จดหมายถึงครู ι ๑๓ มกราคม ๒๕๕๓


สภาวะและศีล

ตื่นขึ้นมาประมาณตีตีห้า สวดมนต์ทำวัตรเช้า เปลี่ยนเสื้อผ้าไปวิ่งออกกำลังกาย วันนี้หนูไปวิ่งออกกำลังกายแต่มืด แต่ก่อนออกไปมีเสียงว่า ไม่ต้องไปวิ่งก็ได้ เดี๋ยวต้องไปประชุมตั้งไกล ไกลขนาดไหนก็ไม่รู้ รถอาจจะติดก็ได้เดี๋ยวไปไม่ทัน แต่อีกเสียงก็บอกว่า แกต้องยึดมั่นในปฏิปทาของตนเองนะ ถ้าทำไม่ได้แสดงว่าไม่เคารพในตนเอง ครูขาหนูรู้สึกเหนื่อยกับการที่ได้ยินเสียงตนเอง แย้งไปแย้งมา ใจหนูก็คร่ำครวญว่าหายใจไม่เป็นสักที พอหนูออกไปวิ่งก็ตั้งใจวิ่ง แต่ลดลงให้เหลือ 1 รอบกระทรวง วิ่งเสร็จกลับมาที่ห้อง ก็มีสารพัดเสียงในหู แกไม่ต้องเขียนบันทึกหรอก เห็นไหมมันสายแล้ว จะเขียนบันทึกเรื่องอะไรก็ยังไม่รู้เลย ใจมันบีบคั้นหนูจึงนั่งลงค่อย ๆ เขียนความคิด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนะตอนนั้น คุยกับตนเอง

เสร็จแล้วก็แต่งตัวไปประชุม หนูสอบถามเส้นทางจาก 184 แล้วเช็คสถานที่จาก website ตัดสินใจนั่งรถเมล์แล้วไปต่อ Taxi ค่ะ

พอไปถึงเจอเพื่อน ๆ ก็คุยกันคึกคัก พอ อาจารย์เริ่มสอนเรื่อง Proactive leader เป็นหลักสูตรการพัฒนาตนเองเพื่อเป็นผู้นำ ซึ่งเป็น อุปนิสัยที่ 1 จาก 7 อุปนิสัย

แต่ครูขา หนูอยากจะบอกว่า ยิ่งฟัง ยิ่งรู้สึกว่า เอ๋า นี่มัน พุทธวิธี แถมเป็นเพียงบางตอนของพุทธวิธี เหมือนที่ครูสอนหนูมาตลอดหน่ะ ครอบและคลุมทั้งหมดที่หนูเรียนวันนี้เลยค่ะ หนูน้ำตาซึมระลึกขอบพระคุณครู ครูให้หนูมาหมดแล้ว สอนหนูมาหมดแล้ว อยู่ที่หนูว่าจะนำมาปฏิบัติได้มากเพียงไหน

ใจหนูอยากจะร้องไห้ ออกมาด้วยความดีใจ อยากจะกดโทรศัพย์หาครู กราบขอบพระคุณครู รู้สึกตัวขึ้นมาว่าโดนอารมณ์ครอบงำ จึงกลับมาหายใจ แล้วจดจ่ออยู่กับการฝึกอบรม

 

ในหลักสูตรเขา  มียกตัวอย่างชายคนหนึ่งชื่อว่า Stone เป็นนักฟุตบอลจากประเทศยากจน ทั้งชีวิต ไม่เคยทำอะไรเตะบอลเป็นอย่างเดียว เขาฝึกฝนตนเอง จนติดทีมชาติ แล้วยุโรปมาเห็นเขาเตะจึงจะซื้อตัวไป เขากำลังจะไปทำสัญญากับลีคยุโรป แต่ประเทศของเขาขอให้มาเตะให้ทีมชาติก่อน ในเมตท์นั้นเขาโดนเสียบมาจากทางด้านหลัง เส้นเอ็นที่เข่าขาด พิการ เล่นฟุตบอลไม่ได้ตลอดชีวิต

 

ในความน่าทึ่งคือ เขาบอกคนที่เสียบเขามาจากด้านหลังว่า

“คุณทำในสิ่งที่ควรทำ ในตอนนั้น ไม่เป็นไรหรอก”

หนูรู้สึกว่า “เป็นการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ”

เขาพลิกวิกฤตเป็นโอกาสโดยการมาเป็นคนสอน เด็ก ๆ แถว ๆ หมู่บ้านเตะฟุตบอล จากเดิมที่เด็กพวกนี้เกเร ติดยา หันมาใส่ใจการเล่นกีฬา ทุกคนมาด้วยใจ แล้วรู้สึกว่า ครูและเพื่อน ๆ ร่วมทีมคือครอบครัว สิ่งที่หนูประทับใจอีกอย่างคือ บทสัมภาษณ์เขาบอกว่า stone ไม่ได้เป็นแค่คนสอนฟุตบอล เขาสอนการใช้ชีวิตด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ เขาสอนเขาทำให้ดู และเขาทำได้ เขาเป็นตัวอย่างที่ดี และเป็นแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ เขาบอกว่า ความรักเป็นสิ่งสำคัญ เด็กทุกคนมาด้วยความรัก เพราะไม่มีค่าตอบแทน

ใจหนูระลึกถึงครู ครูสอนหนูมาตลอดเรื่องความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข เพียงทำอย่างตั้งใจและเต็มที่กับมัน ทุกอย่างที่ครูสอนหนู ครูสั่งให้หนูทำ ครูทำมาแล้ว ทำให้ดูด้วย ทำให้เห็นด้วย

 

หนูมีครูที่เลิศหล้า ที่สุดยอดที่สุดคอยสอนหนูอยู่ใกล้ ๆ อย่างเมตตา คอร์สพัฒนาตนเองที่ไหน ก็เทียบไม่ได้ แต่สิ่งที่หนูได้เรียนรู้ในตนเองในวันนี้คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านเมตตาสอน สิ่งที่พ่อแม่ ครูบาอาจารย์พาดำเนินมา สิ่งที่ครูเคี่ยวเข็ญหนู มันคือ เส้นทางแห่งการพัฒนาตนเอง ที่แท้จริง

 

กว่าจะเลิกอบรมก็ประมาณหกโมงเย็น ออกมาจากห้อง หนูโทรหาอาจารย์ สอบถามความเป็นไปอย่างรู้สึกห่วงใย ท่านบอกว่า ท่านไม่ค่อยสบาย อากาศเปลี่ยน เมื่อวันอาทิตย์ก็เหมือนกัน พี่เห็น Miss call ตอนเย็น หนูถามท่านว่าเป็นไงบ้าง แสดงว่าไปงานศพแล้วไม่สบายกลับมาเลยเหรอค่ะ ท่านตอบว่า “เปล่าเมื่อวันอาทิตย์ พี่ทำ Lab” แล้วเราก็พูดคุยเรื่องอื่น ๆ กัน จนสัญญาณไม่ค่อยดีจึงวางสายไป

หนูมีน้องชายคนหนึ่งขับออกมาส่งที่มหาวิทยาลัยเกษตร แม้การจราจรจะติดขัด แต่น้องท่านใจเย็นและเมตตาเล่าเรื่องในครอบครัวให้ฟัง ซึ่งหนูฟังแล้วประทับใจมาก ๆ เขาพึ่งแต่งานเมื่อตุลาคมที่ผ่านมา เขาเล่าว่าแม้เขาจะเสียพ่อไปตั้งแต่ ม. 4 แต่เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจ เพราะเหมือนตลอดชีวิตที่อยู่กับพ่อแม่มา เป็นชีวิตที่อิ่มเต็มมาก ๆ เหมือนท่านได้ทำทุกอย่างที่ท่านตั้งใจจะทำ และผมก็เหมือนกัน หนูฟังแล้วสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นภายในใจของน้องชายคนนี้ เล่าถึงครอบครัวของตนเองด้วยความรักและใจที่อบอุ่น

เราแยกกันที่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตร หนูเดินทางต่อมาที่หอพัก หนูใช้เวลาเกือบ ๆ ชั่วโมงครึ่ง กว่าจะถึงหอพัก สำหรับหนูใจรู้สึกอึดอัดค่ะ แว๊บระลึกถึงครูก็บอกตนเองว่า “หายใจสบาย อยู่เหนืออารมณ์อย่าให้อารมณ์มาครอบงำ เราแก้ไขอะไรไม่ได้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน แต่ไม่ทุกข์กับมัน อยู่อย่างไม่เป็น”

 

กลับมาถึงหอใจเปิดประตูห้องเหมือนหนูได้สัมผัสไอแห่งความอบอุ่นสบาย หนูนั่งลงทำวัตรเย็นด้วยความตั้งใจ ประหนึ่งหนูหนีร้อนมาพึ่งเย็น ทำสมาธิภาวนาใจโล่งสบายแล้วก็มานั่งถอดบทเรียนส่งการบ้านครูก่อน

 

ครูขา หนูรักพระพุทธเจ้า หนูรักพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และหนูรักครูค่ะ หนูไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้ใจหนูรักและระลึกถึงบุญคุณของท่านมาก ๆ

 

ชีวิตวันนี้เหมือนไปเผชิญอะไรเยอะ ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ทั้งพายุอารมณ์ ตนเอง พายุอารมณ์ผู้อื่น หนูพยายามมีสติอยู่กับลมหายใจให้ได้ ลมหายใจช่วยหนูได้มากค่ะวันนี้ แม้จะไม่ได้ตลอดแต่ทุกครั้งที่รู้สึกว่าเผลอหรืออึดอัด ลมหายใจเป็นที่พักพิงที่อบอุ่นใจสำหรับหนูค่ะ กราบขอบพระคุณครูค่ะ

 

ศีล

  1. วันนี้หนูยังเพ่งโทษตนเองอยู่ค่ะ มันสั้นลง แต่ก็มาบ่อย ๆ เพ่งโทษคนอื่นวันนี้มีมากเพราะเจอคนเยอะ หนูใช้ความอดทนกับความรู้สึกที่บีบคั้น
  2. ไม่ได้ลักทรัพย์ใคร ไม่ได้หยิบของที่เจ้าของไม่ได้ให้
  3. ไม่ได้แย่งแฟนใคร
  4. ข้อวัตรวันนี้ตั้งใจทำเต็มที่ค่ะ แต่ไม่ได้วิ่งออกกำลังกายตอนเย็นเพราะกลับมาถึงห้องสองทุ่มกว่า ๆ หนูได้เรียนรู้ศีลข้อนี้เพิ่มว่า ถ้าไม่ซื่อสัตย์ก็ผิดศีลข้อนี้เช่นกันค่ะ
  5. ไม่ได้ดื่มเหล้า แต่ก็ยังเผลอทำอะไรตามอารมณ์อยู่ค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 327617เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2010 21:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท