ในดินแดนคล้ายลักษณะด้ามขวานตอนใต้ของอาณาจักรสยามประเทศ ขนาทิศตะวันออกด้วยแผ่นน้ำสีเขียวมรกตของทะเลจีนใต้ ที่เชื่อมต่อกับมหาสมุทรแปซิฟิค ส่วนฟากตะวันตกของแผ่นดินคาบสมุทรแห่งนี้ เป็นระลอกน้ำสีครามเข้มของทะเลอันดามัน ผืนน้ำต่อเนื่องกับมหาสมุทรอินเดียที่ทอดเงาเวิ้งว้างสงบเงียบในยามปลอดคลื่นลมจากมรสุม ใต้เส้นรุ้งที่ ๑๒ องศา ๕๐ ลิปดาเหนือ ตัดกับเส้นแวงที่๙๘ องศา ๓๐ ลิปดาตะวันออก ประกอบขึ้นด้วยภูผาธรรมชาติ ๓ ตอนที่ทอดยาวเหยียดครอบคลุมพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในทักษิณรัฐ เรื่อยลงไปจนจรดช่องแคบมะละกา ...โดยภูผาตอนบนเป็นเทือกเขาตะนาวศรีตอนปลายหรือทิวเขาภูเก็ต มีพื้นที่อาณาเขตที่เชื่อมมาจากมะริด-ตะนาวศรี ครอบคลุมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ผ่านอำเภอไชยา ท่าฉางและคีรีรัฐนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานี....ขณะที่ภูผาตอนกลางเป็นเทือกเขาหลวงหรือเทือกเขานครศรีธรรมราช ผ่านรอยต่อของอำเภอกาญจนดิษฐ์ และเมืองสุราษฎร์ธานี กับจังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูลและบางส่วนในอำเภอสทิงพระกับระโนด จังหวัดสงขลา ..ส่วนภูผาตอนล่างเป็นเทือกเขาสันกาลาคีรีครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและประเทศมาเลเซีย
สำหรับภูผาตอนกลางที่ทอดผ่านจังหวัดกระบี่เป็นเทือกเขาพนมเบญจา มีลักษณะสลับซับซ้อนสูงๆต่ำๆ เต็มไปด้วยสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด ลำธาร น้ำตกและทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะความชุ่มฉ่ำจากละอองน้ำที่พริ้วกระจายตามกระแสลม บริเวณใกล้สายธารของน้ำตกที่ตระการตาตระการใจหลายต่อหลายแห่ง อาทิ น้ำตกคลองแห้ง สูงเกือบ ๕๐๐ เมตร จากยอดสูงสุด ของกระบี่นาม “เทพเบญจา” น้ำตกสะแดที่กระแสน้ำกระจายจากหน้าผาสูงเป็นม่านกำแพงน้ำ กระทบแสงอาทิตย์เกิดแสงระยิบระยับของประกายสีรุ้งและน้ำตกห้วยโด้ สูงหลากหลายชั้น โดยแต่ละชั้นประกอบด้วยแอ่งน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาดน่าแหวกว่าย ในชื่อสมนามว่า วังเทวา วังศก วังจาน ฯลฯ
มนต์เสน่ห์และความพิลาสของธรรมชาติคอยการเยี่ยมเยียนเชิงอนุรักษ์และสัมผัสกลิ่นไอ สระอโนดาดจำลองจากแดนป่าหิมพานต์สู่เมืองดิน ที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่.......