นิ้วชี้ข้างขวา::การจัดการความเสี่ยงแบบแนบเนื้อ

งานต่างๆ มีการพัฒนากระบวนการจากการพบปัญหา จากการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ระบบคุณภาพดำรงค์อยู่ได้

พรุ่งนี้จะมีการลงทะเบียนของนักศึกษาใหม่อย่างที่ได้เขียนไว้เรื่อง การเตรียมการสำหรับการลงทะเบียนนักศึกษา

วันนี้ผู้เกี่ยวข้องมาจัดพื้นที่สำหรับลงทะเบียนนักศึกษาที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ บริเวรที่จัดไว้สำหรับ

การเก็บลายนิ้วมือนักศึกษา เพื่อระบุตัวตนและให้รหัสผ่านสำหรับใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งเราเรียกกันว่า PSU Passport  

มีป้ายระบุไว้ที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือว่า

ใช้นิ้วชี้ข้างขวา ดิฉันก็สงสัยเป็นที่ยิ่งว่าทำไมต้องบังคับเป็นนิ้วชี้ข้างขวา เพราะปกติการใช้ลายนิ้วมือใช้มือไหนนิ้วไหนก็ได้ ด้วยความอยาก สอด รู้อยาก สอด เห็น เลยไปสอบถามน้องแอ๋วผู้รับแต่ผิด ไม่ค่อยได้รับชอบ ;) ว่าจะเป็นการจำกัดสิทธินักศึกษาหรือเปล่าเนี่ย แล้วถ้าไม่มีนิ้วชี้ขวาล่ะทำไง (กวนแบบนี้คนถามน่าจะโดนของแข็งกลับมาบ้างนะ;))

น้องแอ๋ว ก็แถลงความจริงออกมา เรื่องมันยาวนะพี่ พี่อยากรู้เหรอ

เมื่อก่อนเราให้ User name และ Password ใช้รหัสผ่าน แจกเป็นกระดาษ แจกตอนเด็กมาลงทะเบียนเด็กจะได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ทันที

ปัญหา พอถึงเวลาต้องใช้ เด็กทำกระดาษที่เราแจกหาย บางคนจำไม่ได้เลยว่าได้อะไรไปบ้างตอนลงทะเบียนต้องมาที่ศูนย์ฯขอให้ออกรหัสให้ใหม่ ทุกช่วงที่ลงทะเบียนจะมีคิวขอรหัสใหม่ยาวเหยีด

เราแก้ปัญหาเป็น แจกรหัสเหมือนเดิม แถมแจ้งเด็กว่าเก็บไว้ให้ดี ถ้าหายใช้งานระบบคอมฯไม่ได้ ต้องเสียตังค์ค่าออกรหัสใหม่ 50 บาทเชียวนา

ปัญหา เทอมนั้นเงินรายได้เยอะมาก เพราะเด็กก็ยังทำหายอยู่ แถวขอรหัสใหม่ยังยาวเหมือนเดิม

เราแก้ปัญหาเป็น ใช้เก็บลายนิ้วมือ แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่นักศึกษาต้องการรหัสใหม่ ก็มาจิ้มนิ้วที่เครื่องที่จัดไว้ให้ เครื่องจะให้รหัสอัตโนมัติ

ปัญหา เด็กมาบอกว่าเครื่องเสีย มันไร้จักลายนิ้วมือผม ตรวจสอบไปมา ปรากฏว่าตอบเก็บข้อมูลลายนิ้วมือ ให้นิ้วหัวแม่มือขวา พอมาขอรหัสใหม่ดันใช้นิ้วชี้ซ้าย  น้องจำไม่ได้ว่าตอนเก็บลายนิ้วมือใช้นิ้วอะไร   อ้าว

เราแก้ปัญหาเป็น

เราแก้เป็นติดบังคับไว้เลยว่า ใช้นิ้วชี้ขวา เป็นไงพี่เข้าใจมั๊ยคะ ;)

อ้อ.......เรื่องมันเป็นเช่นนั้น มันมีพัฒนาการ  ดีค่ะพี่ชอบเรื่องยาวๆ  อิอิอิ เรื่องนี้เป็นการจัดการความเสี่ยงของผู้ปฏิบัติโดยแท้เชียวนา