ผู้ป่วยDMมีบุตรรับราชการ2คนคนโตสังกัดกรุงเทพฯซึ่งไม่ขึ้นสิทธิทางการรักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลางคนเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีสิทธิการรักษาเบิกกับกรมบัญชีกลางได้เมื่อมาขึ้นทะเบียนScanลายนิ้วมือแล้วผู้ป่วยมาดำเนินการและใช้สิทธิจ่ายตรงมาเป็นปีแล้วรพ.ได้รับข้อมูลการยกเลิกสิทธิจากกรมบัญชีกลางเมื่อผู้ป่วยมารับบริการได้แจ้งให้ทราบสอบถามข้อมูลไปที่บุตรทั้ง2คนจึงทราบว่าบุตรที่สังกัดกรุงเทพฯได้แจ้งข้อมูลโดยหน่วยงานดำเนินการให้โดยตนเองไม่ต้องการเพราะทราบว่าบิดาต้องมีปัญหาเรื่องสำรองเงินค่ารักษาก่อนแน่นอนแต่ขัดกฏหมายไม่ได้จึงขอรับรองว่าจะสำรองเงินค่ารักษามาให้บิดาเดือนต่อเดือนวันนี้ผู้ป่วยมาตรวจเจ้าหน้าที่แจ้งให้ชำระค่ายาผู้ป่วยไม่พึงพอใจขอใช้สิทธิเดิมถ้าไม่ได้ก็ปล่อยให้ตายไปซะ กรณีเช่นนี้คงมีอีกหลายคน แจ้งผู้ให้บริการทราบว่า อธิบายได้ว่ารพ.ยึดสิทธิการรักษาตาม สปสช.กำหนดหรือต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมติดต่อศูนย์ประสานงานวันเวลาราชการ
วันนี้ 14 ม.ค. 53 เวลา 9.00 น. ผู้ป่วยมา PCU เนื่องจากมีปัญหาเรื่องหู ต้องคุยเสียงดัง เพื่อหาข้อยุติว่าจะช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างไร อยากจะให้ประสานขอใช้สิทธิที่ที่ผู้ป่วยพึงได้
- ผู้ป่วยเคยเป็นข้าราชการครูมาก่อน เข้าใจวิธีการเบิกค่ารักษาพยาบาล ว่าต้องใช้เวลานาน ในกรณีที่ผู้ป่วยมีบุตรที่สามารถเบิกได้จ่ายตรง และได้ดูแลบิดาอยู่ตลอด น่าจะให้ใช้สิทธิที่พึงได้นั้น ควรที่จะประสานกรมบัญชีกลาง หรือ สปสช.
- ผู้ป่วยเล่าว่า ตนรู้สึกด้อยค่า เสียหน้า เมื่อถูกเรียกชื่อให้จ่ายเงิน ซึ่งไม่ได้เตรียมเงินมาพอ เพราะสิทธิเดิมเป็นเบิกได้จ่ายตรง สิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการที่สุด คือการมีคุณค่าในตนเอง และสุดท้ายผู้ป่วยบอกว่าถ้าป่วยหนักต้องส่งต่อ คิดว่าคงไม่มีเงินในการรกษา ก็ไม่ขอไป ขอตายที่บ้านดีกว่า
- ใน Case อย่างนี้ มีวิธีการแก้ปัญหา เช่น ลดค่ายา ค้างชำระ หรืออื่นๆ เหล่านี้ ไม่เกิดผลดีทั้งผู้ป่วย และผู้ให้บริการ จึงเป็นอุทาหรณ์ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะแก้ไขอย่างไร
- คิดว่าน่าจะมีแนวทางแก้ไข ก่อนที่ผู้ป่วยจะมารับยาในคราวหน้า (เดือนกุมภาพันธ์ นะคะ)