคัน  ตอนแรกเซลล์บอกว่าให้เพิ่มไม่ได้แล้วมันมีส่วนลดมาแค่นี้ แต่เพื่อนดิฉันก็อ้างไปว่า ในบอร์ด Accord club คนอื่นที่จองรถรุ่นเดียวกันเหมือนกันยังได้เลย เซลล์ตอนแรกทำท่าทางไม่เชื่อ เพื่อนดิฉันเลยบอกว่า “จริงๆถ้าไม่เชื่อคุณก็เข้าไปอ่านดูเลยค่ะ หรือจะเอาเบอร์โทรเซลล์คนนั้นไปด้วยก็ได้ เพราะว่าดิฉันโทรไปถามมาแล้วเซลล์ที่นั่นบอกว่าจะแถมชุดแต่งให้ด้วย ถ้าคุณไม่แถมชุดแต่งรอบคันเหมือนที่ๆอื่นให้ก็จะขอเงินจองคืนแทนละกันค่ะ จะได้ไปจองกับทางโน้นแทน”

ได้ฟังตามนั้นทางเซลล์คนนั้นก็รีบบอกว่าเดี๋ยวจะรีบไปขอผู้จัดการเพิ่มให้ สุดท้ายก็ได้ของแถมตามที่เพื่อนดิฉันขอเพิ่มไปค่ะ

สรุป

การที่เราจะขออะไรนั้นเราก็ต้องมีข้อมูล (กรณีเพื่อนดิฉัน กระทู้ที่คนจอง accord เหมือนกันไปโพส ) หรือเหตุผลที่จะขออย่างชัดเจนค่ะ (คนอื่นที่จองรถเหมือนกันได้แบบนี้แต่เธอไม่ได้) ถ้าเพื่อนดิฉันไม่มีแหล่งอ้างอิงชัดเจนก็คงเอามาอ้างเพื่อขอของแถมเพิ่มไม่ได้  ถ้าเป็นแค่คำพูดลอยๆจะดูไม่มีน้ำหนัก คนฟังจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่

อีกอย่างก็คือ ต้องกล้าที่จะขอค่ะ หลายคนพอจองไปแล้วก็บอกว่าแล้วไปเถอะ เพราะว่าตกลงกันไปแล้ว อายไม่กล้าที่จะขอเพิ่ม แต่ว่าถ้าเรากล้าที่จะขอ ถึงจะได้หรือไม่ได้ มันก็ไม่มีอะไรเสียหายค่ะ เวลาซื้อของ ลูกค้าคือพระเจ้าอยู่แล้ว ขอให้กล้าที่จะขอค่ะ ! ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณควรจะได้อยู่แล้ว บางเรื่องก็ต้องกล้าที่จะรักษาสิทธิ์ของตนเองค่ะ

หมายเลขบันทึก: 328056เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2010 22:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

เป็นเคสตัวอย่างของการชนะอุปสรรคในการขอที่ดีเลยครับ

เพื่อนของคุณเอาชนะอุปสรร เรื่องความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และก็ความกลัวไปได้อย่างสวยงามทีเดียวครับ

กล้าที่จะขอในสิ่งที่เราควรจะได้ครับ.. เพราะว่าการขอนั้น ถ้าได้ก็ดี.. ไม่ได้ก็ไม่เสียหายอะไร

แต่ในกรณีนี้เป็นการรักษาสิทธิครับ ยังไงก็ต้องเอาให้ได้ เป็นเคสที่ดีจริงๆครับ

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ ^^

เคยมีเพื่อนคนนึงทำตอนทำข้อสอบมิดเทอมเขาคิดว่าเขานั้นทำคะแนนได้ดีแน่ๆ แต่พอคะแนนออกมากลับไม่ดี

ตอนแรกเขาไม่กล้าที่จะไปขอดูข้อสอบที่ อาจารย์ตรวจเพราะกลัวอาจารย์จะไม่ชอบหน้า แต่เค้ามั่นใจว่าเขาทำได้แน่ๆ

จึงไปขออาจารย์ดูข้อสอบค่ะ สุดท้าย อาจารย์ตรวจผิดไปข้อนึงจริงๆด้วย อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไรยอมแก้คะแนนเพิ่มให้ ^^

ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องดีๆ

ในเรื่องที่คุณ Orn ได้เขียนมานั้น นอกจาก กล้าที่จะขอแล้ว เพื่อนของคุณ ยังมีข้อมูลที่แน่นอนและชัดเจนอยู่อีกด้วย

แต่เสียดายตรงที่เพื่อนของคุณ ได้รับข้อมูลช้าไปนิดนึงนะครับ ไม่งั้นอาจจะได้ของแถมมากกว่า เนื่องจากมีข้อมูลมากพอที่จะต่อรองได้

พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ผมกลับนึกถึงประโยคคลาสสิคของ ซุนวู ที่ว่า "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง"

^^

ขอบคุณที่แวะมาค่ะ

ก่อนอื่นต้องเริ่มที่ความกล้าก่อนสินะคะ

ถ้าไม่มีความกล้าก็คงจะอดตั้งแต่แรกแล้ว

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ

ใช้หลักจิตวิทยาในการขอค่ะ เป็นการพูดที่ได้ผลค่ะ ต้องมีความกล้าเป็นตัวนำพาก่อน

ขอบคุณค่ะที่แวะมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท